นักคิดสิ่งประดิษฐ์รุ่นเยาว์
Posted: 12 Feb 2015, 11:22
นักคิดสิ่งประดิษฐ์รุ่นเยาว์
สำหรับกรณีที่เด็กลุกออกจากเบาะนั่งแต่ยังไม่ลงจากรถ จะมีระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว ด้วยอินฟราเรดอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเด็กลงจากรถเรียบร้อยแล้ว โดยมีรัศมีการตรวจจับ 4 เมตร
นักคิดสิ่งประดิษฐ์รุ่นเยาว์ - ฉลาดคิด
นำเสนอผลงานนักวิจัยรุ่นใหญ่กันมามาก คราวนี้ให้โอกาสน้อง ๆ เยาวชนที่แม้จะอายุยังน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยไอเดียและความคิดสร้างสรรค์
..ที่สำคัญ..คือใกล้ตัวและใช้ได้จริง
อย่างเช่น ผลงาน “เครื่องแจ้งเตือนเมื่อลืมเด็กทิ้งไว้ในรถ” ของน้อง ๆ ชั้น ม.5 จากโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย น้องเกม หรือนายขจรเกียรติ จันทร์เรือง บอกถึงที่มาของผลงานชิ้นนี้ว่า มาจากข่าวการลืมเด็กไว้ในรถบ่อยครั้งและทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ จึงพัฒนาเครื่องนี้ขึ้นมาโดยทำเป็นเบาะแจ้งเตือน สำหรับให้เด็ก ๆ นั่งในรถ ใช้ได้ทั้งรถตู้หรือรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป
หากคนขับรถดับ เครื่องยนต์ แล้วเด็กยังไม่ลุกจากเบาะ จะมีการแจ้งเตือนทันทีทั้งในรูปแบบเสียงและแสง เหมือนกับสัญญาณกันขโมย ปรับระดับความดังได้ตามต้องการ
สำหรับกรณีที่เด็กลุกออกจากเบาะนั่งแต่ยังไม่ลงจากรถ จะมีระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว ด้วยอินฟราเรดอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเด็กลงจากรถเรียบร้อยแล้ว โดยมีรัศมีการตรวจจับ 4 เมตร
ผลงานนี้น้อง ๆ บอกว่าใช้งบพัฒนาไป 3 พันกว่าบาท ติดตั้งง่ายและนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
ส่วนผลงานต่อมาเป็นของน้อง ๆ ชั้น ม.1 โรงเรียนป่าโมงวิทยาคาร จังหวัดอุดรธานี ที่พัฒนาสื่อการเรียนรู้เรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยการทำเป็น “เครื่องชาร์จแบตเตอรี่โซลาร์เซลล์พร้อมระบบติดตามแสงอาทิตย์”
เป้าหมายคือสร้างแบตเตอรี่สำรองสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินนักประดิษฐ์รุ่นจิ๋วบอกว่า ใช้ได้กับมือถือหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชาร์จไฟผ่านยูเอสบีแถมมีระบบติดตามดวงอาทิตย์ ที่หมุนตามได้โดยไม่ต้องใช้เซ็นเซอร์อิเล็กทรอนิกส์แต่ใช้การต่อขั้วไฟฟ้าเข้ากับมอเตอร์แทน ซึ่งยังต่อยอดเป็นนาฬิกาบอกเวลาจากแสงอาทิตย์ได้อีกด้วย
น้อง ๆ บอกว่า ทดสอบแล้วเครื่องนี้สามารถชาร์จไฟแบตเตอรี่ขนาด12 โวลต์ 5 แอมป์ให้เต็มได้ในเวลา 4 ชั่วโมง ชาร์จมือถือ 1700 mA ในเวลา 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีช่องสำหรับทำเป็นตู้เย็นขนาดเล็กสำหรับใช้เก็บยาหรือเครื่องดื่มที่ให้ความเย็น 0 องศาเซลเซียส ได้ในเวลา 10 นาที
นอกจากนี้ยังมี “ชุดสาธิตสมบัติการหักเหด้วยเลเซอร์บนจานหมุน” ของน้อง ๆ ม.5 จากโรงเรียนตะโหมด จังหวัดพัทลุง ที่นำความรู้ด้านฟิสิกส์มาประยุกต์ใช้กับแสงเลเซอร์เพื่อเป็นสื่อการเรียนเรื่องการหักเหของแสง ซึ่งทำให้การเรียนรู้ง่ายขึ้นจากเดิมที่มักใช้ปริซ่ึมในการทดลองเรื่องการหักเหของแสง แต่จะดูยาก และมองไม่เห็นภาพ
และชุด “เตาแก๊สชีวมวลแบบพอเพียง ” ของน้อง ๆ โรงเรียนนาเชือกพิทยาสรรค์ ที่ใช้วิธีการเผาไหม้แกลบหรือชีวมวลอื่น ๆ เป็นเชื้อเพลิงแล้วส่งผ่านก๊าซที่ได้มายังเตาแก๊ส จุดติดให้ความร้อนได้เหมือนกับแก๊สที่ใช้ตามบ้านทั่วไป
ผลงานเหล่านี้น้อง ๆ ได้นำเสนอในการประกวดรางวัลนักคิดสิ่งประดิษฐ์รุ่นเยาว์ ในงานวันนักประดิษฐ์ 2558 ที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ไม่ต้องการันตีด้วยรางวัล...แต่นี่ก็คือเวทีที่ให้โอกาสและจะเป็นก้าวแรกของเยาวชนให้รู้จักคิดและสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยตัวเอง.
