Page 1 of 1

ไทยพาณิชย์ลดอำนาจผจก.สาขา

Posted: 13 Feb 2015, 14:24
by brid.ladawan
ไทยพาณิชย์ลดอำนาจผจก.สาขา

แบงก์ไทยพาณิชย์ตั้ง “วัลลยา” เป็นหัวหน้าคณุทำงานติดต่อสื่อสารให้ข้อมูลสจล. ลดอำนาจอนุมัติของสาขาในรายการเงินสด-เงินโอนเป็นอำนาจส่วนกลาง

นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยความคืบหน้าบัญชีเงินฝากของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังหรือสจล.ว่า ธนาคารยึดมั่นในการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และไม่ประนีประนอมกับเรื่องทุจริตสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นธนาคารมิได้นิ่งนอนใจได้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยได้แต่งตั้ง นางวัลลยา แก้วรุ่งเรือง รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานกฎหมาย เป็นหัวหน้าคณะทำงานและเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการสื่อสารตลอดจนเป็นผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น

“คณะทำงานชุดนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ต้องการให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบซึ่งธนาคารเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้าและเมื่อประกอบกับผลการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากได้ข้อสรุป ว่าพนักงานของธนาคารมีส่วนร่วมในการทำทุจริตหรือบกพร่องจนก่อให้เกิดความเสียหายธนาคารพร้อมที่จะรับผิดชอบตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม”

นอกจากนี้ธนาคารยังได้ออกมาตรการเพิ่มเติมในระบบการปฏิบัติงานให้รัดกุมมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ตามที่ได้ประกาศไปแล้ว ได้แก่การลดอำนาจอนุมัติของสาขาในรายการเงินสดและเงินโอนมาไว้ที่ส่วนกลางพร้อมทั้งจะออกมาตรการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการควบคุมการปฏิบัติงานสาขาและระบบงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆอีกในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก ส่วนกรณีที่สจล.ได้ขอข้อมูลเอสสารจำนวน 68รายการ แต่ยังขาดอยู่ 39 รายการนั้นเอกสารเป็นข้อมูลลับ และเป็นสลิปการเบิกถอนเงิน และเป็นการยื่นคำขอ จะให้สจล.ตามเวลาที่กำหนดคือวันที่23 ก.พ. 58 ส่วนจะเป็นหลักฐานชี้ได้ว่าใครกระทำผิดนั้นไม่แน่ใจ เพราะยังไม่เห็นเอกสารในมือ

“ความสัมพันธ์กับสจล.ยังไม่ได้ยุติการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งหมด ซึ่งยอมรับว่าการจัดส่งเอกสารให้สจล.ตามที่ร้องขออาจจะล่าช้าบ้างเนื่องจากมีลูกค้าบัญชีธนาคาร 10-20 ล้านคนการทำให้รวดเร็วเป็นเรื่องทำได้ยากต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตามธนาคารแสดงจุดยืนร่วมกับสจล.ว่าจะต้องเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้และธนาคารไม่ปิดบังคนผิดทุกอย่างต้องชัดเจนส่วนจะสงสัยใครยังให้คำตอบไม่ได้ขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน”

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 13 ก.พ 2558