Page 1 of 1

“อิเมอร์สัน” โหมรุกตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ ด้วยโซลูชันด้านอินฟราส

Posted: 02 Feb 2015, 16:05
by brid.ladawan
“อิเมอร์สัน” โหมรุกตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ ด้วยโซลูชันด้านอินฟราสตรักเจอร์

อิเมอร์สัน เชื่อตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง หลังนโยบาย Digital Economy มาช่วยกระตุ้นพร้อมกับการเปิด AEC เตรียมส่งตู้ดาต้าเซ็นเตอร์แบบครบวงจรเข้าทำตลาด จับกลุ่มองค์กรขนาดกลาง และเล็ก

นายประสิทธิ์ พัวภัทรกุล บริษัท อิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมการเติบโตของตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย ว่า จากข้อมูลล่าสุดของฟรอสแอนด์ซัลลิแวนด์ ระบุว่า มูลค่าตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยปี 2556 อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท และเคยมีคาดการณ์ว่าในปี 2557 จะเติบโตที่ 15% แต่ด้วยสถานการณ์ และปัจจัยที่เกิดขึ้นอาจทำให้การเติบโตไม่ถึงตามที่คาดการณ์ไว้

“ในปีนี้เชื่อว่าการเติบโตของตลาดดาต้าเซ็นเตอร์น่าจะอยู่ที่ 2 หลักเช่นเดิม จากปัจจัยที่มากระตุ้นหลังจากอุทกภัย ทำให้หลายองค์กรหันมาให้ความสำคัญต่อระบบสำรองข้อมูล ในขณะเดียวกัน การมาของเทคโนโลยีคลาวด์ ก็ต้องมีการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน รวมไปถึงการเปิดเสรีประชาคมอาเซียน (AEC) ไอทีก็จะเข้ามาช่วย ที่สำคัญคือ หวังว่า Digital Economy จะเกิด และจะทำให้ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์เติบโตตามไปด้วย”

สำหรับอิเมอร์สัน ตั้งเป้าการเติบโตในประเทศไทยปีนี้ไว้ที่ราว 25% โดยจะมีรายได้หลักมาจากการขายโซลูชันอินฟราสตรักเจอร์ในระบบดาต้าเซ็นเตอร์ รวมไปถึงชิ้นส่วนต่างๆ ที่นำไปใช้งานอย่างระบบจัดการพลังงาน (Critical Power Management) ที่ปัจจุบันติดตั้งอยู่ในทุกสถานีฐานโทรคมนาคมทั่วประเทศ

“การลงทุนขององค์กรขนาดใหญ่ในปีนี้จะเน้นไปที่การลงทุนในมูลค่าระดับกลางๆ แต่ต้องเกี่ยวเนื่องถึงการรองรับการเติบโตในอนาคต ดังนั้น จึงเชื่อว่ารายได้ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะมาจากองค์กรขนาดกลาง และเล็กที่ต้องการขยายฐานลูกค้า และบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นมากกว่า”

โดย ลูกค้าหลักของ อิเมอร์สัน จะแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆคือ ผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และอินเทอร์เน็ตดาต้าเซ็นเตอร์ ที่ทางอิเมอร์สัน ทำตลาดด้วยตนเอง ในขณะที่ลูกค้าองค์กรต่างๆจะทำตลาดร่วมกับดิสทริบิวเตอร์ และพาร์ทเนอร์ที่เป็นซิสเตมส์อินทริเกเตอร์แทน

ล่าสุด ได้เปิดตัว SmartCabinet ตู้ดาต้าเซ็นเตอร์เอนกประสงค์ขนาด 42U ที่ให้ลูกค้าสามารถนำเซิร์ฟเวอร์ เราเตอร์ สวิตเชอร์ เข้ามาใส่ร่วมกับโซลูชันของโครงสร้างอื่นๆ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทุกที่ จากระบบทำความเย็น และระบบรักษาความปลอดภัยภายในตู้อเนกประสงค์ ส่งผลให้สามารถเคลื่อนย้าย หรือนำไปติดตั้งในสถานที่ใดก็ได้

จุดเด่นของ SmartCabinet คือ การที่เป็นผลิตภัณฑ์หลายภาคส่วนภายใต้แบรนด์เดียว ทำให้ระบบการจัดการ รวมไปถึงการควบคุมสามารถทำผ่านหน้าจอเพียงหน้าจอเดียว ขณะที่ถ้าเป็นแบรนด์อื่น เมื่อมีการนำเซิร์ฟเวอร์ เราเตอร์ ระบบสำรองพลังงาน ระบบระบายอากาศเข้ามาติดตั้ง ก็จะแยกหน้าจอแสดงผลทำให้ยากต่อการควบคุม

“สิ่งที่ SmartCabinet สามารถช่วยลดรายจ่ายขององค์กรที่ต้องการดาต้าเซ็นเตอร์ได้คือ ลดการบริหารพื้นที่ เพราะสามารถนำตู้ไปตั้งเพื่อใช้งานในสถานที่ใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องสร้างห้องขึ้นมารองรับโดยเฉพาะที่สำคัญคือ ถ้าใช้งานในระยะยาวจะสามารถประหยัดได้กว่า 30% เมื่อเทียบกับการซื้ออุปกรณ์แยกส่วนมาใช้งาน แม้จะมีราคาแพงกว่า 10-15%”

ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์
24 มกราคม 2558