?เอไอเอสเปิดแผน5ปีตั้งเป้าผู้นำบริการดิจิตอล?
Posted: 02 Feb 2015, 10:14
?เอไอเอสเปิดแผน5ปีตั้งเป้าผู้นำบริการดิจิตอล?
เอไอเอสเปิดวิสัยทัศน์ปีนี้ ชูแนวคิดรองรับกระแสดิจิตอล เผยแผน 5ปี ตั้งเป้าเป็นผู้ให้บริการดิจิตอล โดยปีนี้ทุ่มงบกว่า3 หมื่นล้านสานต่อเครือข่าย3จี
วันนี้(29มค.)ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอนบริษัทแอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน)หรือเอไอเอส แถลงวิสัยทัศน์การดำเนินงานปี 2558 โดยชูแนวคิด “LIVE Digital LIVE More”
นายวิทิตลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการเอไอเอสเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเอไอเอสได้ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบสื่อสารให้กับประเทศไทยไปแล้วกว่า240,000ล้านบาท พื้นที่เครือข่ายครอบคลุมกว่า 97% มีฐานลูกค้ากว่า 44 ล้านรายซึ่งมีการโทรพูดคุยกันมากกว่า90ล้านครั้งต่อวัน และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายวันละกว่า 200 ล้านครั้ง
ทั้งนี้คาดว่าในอีก5 ปีข้างหน้า อัตราการใช้งานข้อมูลหรือดาต้าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในสัดส่วน200-400% สมาร์ทดีไวซ์จะขยายตัวกว่า 50ล้านเครื่อง และอุตสาหกรรมต่างๆจะก้าวสู่การนำดิจิตอลมาประยุกต์ใช้อย่างเต็มรูปแบบดังนั้นในปีนี้เอไอเอสวางแผนรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิตอลใน 5 ปีข้างหน้า โดยปรับกลยุทธ์จากการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วไปสู่การเป็นผู้สร้างสรรค์บริการดิจิตอลเพื่อคนไทย ซึ่งได้เตรียมงบลงทุนกว่า 4 หมื่นล้านบาทในปี2558 เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพร้อมพลิกโฉมองค์กรก้าวสู่การเป๊นพันธมิตรกับทุกกลุ่มอย่างเต็มรูปแบบ
ด้านนายสมชัยเลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอไอเอสกล่าวว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมในปีนี้ คาดว่าตลาดผู้ให้บริการมือถือหรือโมบายจะมีการเติบโต 3 % หรือมีมูลค่าประมาณ 230,000 ล้านบาท ส่วนตลาดสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่างๆจะเติบโตประมาณ 10% หรือ 120,000 ล้านบาทขณะที่ตลาดการสื่อสารแบบใช้สายฟิกซ์ ไลน์ จะเติบโตประมาณ15%หรือประมาณ 62,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีเอไอเอสจะมีการขยายเครือข่าย3จีอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มเสาสัญญาณจาก20,000 เสาเป็น 29,000 เสา และพร้อมประมูล 4 จี นอกจากนี้ยังจะพัฒนาคุณภาพเอไอเอสไวไฟสู่การเป็นเอไอเอสซุปเปอร์ไวไฟ ที่มีความเร็วมากกว่าเทคโนโลยี4จีและจะขยายบริการบรอดแบรนด์แบบมีสาย หรือฟิกซ์ บรอดแบนด์ ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดของโลกที่มีความเร็ว 1Gbps โดยเริ่มให้บริการแล้วที่กทม.และปริมณฑล ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้าบริการฟิกซ์ บรอดแบนด์ ดังกล่าวจะเข้าถึงบ้านกว่า 10 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศไทย
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 29 มกราคม 2558
เอไอเอสเปิดวิสัยทัศน์ปีนี้ ชูแนวคิดรองรับกระแสดิจิตอล เผยแผน 5ปี ตั้งเป้าเป็นผู้ให้บริการดิจิตอล โดยปีนี้ทุ่มงบกว่า3 หมื่นล้านสานต่อเครือข่าย3จี
วันนี้(29มค.)ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอนบริษัทแอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน)หรือเอไอเอส แถลงวิสัยทัศน์การดำเนินงานปี 2558 โดยชูแนวคิด “LIVE Digital LIVE More”
นายวิทิตลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการเอไอเอสเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเอไอเอสได้ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบสื่อสารให้กับประเทศไทยไปแล้วกว่า240,000ล้านบาท พื้นที่เครือข่ายครอบคลุมกว่า 97% มีฐานลูกค้ากว่า 44 ล้านรายซึ่งมีการโทรพูดคุยกันมากกว่า90ล้านครั้งต่อวัน และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายวันละกว่า 200 ล้านครั้ง
ทั้งนี้คาดว่าในอีก5 ปีข้างหน้า อัตราการใช้งานข้อมูลหรือดาต้าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในสัดส่วน200-400% สมาร์ทดีไวซ์จะขยายตัวกว่า 50ล้านเครื่อง และอุตสาหกรรมต่างๆจะก้าวสู่การนำดิจิตอลมาประยุกต์ใช้อย่างเต็มรูปแบบดังนั้นในปีนี้เอไอเอสวางแผนรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิตอลใน 5 ปีข้างหน้า โดยปรับกลยุทธ์จากการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วไปสู่การเป็นผู้สร้างสรรค์บริการดิจิตอลเพื่อคนไทย ซึ่งได้เตรียมงบลงทุนกว่า 4 หมื่นล้านบาทในปี2558 เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานพร้อมพลิกโฉมองค์กรก้าวสู่การเป๊นพันธมิตรกับทุกกลุ่มอย่างเต็มรูปแบบ
ด้านนายสมชัยเลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอไอเอสกล่าวว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมในปีนี้ คาดว่าตลาดผู้ให้บริการมือถือหรือโมบายจะมีการเติบโต 3 % หรือมีมูลค่าประมาณ 230,000 ล้านบาท ส่วนตลาดสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่างๆจะเติบโตประมาณ 10% หรือ 120,000 ล้านบาทขณะที่ตลาดการสื่อสารแบบใช้สายฟิกซ์ ไลน์ จะเติบโตประมาณ15%หรือประมาณ 62,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีเอไอเอสจะมีการขยายเครือข่าย3จีอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มเสาสัญญาณจาก20,000 เสาเป็น 29,000 เสา และพร้อมประมูล 4 จี นอกจากนี้ยังจะพัฒนาคุณภาพเอไอเอสไวไฟสู่การเป็นเอไอเอสซุปเปอร์ไวไฟ ที่มีความเร็วมากกว่าเทคโนโลยี4จีและจะขยายบริการบรอดแบรนด์แบบมีสาย หรือฟิกซ์ บรอดแบนด์ ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดของโลกที่มีความเร็ว 1Gbps โดยเริ่มให้บริการแล้วที่กทม.และปริมณฑล ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้าบริการฟิกซ์ บรอดแบนด์ ดังกล่าวจะเข้าถึงบ้านกว่า 10 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศไทย
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 29 มกราคม 2558