?มั่นใจอสังหาริมทรัพย์ปี58 ฟื้น?

[brid.ladawan]

?มั่นใจอสังหาริมทรัพย์ปี58 ฟื้น?
"คอลิเออร์" มองตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 58 ฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน แต่ให้ระวังปัจจัยเสี่ยงกระทบความเชื่อมั่น


นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี58 นี้ มองโดยภาพรวมดีขึ้นกว่าปีก่อนแน่นอน แต่ทั้งนี้ ยังต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้ง ว่าจะมีปัจจัยอะไรที่อาจมีผลต่อตลาด หรือความเชื่อมั่นอีกหรือไม่ โดยประเมินว่า ปีนี้ตลาดคอนโดมิเนียมจะเปิดขายมากกว่า 50,000 ยูนิต หรือเพิ่มขึ้น 20% ด้านกำลังซื้อก็น่าจะดีขึ้นด้วย แต่ยังมีปัจจัยลบที่น่ากังวลอยู่บ้าง อาทิ ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ซึ่งมีผลต่อการส่งออกของไทย รวมทั้งการท่องเที่ยว ที่ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ด้านราคาขายนั้น ในพื้นที่ใจกลางเมือง ราคาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องหรือเฉลี่ยตารางเมตรละ 200,000 บาทแล้ว อนาคตอาจมากกว่า 300,000 บาท

อย่างไรก็ดี หลายบริษัทหันไปให้ความสำคัญกับตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น แต่อาจมีจำนวนโครงการไม่มากเท่ากับ 2–3 ปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ในกทม.นั้น ยังคงยึดพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า รวมทั้งทำเลตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่กำลังก่อสร้างอยู่ เนื่องจากปีนี้ยังมีอีกหลายเส้นทางที่รัฐบาลจะเริ่มเปิดประมูลแล้ว ซึ่งน่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยให้ขยายตัวออกไปตามแนวเส้นทางเหล่านั้นมากขึ้น

ด้านตลาดอาคารสำนักงาน ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งราคาค่าเช่า และอัตราการเช่า ก็สูงขึ้นด้วย เพราะมีความต้องการต่อเนื่อง ขณะที่สินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดมีน้อย โดยเฉพาะอาคารสำนักงานเกรดเอ ในเขตศูนย์กลางธุรกิจ ซึ่งราคาที่ดินสูงเกินไป ไม่เหมาะจะพัฒนาอาคารสำนักงาน ส่วนตลาดพื้นที่ค้าปลีกนั้น ยังขึ้นอยู่กับกำลังซื้อในประเทศเป็นหลัก ที่ผู้ประกอบรายใหญ่ก็เน้นขยายช่องทางการสร้างรายได้ไปยังจังหวัดอื่นๆ มากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดหัวเมือง และจังหวัดชายแดน เพื่อรองรับกำลังซื้อจากประเทศเพื่อนบ้าน รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ช่วงปลายปีนี้

“ขณะนี้ มีหลายโครงการที่ปรับเปลี่ยนร้านค้า ให้เหมาะกับรูปแบบการใช้ชีวิตปัจจุบัน ศูนย์การค้าในกทม. ก็หันมาเน้นร้านค้าหรูหรามากขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อสินค้าแบรนด์เนม ส่วนคอมมูนิตี้มอลล์ ยังเป็นรูปแบบพื้นที่ค้าปลีกที่ขยายตัวต่อเนื่องจาก 3– 4 ปี ที่ผ่านมา และเป็นรูปแบบที่มีปัญหามากที่สุดเช่นกัน เพราะบางโครงการไม่ได้รับความนิยม จนต้องปิดตัวไปบ้าง”


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 21 มกราคม 2558