นาตยา คชินทร
nattayap.k@gmail.com
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 12 ก.พ 2558
สำหรับกรณีที่เด็กลุกออกจากเบาะนั่งแต่ยังไม่ลงจากรถ จะมีระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว ด้วยอินฟราเรดอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเด็กลงจากรถเรียบร้อยแล้ว โดยมีรัศมีการตรวจจับ 4 เมตร
นักคิดสิ่งประดิษฐ์รุ่นเยาว์ - ฉลาดคิด
นำเสนอผลงานนักวิจัยรุ่นใหญ่กันมามาก คราวนี้ให้โอกาสน้อง ๆ เยาวชนที่แม้จะอายุยังน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยไอเดียและความคิดสร้างสรรค์
..ที่สำคัญ..คือใกล้ตัวและใช้ได้จริง
อย่างเช่น ผลงาน “เครื่องแจ้งเตือนเมื่อลืมเด็กทิ้งไว้ในรถ” ของน้อง ๆ ชั้น ม.5 จากโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย น้องเกม หรือนายขจรเกียรติ จันทร์เรือง บอกถึงที่มาของผลงานชิ้นนี้ว่า มาจากข่าวการลืมเด็กไว้ในรถบ่อยครั้งและทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ จึงพัฒนาเครื่องนี้ขึ้นมาโดยทำเป็นเบาะแจ้งเตือน สำหรับให้เด็ก ๆ นั่งในรถ ใช้ได้ทั้งรถตู้หรือรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป
หากคนขับรถดับ เครื่องยนต์ แล้วเด็กยังไม่ลุกจากเบาะ จะมีการแจ้งเตือนทันทีทั้งในรูปแบบเสียงและแสง เหมือนกับสัญญาณกันขโมย ปรับระดับความดังได้ตามต้องการ
สำหรับกรณีที่เด็กลุกออกจากเบาะนั่งแต่ยังไม่ลงจากรถ จะมีระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว ด้วยอินฟราเรดอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเด็กลงจากรถเรียบร้อยแล้ว โดยมีรัศมีการตรวจจับ 4 เมตร
ผลงานนี้น้อง ๆ บอกว่าใช้งบพัฒนาไป 3 พันกว่าบาท ติดตั้งง่ายและนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
ส่วนผลงานต่อมาเป็นของน้อง ๆ ชั้น ม.1 โรงเรียนป่าโมงวิทยาคาร จังหวัดอุดรธานี ที่พัฒนาสื่อการเรียนรู้เรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยการทำเป็น “เครื่องชาร์จแบตเตอรี่โซลาร์เซลล์พร้อมระบบติดตามแสงอาทิตย์”
เป้าหมายคือสร้างแบตเตอรี่สำรองสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินนักประดิษฐ์รุ่นจิ๋วบอกว่า ใช้ได้กับมือถือหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ชาร์จไฟผ่านยูเอสบีแถมมีระบบติดตามดวงอาทิตย์ ที่หมุนตามได้โดยไม่ต้องใช้เซ็นเซอร์อิเล็กทรอนิกส์แต่ใช้การต่อขั้วไฟฟ้าเข้ากับมอเตอร์แทน ซึ่งยังต่อยอดเป็นนาฬิกาบอกเวลาจากแสงอาทิตย์ได้อีกด้วย
น้อง ๆ บอกว่า ทดสอบแล้วเครื่องนี้สามารถชาร์จไฟแบตเตอรี่ขนาด12 โวลต์ 5 แอมป์ให้เต็มได้ในเวลา 4 ชั่วโมง ชาร์จมือถือ 1700 mA ในเวลา 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีช่องสำหรับทำเป็นตู้เย็นขนาดเล็กสำหรับใช้เก็บยาหรือเครื่องดื่มที่ให้ความเย็น 0 องศาเซลเซียส ได้ในเวลา 10 นาที
นอกจากนี้ยังมี “ชุดสาธิตสมบัติการหักเหด้วยเลเซอร์บนจานหมุน” ของน้อง ๆ ม.5 จากโรงเรียนตะโหมด จังหวัดพัทลุง ที่นำความรู้ด้านฟิสิกส์มาประยุกต์ใช้กับแสงเลเซอร์เพื่อเป็นสื่อการเรียนเรื่องการหักเหของแสง ซึ่งทำให้การเรียนรู้ง่ายขึ้นจากเดิมที่มักใช้ปริซ่ึมในการทดลองเรื่องการหักเหของแสง แต่จะดูยาก และมองไม่เห็นภาพ
และชุด “เตาแก๊สชีวมวลแบบพอเพียง ” ของน้อง ๆ โรงเรียนนาเชือกพิทยาสรรค์ ที่ใช้วิธีการเผาไหม้แกลบหรือชีวมวลอื่น ๆ เป็นเชื้อเพลิงแล้วส่งผ่านก๊าซที่ได้มายังเตาแก๊ส จุดติดให้ความร้อนได้เหมือนกับแก๊สที่ใช้ตามบ้านทั่วไป
ผลงานเหล่านี้น้อง ๆ ได้นำเสนอในการประกวดรางวัลนักคิดสิ่งประดิษฐ์รุ่นเยาว์ ในงานวันนักประดิษฐ์ 2558 ที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. จัดขึ้นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ไม่ต้องการันตีด้วยรางวัล...แต่นี่ก็คือเวทีที่ให้โอกาสและจะเป็นก้าวแรกของเยาวชนให้รู้จักคิดและสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยตัวเอง.
นาตยา คชินทร
nattayap.k@gmail.com
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 12 ก.พ 2558