Page 1 of 1

เปิดคำตอบ...กินวิตามินมากๆ ตายเร็วนะ รู้ยัง

Posted: 15 Jan 2015, 10:52
by brid.ladawan
เปิดคำตอบ...กินวิตามินมากๆ ตายเร็วนะ รู้ยัง?



เรียกได้ว่าเป็นยุคสมัยแห่งการใส่ใจสุขภาพอย่างแท้จริง เพราะปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะหันทางไหนทิศใดก็มักจะเจอะเจอแต่คนออกกำลังกาย เล่นฟิตเนส ปั่นจักรยาน ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่านับเป็นสิ่งที่ดี หากอยู่ในกรอบเกณฑ์ที่เหมาะสมกับร่างกายที่ไม่มากเกินไปและน้อยไป มิเช่นนั้น แทนที่จะแข็งแรง อาจจะง่อยเปลี้ยเสียชีวิตเอาโดยไม่รู้ตัว

อย่างเช่นการรับประทาน “วิตามิน” อาหารเสริมยอดฮิตที่สามารถหยิบจ่ายเพื่อซื้อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เสริมความสวยความงาม ไปจนถึงเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ง่ายๆ ตามร้านขายยาทั่วไป จนกระทั่งแม่ค้าพ่อค้าในโลกออนไลน์พากันประกาศขายกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ดั่งที่เห็นในโฆษณาสรรพคุณทุกวันนี้ โดยที่เราก็ไม่รู้ว่า “ยิ่งทานยิ่งดี” หรือ “ยิ่งทานยิ่งไม่ดี” จะเสียทั้งเงิน เสียทั้งทอง ฟรีแถมเสี่ยงตายหรือไม่

เปิดคำตอบ...กินวิตามินมากๆ ตายเร็วนะ รู้ยัง?



ทั้งนี้ เราควรทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนว่า “วิตามิน” ไม่ใช่ยา แต่วิตามินคือสารอาหารและสารอินทรีย์ที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย แม้ว่าจะทำหน้าที่ช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบการทำงานร่างกาย เพิ่มภูมิป้องกัน ลดไขมันความดันต่างๆ ก็ตามที แต่เพื่อความชัวร์และชัดเจนรายละเอียด ในที่นี้ เราไปฟังเสียงจากปากผู้เชี่ยวชาญกันเลยว่า “จริง-เท็จ” ประการใด

“คือถ้าได้รับวิตามินจากธรรมชาติ ได้จากอาหาร ผัก ผลไม้ มันไม่มีอันตรายใดๆ ไม่มีคำว่าเกิน เพราะร่างกายสามารถขับออกได้ตามธรามชาติ แต่ถ้าเราได้รับวิตามินจากอาหารเสริม ไม่ว่าจะเข้าสู่ร่างกายทางใด กินหรือฉีด ถ้ามากเกินไป มันอาจจะอันตรายถึงชีวิตได้ทั้งนั้น” สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ชี้แจงรายละเอียดในประเด็นที่ว่า ก่อนอธิบายถึงสาเหตุที่มาของข่าวที่แชร์กันในโลกออนไลน์ว่าถ้ากินวิตามินมากๆ อาจทำให้ตายเร็ว

“เหตุผลที่มีข่าวการเข้าใจผิดอย่างนี้ออกมา ก็เพราะคนปัจจุบันนี้ ไม่ได้รับวิตามินจากธรรมชาติ แต่ชอบนิยมซื้อวิตามินในรูปของอาหารเสริมมากิน พอกินแล้วก็กินในจำนวนที่มากจนเกินไป มันก็มีอันตราย”

“คือไม่ว่าจะวิตามินทุกชนิดหรือแร่ธาตุทุกชนิด โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ถ้าคุณกินเข้าไปมากเกิน มันก็อันตรายถึงชีวิตหมด” ที่ปรึกษากรมอนามัย กระทรวงสาธราณสุขย้ำ

“ทั้งนี้อยากให้เข้าใจว่าการรับประทานวิตามินที่ถูกต้อง คือต้องอยู่ภายใต้การสั่งการยินยอมจากแพทย์ เราไม่สามารถรู้เองได้ เราต้องไปตรวจ ไม่ใช่ว่าเราสังเกตเห็นตัวเองเหนื่อยง่าย เพลียง่าย แล้วบอกว่าตัวเราขาดวิตามิน ไม่ใช่ มันผิด เราต้องให้หมอเจาะเลือดตรวจก่อนถึงจะทราบได้ว่าเราขาดหรือไม่ขาดอะไรอย่างไร

