ธปท.เผยสินเชื่อแบงก์โต7%

[brid.ladawan]

ธปท.เผยสินเชื่อแบงก์โต7%

ธปท.ประเมินสินเชื่อธนาคารพาณิชยทั้งระบบขยายตัว 7% หวังสาธารณูปโภค-ลงทุนพลังงาน-ก่อสร้างหนุน

นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.มองว่าแนวโน้มสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ช่วงไตรมาสแรกปีนี้ จะเติบโตในอัตราที่ชะลอลง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่หากเทียบกับไตรมาส 4 ปี 57 จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว แต่ทั้งนี้ ต้องจับตาดูภาพรวมของเศรษฐกิจว่าจะออกมาเป็นอย่างไร โดยขณะนี้ยังระบุไม่ได้ว่าสินเชื่อจะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่า การปล่อยสินเชื่อจะเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจ

สำหรับปี 58 นี้ ธนาคารพาณิชย์ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อทั้งระบบเพิ่มขึ้น 7% จากปี 57 ที่เติบโต 5% โดยมีแรงขับเคลื่อนจากกลุ่มสินเชื่อสาธารณูปโภค ตามความต้องการลงทุนในธุรกิจพลังงาน และกลุ่มธุรกิจก่อสร้าง ที่ยังได้รับอานิสงส์จากการลงทุนของภาครัฐ ในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มอุปโภคบริโภคยังฟื้นตัวช้า จากรายได้ชะลอตัวลง และหนี้ภาคครัวเรือนยังอยู่ระดับสูง ส่วนสินเชื่อธุรกิจในภาพรวมนั้น เชื่อว่ายังขยายตัวได้ แต่ต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจ การลงทุนในโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ

“ธปท.มองว่า ปีนี้จะเห็นการระดมทุนในตลาดหุ้น และออกตราสารหนี้ เพื่อการลงทุนในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่มากขึ้น เนื่องจากต้นทุนดอกเบี้ยยังต่ำ ซึ่งถูกกว่าการกู้จากธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม ธปท.มั่นใจว่า ธนาคารพาณิชย์จะดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในพอร์ตสินเชื่อธนาคารอย่างดี รวมทั้งช่วยประคับประคองให้ผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจไปได้ เพราะที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้สินเชื่อเอสเอ็มอีขยายตัวได้เพียง 2.2% จากเดิมที่ขยายตัวได้ถึง 14.7%”

สินเชื่อส่วนใหญ่ที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยให้เอสเอ็มอีนั้น มี 2 ประเภท คือ กู้เพื่อขยายการลงทุนในระยะต่อไป และกู้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน ส่วนภาพรวมการปล่อยสินเชื่อปีนี้จะติดลบหรือไม่นั้น คงต้องดูภาพรวมทางเศรษฐกิจอีกครั้งก่อน ซึ่งปัจจุบัน ธนาคารพาณิชย์เริ่มระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อในส่วนของการลงทุนขยายกิจการให้เอสเอ็มอีเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย เพื่อต้องการความชัดเจนของเศรษฐกิจ ว่าจะฟื้นตัวหรือไม่

สำหรับการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ในปี 57 ที่ผ่านมานั้น โดยภาพรวมยังมีเสถียรภาพ หรือขยายตัว 5% แต่สินเชื่อขยายตัวชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจ หรือลดลงจากปีก่อนที่โต 11% ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานชะลอลง คุณภาพสินเชื่อโดยรวมทรงตัว แต่ด้อยลงบ้าง ในสินเชื่ออุปโภคบริโภค โดยมีสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) 2.4% จากสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ระบบธนาคารพาณิช์ ได้กันสำรอง และมีเงินกองทุนระดับสูง รองรับผลกระทบเศรษฐกิจที่ผันผวนได้

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 12 ก.พ 2558