?คาดส่งออกโต1% หลังโดนตัดจีเอสพี?

[brid.ladawan]

?คาดส่งออกโต1% หลังโดนตัดจีเอสพี?
ธปท.รับหลังโดนอียูตัดจีเอสพีสินค้าไทยตั้งแต่ต้นปี กระทบการส่งออกอย่างเห็นได้ชัดเจนทันทีตั้งแต่ไตรมาสแรกนี้

นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ประเมินว่า การที่สหภาพยุโรป (อียู) ตัดสิทธิพิเศษทางศุลกากร(จีเอสพี) ของไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 58 เป็นต้นมานั้น น่าจะเริ่มเห็นผลกระทบต่อมูลค่าการส่งออกของไทยตั้งแต่ไตรมาสแรกนี้เป็นต้นไป ซึ่งธปท.คาดว่า มูลค่าการส่งออกไทยจะโตได้เพียง 1% ซึ่งได้รวมปัจจัยดังกล่าวมาพิจารณาด้วยแล้ว

อย่างไรก็ดี ยังมองว่าผลกระทบต่อการส่งออกไทยน่าจะมีไม่มากนัก เนื่องจากสัดส่วนของสินค้าส่งออกภายใต้สิทธิจีเอสพีไปอียูนั้น มีเพียง 4% ของการส่งออกรวมของไทย ซึ่งส่วนใหญ่เสียภาษีเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2-6% ยกเว้น สัปปะรดกระป๋อง อาหารทะเลแปรรูปเท่านั้น ที่เสียภาษีเพิ่มขึ้นมาก ขณะเดียวกัน สินค้าบางส่วนเป็นสินค้าที่อียูจำเป็นต้องนำเข้าจากไทย อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ รถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในรุ่นที่ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต

อย่างไรก็ดี ในภาพรวมแล้ว ด้านการแข่งขันของไทยอาจค่อนข้างเสียเปรียบประเทศคู่แข่งที่ยังได้รับสิทธิจีเอสพี คือ เวียดนาม อินโดนีเซีย ขณะที่ประเทศคู่แข่งที่โดนตัดสิทธิจีเอสพีไปแล้ว เช่น มาเลเซีย และบราซิล สามารถใช้ประโยชน์ผ่านช่องทางเอฟทีเอ ซึ่งไทยยังไม่บรรลุข้อตกลงดังกล่าวกับยุโรปแต่อย่างใด
นายจิรเทพ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจโลกนั้น มองว่า เป็นการปรับตามช่วงเวลาปกติ ซึ่งธปท.คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่าการปรับประมาณการของไอเอ็มเอฟนั้น ยังคงแสดงให้เห็นการเติบโตที่แตกต่างกันของประเทศกลุ่มพัฒนาแล้ว สำหรับประเด็นที่ไอเอ็มเอฟต้องติดตามในระยะต่อไปคือ ราคาน้ำมันที่ลดลงนั้น มีผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้มากน้อยแค่ไหน แนวโน้มนโยบายการเงินของยุโรปและญี่ปุ่นที่ผ่อนคลายมากขึ้น การให้น้ำหนักกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมากกว่าการเติบโตของจีน เป็นต้น


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 21 มกราคม 2558