“อย่างที่นักโภชนาการเขาส่งเสริมให้รับวิตามินจากอาหารธรรมชาติที่ได้จากผักและผลไม้ เพราะแค่เรารับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ใน 1 มื้อ ใน 1 วัน ทุกมื้ออาหารคุณต้องมีผัก แล้วอาหารว่างคุณต้องมีผลไม้ นั่นแหล่ะคุณได้วิตามินครบแน่นอน เพราะวิตามินมันจะอยู่ในผักและผลไม้มากที่สุด เราก็จะได้วิตามินอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้ว ดังนั้น ถ้ารับประทานอย่างนี้ต่อเนื่อง เราก็ไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมเลย

“ยกเว้นผู้ที่มีความบกพร่องในการรับสารอาหารหรือผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น

1.หญิงตั้งครรภ์ เพราะหญิงตั้งครรภ์ต้องการวิตามินบางตัว เช่น โฟเลท ไอโอดีน ธาตุเหล็ก สูงกว่าปกติ สูงกว่าคนธรรมดา ซึ่งแน่นอนว่าอาหารจากธรรมชาตินั้นไม่พอต่อร่างกาย ก็เลยต้องรับจากอาหารเสริมเข้าไป

2.ผู้สูงอายุ ผู้มีภาวะขาดสารอาหารหรือรับประทานสารอาหารไม่เพียงพอ เพราะระบบการย่อยและดูดซึมไม่ดี

3.เด็กเล็ก ที่ไม่เจริญอาหาร หรือได้รีบน้ำนมคุณแม่ไม่เพียงพอพอ อันนี้คุณหมดเขาก็จะสั่งวิตามินเสริมให้ทาน ก็ต้องอยู่ในการควบคุมการดูแลของแพทย์ ไปซื้อมากินเองสุมสี่สุมห้า ไม่ได้

“เราเป็นคนแข็งแรงร่างกายปกติ ไม่มีปัญหาแล้วมานั่งกินวิตามิน มันไม่ใช่ คนที่กินวิตามินส่วนมากทุกวันนี้เพราะคิดว่าตัวเองกินอาหารไม่พอ คิดว่าตัวเองทำงานหนัก มีคนทักว่าหน้าเหี่ยว มีคนทักว่าโทรม แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ เพลีย ไปเดาเอาเองว่าตัวเองขาดวิตามิน”

ทั้งนี้นอกจากวิตามินในรูปแบบอาหารเสริม หากรับประทานในปริมาณมากๆ ติดต่อกันจะเป็นอันตรายเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตแล้ว จากคำโฆษณาชวนเชื่อในเรื่องการรับประทานวิตามินแล้วจะสวยงามตามราคาที่สูงริบยังไม่เป็นความจริงอีกด้วย

“เรื่องรับประทานแล้วสวยงามฟันธงเลย มันก็แค่โฆษณาโอเวอร์ เราก็เห็น อย.ไล่ตามจับเยอะแยะไปหมดพวกอาหารเสริม แต่เราก็ยังไปเชื่อ เปลืองเงินเปลืองทองไปซื้อมากิน ในที่สุดแล้วมันก็ไม่เกิดประโยชน์แล้วก็แพงด้วย

“คือถ้าคุณจะรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมเพื่อความสวยความงาม ทุกวันนี้ยังไม่มีงานวิจัยชิ้นใดออกมาบอกว่า คุณกินวิตามินเม็ดใดเม็ดหนึ่งไปแล้ว หน้าคุณจะสวยปิ๊งหรือผิวพรรณแวววับ วงการแพทย์ยังไม่มีระบุ เพราะวิตามินเวลารับประทานเข้าไป มันไม่สามารถจะทำงานในร่างกายได้ลำพังเพียงวิตามินอย่างเดียว แม้แต่วิตามินจากธรรมชาติ ก็จะต้องพึ่งพาไปทำงานร่วมกันกับสารอาหารอื่นๆ ทำงานร่วมกับโปรตีน คาร์โบไฮเดรต แร่ธาตุและไขมัน วิตามินตัวเดียวไม่สามารถทำให้เราสวยปิ๊งขึ้นมาได้

“และการที่จะทำให้ความสวยความงามเกิดขึ้นกับเรา มันไม่ได้เกิดจากปัจจัยใดปัจจัยเดียว การจะทำให้ผิวสวย การจะทำให้หน้าผิวเต่งตึง ทำให้ขาว ไม่มีรอยย่น วิตามินตัวเดียวสู้ไม่ได้ เราต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่อย่างที่บอก”


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 29 ธันวาคม 2557