กสิกรไทยคาดกนง.ตรึงดอกเบี้ย2%ถึงสิ้นปี

[brid.ladawan]

?กสิกรไทยคาดกนง.ตรึงดอกเบี้ย2%ถึงสิ้นปี?
แบงก์กสิกรไทยชี้ไทยเผชิญความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก ขึ้นดอกเบี้ยเฟดไม่มีผลต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายเหตุอีซีบี-บีโอเจยังใช้คิวอีกระตุ้นศก. หวั่นน้ำมันลงมากเกินไปเกิดปัญหาเงินฝืด


นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยในงานสัมมนา"ทิศทางค่าเงินและอัตราดอกเบี้ยในปี 58 ว่า ยังมีความผันผวนแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะปรับตัวดีขึ้น แต่ยุโรปและญี่ปุ่นเศรษฐยังมีปัญหาซึ่งต้องรอดูว่าธนาคารกลางยุโรปหรืออีซีบี และธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจจะออกมาตรการคิวอีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ ส่วนเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตเพียง 3.5% ในช่วงที่เงินเฟ้อปรับตัวลดลง ขณะที่ส่งออกเติบโต 3% และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่2% จนถึงสิ้นปีนี้เพราะเป็นอัตราที่เหมาะสมดูแลเศรษฐกิจ

“ แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไตรมาส3หรือต้นไตรมาส 4 ปีนี้ แต่ญี่ปุ่นและยุโรปยังต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงเป็นตัวช่วยทำให้เงินทุนไม่ไหลออกมากนัก ซึ่งจะไม่ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่ามากเกินไป โดยประเมินว่าค่าเงินบาทของไทยเฉลี่ยอยู่ที่34.50 บาทต่อดอลลาร์สหัฐเกาะกลุ่มค่าเงินหยวนของจีน ส่วนปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจคือการเร่งรัดการเบิกจ่ายภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างฟื้นฐานรวมถึงการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ”

สำหรับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดงมาอยู่ที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แม้ว่าจะส่งผลดีต่อต้นทุนการนำเข้าน้ำมันลดลงโดยน้ำมันลงทุก 10%ทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้น 0.3% แต่ถ้าลดลงมากเกินไปจะส่งผลเสียต่อราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะพืชผลที่นำไปผลิตพลังงานทดแทนราคาจะตกต่ำ นอกจากนี้มองว่าหากน้ำมันปรับลดลงต่อเนื่องทำให้คนคิดว่าราคาสินค้าในอนาคตอาจถูกลงและชะลอการใช้จ่ายซึ่งจะเกิดปัญหาเงินฝืดแทนเงินเฟ้อได้

นายสมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทย เปรียบเสมือนแพะภูเขาปีนี้โต3-6-4.4% โดยตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจมาจากการลงทุนภาครัฐ ซึ่งหากชัดเจนทำให้ภาคเอกชนขยายการลงทุนเพิ่ม เพราะ การลงทุนจะช่วยผลักดันการบริโภคที่คิดเป็นสัดส่วนกว่า50% ของจีดีพี ส่วนส่งออกโต 2-3% ปัจจัยเสี่ยงคือเศรษฐกิจโลก

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 15มกราคม 2558