ไอเดียน่ารัก! หนูน้อยอินโดทำเครื่องวัดไขมันในนมสด
Posted: 17 Feb 2015, 09:33
ไอเดียน่ารัก! หนูน้อยอินโดทำเครื่องวัดไขมันในนมสด
ด.ช. นูวร์ อาเหม็ด วิบิโซโน (Nur Ahmed Wibisono) อายุ 10 ปี จากโรงเรียนเซอร์ยา บัวนาร์ ประเทศอินโดนีเซีย
สำหรับคุณตอนอายุ 10 ขวบกำลังทำอะไร? วิ่งเล่น? ดีดหนังสติ๊ก ? แต่งตัวตุ๊กตา? แต่สำหรับเด็กชาวอินโดคนนี้อายุ 10 ขวบ เขาคือนักประดิษฐ์ผู้สร้างเครื่องวัดปริมาณไขมันในน้ำนมสด ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันและถูกส่งมาประเทศไทยเพื่อแสดงผลงานระดับชาติในเวทีวันนักประดิษฐ์ ประจำปี '58
ด.ช.นูวร์ อาเหม็ด วิบิโซโน (Nur Ahmed Wibisono) หนูน้อยวัย 10 ขวบจากโรงเรียนเซอร์ยา บัวนาร์ ประเทศอินโดนีเซีย เผยกับทีมข่าว ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า สิ่งประดิษฐ์ที่เขานำมาแสดงในครั้งนี้ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทำมาเพื่อวัดปริมาณไขมันที่มีอยู่ในน้ำนมแบบง่ายๆ ซึ่งทุกอย่างตั้งแต่กระบวนการคิดและลงมือทำเขาเป็นผู้ทำเองทั้งสิ้น โดยมีครูประจำชั้นคอยให้คำแนะนำ
วิบิซิโนประดิษฐ์เครื่องวัดปริมาณไขมันในน้ำนมขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาในสิ่งที่เขาและหลายๆ คนไม่รู้จากข้างฉลาก นั่นก็คือไขมันในน้ำนมสด ที่เขาต้องบริโภคอยู่เป็นประจำว่ามีประโยชน์มากน้อยเพียงใด เมื่อเทียบกับนมผงที่จะมีส่วนประกอบทุกอย่างแสดงไว้ข้างกล่องอย่างชัดเจน
“เด็กๆ ของประเทศอินโดนีเซียจะถูกปลูกฝังให้ดื่มนม นมที่เรากินก็จะมี 2 แบบคือ นมผง และนมสด นมผงไม่มีปัญหาอะไรมีทุกอย่างชัดเจนบอกเราข้างกล่อง แต่นมสดที่เขาชอบกินกลับไม่มีข้อมูลไขมันอยู่เลย ทำให้ผู้ใหญ่ตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะให้ผมกินนมจากที่ไหนถึงจะไม่ต้องเสี่ยงกับปริมาณไขมันที่มากเกินไป ผมเลยอยากทำเครื่องวัดปริมาณไขมันในน้ำนมแบบง่ายๆ เพื่อตรวจสอบนมเองที่บ้าน ด้วยหลักการหมุนเหวี่ยงที่จะทำให้ส่วนประกอบในนมแยกชั้นกันออกมา” วิบิซิโน เผยถึงความเป็นมาของสิ่งประดิษฐ์แก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์
หลังจากได้แนวคิดวิบิโซโนจึงมองหาบางสิ่งที่สามารถทำให้น้ำนมหมุนได้แบบเร็วๆ เขาจึงนึกถึงใบพัดของพัดลม จากนั้นจึงเริ่มนำมอเตอร์พัดลมมาต่อเข้ากับกระบอกตวงที่บรรจุน้ำนมแล้วเปิดสวิตช์เป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้น้ำนมในหลอดเกิดการหมุนอย่างรวดเร็ว จนไขมันและน้ำนมที่ผสมกันอยู่แยกชั้นออกมา ถึงตอนนี้จะอ่านจากกระบอกตวงได้ทันทีว่าปริมาณไขมันที่แยกตัวออกมาจากน้ำนมมีปริมาณอยู่เท่าไร ช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าในที่สุดน้ำนมจากแหล่งไหนถึงจะเหมาะสมแก่เด็กอย่างเขา
“ผมกับเพื่อนๆ ทำสิ่งประดิษฐ์กันเป็นของเล่นอยู่แล้ว โรงเรียนของเราส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักมองสิ่งใกล้ตัวแล้วลงมือทำ ความจริงผมแค่อยากทำเล่นๆ แต่ดันได้รางวัล แล้วก็ดีใจยิ่งกว่าที่ได้มาประเทศไทยด้วย ครั้งนี้ผมมากับชาวอินโดนีเซียอีก 3 คน ผมเด็กที่สุด หรือเด็กที่สุดในงานนี้แล้วก็ว่าได้ ตอนแรกผมก็กลัวนะ แต่หลังๆ ก็สนุกดี ได้เห็นสิ่งประดิษฐ์อีกมากมาด้วย” ด.ช.วิบิซิโนกล่าวอย่างฉะฉาน เนื่องจากได้รับโอกาสในการนำผลงานมาเสนอที่ประเทศไทยภายในงานวันนักประดิษฐ์ที่จัดขึ้นเมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี
ภายในงานวันประดิษฐ์ที่ผ่านมายังมีผลงานนักประดิษฐ์จากประเทศต่างๆ อีก 13 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร, อียิปต์, อิรัก, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, อิหร่าน, มาเก๊า, จีน, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, โรมาเนีย, ฮ่องกง และญี่ปุ่น และยังมีการจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์คิดค้นมากกว่า 700 ผลงาน นอกจากนี้ยังเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบิดาแห่งนักประดิษฐ์ไทยอีกด้วย
