Page 1 of 1

แนะเอสเอ็มอีเปิดใจรับยุคตลาดดิจิตอล

Posted: 07 Feb 2015, 16:14
by brid.ladawan
แนะเอสเอ็มอีเปิดใจรับยุคตลาดดิจิตอล
กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี หรือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม น่าเป็นห่วงที่สุดเมื่อเปิดเสรีประชาคมอาเซียน...


กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี หรือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม น่าเป็นห่วงที่สุดเมื่อเปิดเสรีประชาคมอาเซียน...

นายทรงยศ คันธมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด ผู้ให้บริการเว็บไซต์สำเร็จรูปแห่งแรกของไทย กล่าวว่า จากข้อมูลของสมาคมโฆษณาดิจิตอล (ประเทศไทย) ไตรมาส 2 ปี ค.ศ. 2014 ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากร 67.9 ล้านคน โดยมีผู้ใช้งานอินเทอร์ เน็ต 35 ล้านคน ใช้เฟซบุ๊ก 30 ล้านคน ใช้ยูทูบ 26.6 ล้านคน ส่วนการใช้งานเลขหมายโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ 94.3 ล้านเลขหมาย ในจำนวนนี้ 30% ใช้สมาร์ทโฟน โดยแนวโน้มการใช้งานสมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากปัจจัยราคาสมาร์ทโฟนที่ถูกลง ส่งผลให้กลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายทรงยศ กล่าวต่อว่า ข้อมูลข้างต้นทำให้มองทิศทางธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของไทยในปีนี้ได้ดังนี้ 1.ต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือเพียงอย่างเดียวไม่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ซึ่งเรียกว่า โมบาย โอนลี่ (Mobile Only) เป็นกลุ่มที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีอิทธิพลทางการตลาดสูง โดยสร้างเว็บไซต์และการเข้าถึงข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือ 2.ต้องทำการตลาดผ่านสื่อดิจิตอลที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ เพื่อลดต้นทุนทางการตลาด ด้วยการใช้บิ๊ก ดาต้า วิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย 3.ต้องซื้อสินค้าและจ่ายเงินทางออนไลน์ได้ทันที และ 4.ต้องมีการจัดเก็บสินค้าและจัดส่งที่รวดเร็วได้คุณภาพ

ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ที่เข้าสู่การทำธุรกิจแบบออนไลน์แล้วจำนวน 5,000 ราย ส่วนกลุ่มเอสเอ็มอีเข้าสู่การทำธุรกิจแบบออนไลน์แล้ว 2 แสนราย และกลุ่มร้านค้ารายย่อยที่เข้าสู่การทำธุรกิจแบบออนไลน์จำนวน 8 แสนราย โดยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มใหม่ที่เติบโตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาและคนทำงานที่ต้องการหารายได้เสริม

“ปีนี้เป็นปีที่ประเทศไทยเตรียมตัวเข้าสู่การเปิดเสรีประชาคมอาเซียนหรือเออีซีอย่างแท้จริง โดยเว็บไซต์ต้องทำรองรับ 2 ภาษาเป็นอย่างน้อย คือ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จะทำเฉพาะภาษาไทยอย่างเดียวไม่พอ หากเว็บไซต์มีภาษาอังกฤษด้วยจะเป็นการสร้างโอกาสให้กับกลุ่มลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย โดยการเปิดเออีซีจะนำมาซึ่งกลุ่มลูกค้าที่ใหญ่ขึ้น”

นายทรงยศ ระบุว่า เมื่อมีการเปิดเสรีอาเซียนกลุ่มธุรกิจที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ กลุ่มธุรกิจขนาดเอสเอ็มอี เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีหลายคนพึ่งพาทั้งลูกจ้างและผู้ที่เกี่ยวข้อง ถ้าต้องปรับตัวจะกระทบกับหลายส่วน แต่ถึงอย่างไรก็ต้องปรับตัว โดยแนะนำให้ผู้ประกอบการขนาดเอสเอ็มอีเปิดใจรับรู้เรื่องตลาดดิจิตอล เพื่อเตรียมพร้อมที่จะปรับตัว ยิ่งวันนี้ภาครัฐเป็นเจ้าภาพเดินหน้าสู่ “ดิจิตอล อีโคโนมี” หรือเศรษฐกิจยุคใหม่ที่มีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง คงพอทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเอสเอ็มอีหันมาสนใจและตระหนักถึงเรื่องนี้

นายทรงยศ ให้ความเห็นว่า กฎหมาย 10 ฉบับที่ออกมาเพื่อผลักดันเรื่องของดิจิตอล อีโคโนมี พยายามที่จะทำให้การทำธุรกรรมบนอินเทอร์เน็ตครอบคลุมขึ้นซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ที่น่าห่วงคือสินค้าที่เกี่ยวกับดิจิตอล มีเดีย และดิจิตอล คอนเทนต์ ยังต้องจ่ายภาษี 7% ส่งผลให้ราคาสินค้าของไทยแพงกว่าสินค้าจากต่างประเทศ ดังนั้นจะทำอย่างไรให้สินค้าของไทยสู้กับสินค้าจากต่างประเทศได้

สำหรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจของ “เรดดี้แพลนเน็ต” ในปี ค.ศ. 2015 ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนเรื่องของ “ดิจิตอล อีโคโนมี” คือ สนับสนุนผู้ประกอบการด้วยเครื่องมือดิจิตอล ให้ความรู้เรื่องตลาดออนไลน์ และขยายการอบรมไปสู่ผู้ประกอบการในต่างจังหวัด สนับสนุนผู้ประกอบการด้วยโฆษณาออนไลน์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง และสนับสนุนผู้ประกอบการด้านการส่งออกเนื่องจากได้รับผลกระทบมากในปีที่ผ่านมา

ปัจจุบัน “เรดดี้แพลนเน็ต” มีลูกค้าที่เป็นธุรกิจขนาดเอสเอ็มอี 16,000 ราย โดยผลการดำเนินธุรกิจเติบโตปีละ 50% ติดต่อกัน 3 ปีแล้ว ส่วนรายได้แบ่งเป็นบริการเว็บไซต์สำเร็จรูป 30% ให้บริการโฆษณาออนไลน์ 50% ให้คำปรึกษาและวางแผนองค์กรขนาดใหญ่ 15% และฝึกอบรม 5%

หากผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเอสเอ็มอีสามารถปรับตัวและเตรียมพร้อมรับการมาของเศรษฐกิจดิจิตอลได้ เรื่องที่ห่วงก็จะไม่น่าห่วง...

นํ้าเพชร จันทา
@phetchan

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558