?ก.วิทย์เร่งโร้ดแมพบูรณาการภาพถ่ายดาวเทียมฯ เสร็จใน1เดือน?
Posted: 22 Jan 2015, 09:47
?ก.วิทย์เร่งโร้ดแมพบูรณาการภาพถ่ายดาวเทียมฯ เสร็จใน1เดือน?
กระทรวงวิทย์ฯ หนุนบูรณาการใช้งานภาพถ่ายดาวเทียมของประเทศ ลดความซ้ำซ้อน เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำโร้ดแมพตามมติครม.ให้แล้วเสร็จใน1 เดือน
วันนี้(21 มกราคม) ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในแนวทางการบูรณาการใช้งานภาพถ่ายจากการสำรวจระยะไกล ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เสนอ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี ได้กำชับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯให้เร่งจัดทำโรดแมพเทคโนโลยีเพื่ออนาคตสำหรับเรื่องนี้โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือเพื่อกำหนดแนวทางและแผนการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน1 เดือน
ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวถือเป็น 1 ใน 5แผนปฏิรูปของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ คือ การใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.)เพื่อทรัพยากรอันเป็นแนวทางนำไปสู่การจัดสรรทรัพยากรของประเทศอย่างเหมาะสมรวมถึงสามารถวางแผนป้องกันก่อนเกิดภัยพิบัติต่างๆที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.พิเชฐ กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นการบูรณาการร่วมกันจากหลายหน่วยงาน โดยดำเนินการใน 3 ส่วนคือ 1.ระบบคลังภาพถ่ายทางอากาศและภาพจากดาวเทียมแห่งชาติ ซึ่งกระจายตามหน่วยงานต่างๆ แต่จะเชื่อมโยงและให้บริการด้วยมาตรฐานเดียวกัน และ 2. ศูนย์ข้อมูลแนวเขตและรูปลักษณ์ที่มีกฎหมายรองรับเช่น แปลงที่ดินกรรมสิทธิ์ที่ดินของรัฐ ป่าไม้และพื้นที่อนุรักษ์ที่ดินทำกินที่ได้รับอนุญาตผังเมืองและเขตเศรษฐกิจพิเศษอาคาร ระบบสาธารณูปโภค และ3 .ระบบภูมิสารสนเทศเพื่อการติดตามสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงได้ทันต่อเหตุการณ์เช่น ภัยพิบัติ การบุกรุกป่าไม้และที่ของรัฐการเพาะปลูก และคาดการณ์ผลผลิตแหล่งน้ำ มลพิษ และอุบัติภัยทางบกและทะเลการใช้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฯลฯ
ด้านดร.อานนท์ สนิทวงศ์ณ อยุธยาผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(จิสด้า) กล่าวว่า การสร้างศูนย์ข้อมูลแนวเขตและรูปลักษณ์ที่มีกฎหมายรองรับ ได้มีการหารือกันมานาน แล้ว เพื่อลดความซ้ำซ้อนของการใช้ข้อมูลซึ่งจะต้องหามาตรฐานเดียวกันในการกำหนด ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ และราคาถูกลงทำให้สามารถทำเรื่องนี้ได้ง่ายขึ้นรวมถึงมีแทคโนโลยีในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ภายใน1เดือนจะต้องจัดทำโร้ดแมฟหรือแผนที่นำทางให้แล้วเสร็จ ถึงจะบอกได้ว่าจะมีแนวทางในการดำเนินการต่อไปอย่างไร
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 21มกราคม 2558
กระทรวงวิทย์ฯ หนุนบูรณาการใช้งานภาพถ่ายดาวเทียมของประเทศ ลดความซ้ำซ้อน เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำโร้ดแมพตามมติครม.ให้แล้วเสร็จใน1 เดือน
วันนี้(21 มกราคม) ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในแนวทางการบูรณาการใช้งานภาพถ่ายจากการสำรวจระยะไกล ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เสนอ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี ได้กำชับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯให้เร่งจัดทำโรดแมพเทคโนโลยีเพื่ออนาคตสำหรับเรื่องนี้โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือเพื่อกำหนดแนวทางและแผนการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน1 เดือน
ทั้งนี้ข้อเสนอดังกล่าวถือเป็น 1 ใน 5แผนปฏิรูปของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ คือ การใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.)เพื่อทรัพยากรอันเป็นแนวทางนำไปสู่การจัดสรรทรัพยากรของประเทศอย่างเหมาะสมรวมถึงสามารถวางแผนป้องกันก่อนเกิดภัยพิบัติต่างๆที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.พิเชฐ กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นการบูรณาการร่วมกันจากหลายหน่วยงาน โดยดำเนินการใน 3 ส่วนคือ 1.ระบบคลังภาพถ่ายทางอากาศและภาพจากดาวเทียมแห่งชาติ ซึ่งกระจายตามหน่วยงานต่างๆ แต่จะเชื่อมโยงและให้บริการด้วยมาตรฐานเดียวกัน และ 2. ศูนย์ข้อมูลแนวเขตและรูปลักษณ์ที่มีกฎหมายรองรับเช่น แปลงที่ดินกรรมสิทธิ์ที่ดินของรัฐ ป่าไม้และพื้นที่อนุรักษ์ที่ดินทำกินที่ได้รับอนุญาตผังเมืองและเขตเศรษฐกิจพิเศษอาคาร ระบบสาธารณูปโภค และ3 .ระบบภูมิสารสนเทศเพื่อการติดตามสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงได้ทันต่อเหตุการณ์เช่น ภัยพิบัติ การบุกรุกป่าไม้และที่ของรัฐการเพาะปลูก และคาดการณ์ผลผลิตแหล่งน้ำ มลพิษ และอุบัติภัยทางบกและทะเลการใช้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฯลฯ
ด้านดร.อานนท์ สนิทวงศ์ณ อยุธยาผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(จิสด้า) กล่าวว่า การสร้างศูนย์ข้อมูลแนวเขตและรูปลักษณ์ที่มีกฎหมายรองรับ ได้มีการหารือกันมานาน แล้ว เพื่อลดความซ้ำซ้อนของการใช้ข้อมูลซึ่งจะต้องหามาตรฐานเดียวกันในการกำหนด ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ และราคาถูกลงทำให้สามารถทำเรื่องนี้ได้ง่ายขึ้นรวมถึงมีแทคโนโลยีในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ภายใน1เดือนจะต้องจัดทำโร้ดแมฟหรือแผนที่นำทางให้แล้วเสร็จ ถึงจะบอกได้ว่าจะมีแนวทางในการดำเนินการต่อไปอย่างไร
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 21มกราคม 2558