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 17 ก.พ 2558
ด.ช. นูวร์ อาเหม็ด วิบิโซโน (Nur Ahmed Wibisono) อายุ 10 ปี จากโรงเรียนเซอร์ยา บัวนาร์ ประเทศอินโดนีเซีย
สำหรับคุณตอนอายุ 10 ขวบกำลังทำอะไร? วิ่งเล่น? ดีดหนังสติ๊ก ? แต่งตัวตุ๊กตา? แต่สำหรับเด็กชาวอินโดคนนี้อายุ 10 ขวบ เขาคือนักประดิษฐ์ผู้สร้างเครื่องวัดปริมาณไขมันในน้ำนมสด ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันและถูกส่งมาประเทศไทยเพื่อแสดงผลงานระดับชาติในเวทีวันนักประดิษฐ์ ประจำปี '58
ด.ช.นูวร์ อาเหม็ด วิบิโซโน (Nur Ahmed Wibisono) หนูน้อยวัย 10 ขวบจากโรงเรียนเซอร์ยา บัวนาร์ ประเทศอินโดนีเซีย เผยกับทีมข่าว ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า สิ่งประดิษฐ์ที่เขานำมาแสดงในครั้งนี้ เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ทำมาเพื่อวัดปริมาณไขมันที่มีอยู่ในน้ำนมแบบง่ายๆ ซึ่งทุกอย่างตั้งแต่กระบวนการคิดและลงมือทำเขาเป็นผู้ทำเองทั้งสิ้น โดยมีครูประจำชั้นคอยให้คำแนะนำ
วิบิซิโนประดิษฐ์เครื่องวัดปริมาณไขมันในน้ำนมขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาในสิ่งที่เขาและหลายๆ คนไม่รู้จากข้างฉลาก นั่นก็คือไขมันในน้ำนมสด ที่เขาต้องบริโภคอยู่เป็นประจำว่ามีประโยชน์มากน้อยเพียงใด เมื่อเทียบกับนมผงที่จะมีส่วนประกอบทุกอย่างแสดงไว้ข้างกล่องอย่างชัดเจน
“เด็กๆ ของประเทศอินโดนีเซียจะถูกปลูกฝังให้ดื่มนม นมที่เรากินก็จะมี 2 แบบคือ นมผง และนมสด นมผงไม่มีปัญหาอะไรมีทุกอย่างชัดเจนบอกเราข้างกล่อง แต่นมสดที่เขาชอบกินกลับไม่มีข้อมูลไขมันอยู่เลย ทำให้ผู้ใหญ่ตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะให้ผมกินนมจากที่ไหนถึงจะไม่ต้องเสี่ยงกับปริมาณไขมันที่มากเกินไป ผมเลยอยากทำเครื่องวัดปริมาณไขมันในน้ำนมแบบง่ายๆ เพื่อตรวจสอบนมเองที่บ้าน ด้วยหลักการหมุนเหวี่ยงที่จะทำให้ส่วนประกอบในนมแยกชั้นกันออกมา” วิบิซิโน เผยถึงความเป็นมาของสิ่งประดิษฐ์แก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์
หลังจากได้แนวคิดวิบิโซโนจึงมองหาบางสิ่งที่สามารถทำให้น้ำนมหมุนได้แบบเร็วๆ เขาจึงนึกถึงใบพัดของพัดลม จากนั้นจึงเริ่มนำมอเตอร์พัดลมมาต่อเข้ากับกระบอกตวงที่บรรจุน้ำนมแล้วเปิดสวิตช์เป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้น้ำนมในหลอดเกิดการหมุนอย่างรวดเร็ว จนไขมันและน้ำนมที่ผสมกันอยู่แยกชั้นออกมา ถึงตอนนี้จะอ่านจากกระบอกตวงได้ทันทีว่าปริมาณไขมันที่แยกตัวออกมาจากน้ำนมมีปริมาณอยู่เท่าไร ช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าในที่สุดน้ำนมจากแหล่งไหนถึงจะเหมาะสมแก่เด็กอย่างเขา
“ผมกับเพื่อนๆ ทำสิ่งประดิษฐ์กันเป็นของเล่นอยู่แล้ว โรงเรียนของเราส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักมองสิ่งใกล้ตัวแล้วลงมือทำ ความจริงผมแค่อยากทำเล่นๆ แต่ดันได้รางวัล แล้วก็ดีใจยิ่งกว่าที่ได้มาประเทศไทยด้วย ครั้งนี้ผมมากับชาวอินโดนีเซียอีก 3 คน ผมเด็กที่สุด หรือเด็กที่สุดในงานนี้แล้วก็ว่าได้ ตอนแรกผมก็กลัวนะ แต่หลังๆ ก็สนุกดี ได้เห็นสิ่งประดิษฐ์อีกมากมาด้วย” ด.ช.วิบิซิโนกล่าวอย่างฉะฉาน เนื่องจากได้รับโอกาสในการนำผลงานมาเสนอที่ประเทศไทยภายในงานวันนักประดิษฐ์ที่จัดขึ้นเมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี
ภายในงานวันประดิษฐ์ที่ผ่านมายังมีผลงานนักประดิษฐ์จากประเทศต่างๆ อีก 13 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร, อียิปต์, อิรัก, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, อิหร่าน, มาเก๊า, จีน, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, โรมาเนีย, ฮ่องกง และญี่ปุ่น และยังมีการจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์คิดค้นมากกว่า 700 ผลงาน นอกจากนี้ยังเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบิดาแห่งนักประดิษฐ์ไทยอีกด้วย
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 17 ก.พ 2558