ธปท.หนุน "ดิจิตอลแบงก์กิ้ง" รองรับซื้อขายใช้เงินออนไลน์
Posted: 16 Jan 2015, 14:38
ธปท.หนุน "ดิจิตอลแบงก์กิ้ง" รองรับซื้อขายใช้เงินออนไลน์
นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายนโยบายสถาบันการเงิน เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยคาดว่าปี 57 ขยายตัวได้เพียง 0.8% ส่งผลให้สินเชื่อขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงมาก โดยขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพียง 5% ส่วนปี 58 คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวดีขึ้น จะโตได้ 4% ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวของสินเชื่อ “แนวโน้มสินเชื่อที่จะขยายตัวได้ดีขึ้น จะเป็นสินเชื่อที่รองรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนภาคเอกชนที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ ขณะที่สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคมีแนวโน้มชะลอตัวจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง”
นางทองอุไรกล่าวต่อว่า ปีนี้ธนาคารพาณิชย์จะหันไปทำกำไรจากค่าธรรมเนียมมากขึ้น และมุ่งการให้บริการดิจิตอล แบงก์กิ้ง เพื่อลดต้นทุนการให้บริการ และขยายฐานลูกค้า เจาะกลุ่มคนทำงานและคนในเจนเนอเรชั่นใหม่ที่ไม่อยากไปทำธุรกรรมที่ธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งการซื้อขายออนไลน์
ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ไม่มีการเพิ่มค่าธรรมเนียมบริการทางการเงิน แต่เน้นหารายได้เพิ่มจากการออกนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ในฐานดิจิตอล และปริมาณการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาล โดย ธปท.มีแนวทางจะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและป้องกันการทุจริตผ่านโลกออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงเอทีเอ็มและเครื่องเอทีเอ็มให้เป็นระบบชิปการ์ดทั้งหมด.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 16 มกราคม 2558
นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายนโยบายสถาบันการเงิน เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะชะลอตัว โดยคาดว่าปี 57 ขยายตัวได้เพียง 0.8% ส่งผลให้สินเชื่อขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงมาก โดยขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพียง 5% ส่วนปี 58 คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวดีขึ้น จะโตได้ 4% ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวของสินเชื่อ “แนวโน้มสินเชื่อที่จะขยายตัวได้ดีขึ้น จะเป็นสินเชื่อที่รองรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนภาคเอกชนที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ ขณะที่สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคมีแนวโน้มชะลอตัวจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง”
นางทองอุไรกล่าวต่อว่า ปีนี้ธนาคารพาณิชย์จะหันไปทำกำไรจากค่าธรรมเนียมมากขึ้น และมุ่งการให้บริการดิจิตอล แบงก์กิ้ง เพื่อลดต้นทุนการให้บริการ และขยายฐานลูกค้า เจาะกลุ่มคนทำงานและคนในเจนเนอเรชั่นใหม่ที่ไม่อยากไปทำธุรกรรมที่ธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งการซื้อขายออนไลน์
ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ไม่มีการเพิ่มค่าธรรมเนียมบริการทางการเงิน แต่เน้นหารายได้เพิ่มจากการออกนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ในฐานดิจิตอล และปริมาณการทำธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางเศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาล โดย ธปท.มีแนวทางจะเพิ่มการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและป้องกันการทุจริตผ่านโลกออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงเอทีเอ็มและเครื่องเอทีเอ็มให้เป็นระบบชิปการ์ดทั้งหมด.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 16 มกราคม 2558