Page 1 of 1

อัดโปรโมชั่นฉลอง‘ตรุษจีน’ รับเงินสะพัดกว่า5หมื่นล้านบ

Posted: 17 Feb 2015, 10:07
by brid.ladawan
อัดโปรโมชั่นฉลอง‘ตรุษจีน’ รับเงินสะพัดกว่า5หมื่นล้านบ.

เทศกาล “ตรุษจีน” วันปีใหม่ของคนจีนทั่วโลก รวมถึงคนไทยเชื้อสายจีนในไทย ที่จะกลับมา สร้างบรรยากาศการค้าขายให้คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง

เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง ก็จะเข้าสู่เทศกาล “ตรุษจีน” วันปีใหม่ของคนจีนทั่วโลก รวมถึงคนไทยเชื้อสายจีนในไทย ที่จะกลับมา สร้างบรรยากาศการค้าขายให้คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งปีนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่าจะมีเงินสะพัดสูงสุดในรอบ 10 ปี ด้วยมูลค่าการใช้จ่ายกว่า 50,472 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.71% แต่ไม่ใช่เพราะกำลังซื้อที่ฟื้นตัว แต่เป็นเพราะราคาสินค้าในช่วงเทศกาลที่ถีบตัวขึ้นสูงมาก สวนทางกับเงินในกระเป๋าของผู้บริโภคในนาทีนี้

เทสโก้ฯ ลดกระหน่ำ

ภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ ทำให้ผู้ประกอบการสินค้าเกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีน ต้องงัดแคมเปญมากระตุ้นบรรยากาศการจับจ่ายให้คึกคักขึ้น โดยเริ่มต้นจากยักษ์ใหญ่ ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ “เทสโก้ โลตัส” ที่ปีนี้มาพร้อมกับส่วนลดกว่า 30% สูงที่สุดตั้งแต่เคยจัดกิจกรรมมา เพราะประเมินว่า คนไทยยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายไม่ต่างกับปีที่ผ่านมา จากมาตรการการกระตุ้นต่าง ๆ จากภาครัฐ ที่อัดฉีดออกมายังไม่ส่งผลชัดเจนนัก

โดยเทสโก้ตั้งเป้าหมายหลักว่าปีนี้จะต้องรักษาระดับยอดขายในช่วงเทศกาลตรุษจีนเอาไว้ให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ดูเหมือนง่าย ๆ แต่การจะให้คนที่ไม่ยอมใช้จ่าย ให้ออกมาซื้อหาสินค้านั้น นอกเหนือจากส่วนลดแล้ว ยังต้องใช้กำลังภายใน ตรึงราคาไว้เท่าเดิมด้วย ไม่ให้สูงขึ้นมาเท่ากับสินค้าในท้องตลาด ด้วยการพูดคุยกับผู้ประกอบการ รวมถึงรัดเข็มขัด ลดต้นทุนภายใน เพื่อคงราคาสินค้าเดิมให้ได้มากที่สุด ขณะที่สินค้าจำเป็น เช่น ไก่ เป็ด ไข่ จะพยายามกดราคาลงให้ถูกกว่าเดิมด้วย

“สลิลา สีหพันธุ์” รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัทสื่อสารองค์กร เทสโก้ โลตัส ระบุว่า แนวโน้มผู้บริโภคที่กำลังมาแรง คือการซื้อสินค้าแบบจัดสำเร็จ ซึ่งสอดรับกับไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ และต้องการความสะดวกสบาย โดยเทสโก้ เล็งเห็นจุดนี้มานาน จึงจัดเซตตรุษจีนไว้รองรับหลากหลายรูปแบบให้เลือก และสินค้าไฮไลต์น่าจะเป็นสินค้าที่จัดเป็นชุด เพราะสะดวกสบายในราคาไม่แพง

ชูชุดไหว้มงคลโกยรายได้

ด้านเจ้าตลาดเนื้อสัตว์รายใหญ่อย่าง เครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพี) ก็ส่งไม้ต่อให้ ร้าน “ซีพี เฟรชมาร์ท” ครัวพ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ ที่ไม่นิยมไปเดินตลาดสด แต่เลือกซื้อสินค้า หมู เห็ด เป็ด ไก่ ในร้านสะดวกซื้อแทน เพราะได้ทั้งความคุ้มค่าในด้านคุณภาพและราคา

“ชัยยุทธ ทิพย์สุวรรณพร” รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพี เฟรชมาร์ท ประเมินคร่าว ๆ ว่า การจับจ่ายซื้อของไหว้ช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ น่าจะคึกคัก เพราะมั่นใจว่าชาวไทยเชื้อสายจีนจะยังคงดำเนินตามพิธีดั้งเดิม ประกอบกับประชาชนเริ่มมีความเชื่อมั่น จากภาวะการเมืองที่เป็นระบบระเบียบขึ้น ทำให้บรรยากาศการจับจ่ายผ่อนคลายไปด้วย

ปีนี้นอกเหนือจากการนำสินค้า ทั้งเนื้อหมู เป็ด ไก่ แช่แข็ง และผลไม้แล้ว ยังรุกเดินหน้าเจาะกลุ่มคนยุคใหม่ ด้วยการส่ง ชุดไหว้มงคลแช่แข็งสำเร็จรูป ถึง 2 แบบให้เลือก พร้อมส่วนลด 7% สำหรับ “ชุดไหว้ซาแซ” ที่ครบถ้วนด้วยของไหว้ 3 อย่างทั้งไก่ต้ม พร้อมเครื่องใน เป็ดพะโล้พร้อมเครื่องใน และตะโพกหมูบะแซ และ ส่วนลดอีก 9% สำหรับ “ชุดไหว้โหงวแซ” ประกอบด้วยของไหว้ 5 อย่าง ได้แก่ ไก่ เป็ด หมู ปลาทับทิมนึ่ง กุ้งต้มสุกคาดว่าจะขายได้ดี มีรายได้เพิ่มเป็น 250 ล้านบาท

รวบ 2 เทศกาลฉลอง

ที่สำคัญ ถือว่าปีนี้เป็นปีพิเศษ ที่ 2 เทศกาล ทั้งวันวาเลนไทน์ และตรุษจีนอยู่ช่วงใกล้กันมาก ทำให้ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” รวบยอดจัดกิจกรรม 2 เทศกาลไว้ด้วยกัน ในชื่อ “รักรื่นรมย์ รวยรุ่งโรจน์” ตั้งแต่ 12-25 ก.พ.นี้ ด้วยงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท และเพราะมั่นใจว่าบรรยากาศการเฉลิมฉลองปีนี้ จะคึกคักต่อเนื่องจากเทศกาลเฉลิมฉลองช่วงปลายปี หลังสถานการณ์ในประเทศคลี่คลายลง

โดยตั้งเป้าหมายมีเงินสะพัดช่วงตรุษจีนไว้สูงกว่า 2,200 ล้านบาท ที่นำทีมมาด้วยโฮมเฟรชมาร์ท และกูร์เมต์มาร์เกต ซูเปอร์มาร์เกต สำหรับของเซ่นไหว้เตรียมสินค้าไว้อย่างครบครัน รวมถึงเซตไหว้เจ้าสำเร็จรูปที่ปีนี้ขนมาให้เลือกมากถึง 8 แบบ เพื่อเสริมมงคลตามแต่ละประเภท ด้วยวัตถุดิบที่คัดอย่างดี เพื่อสร้างความแตกต่างกับสินค้าอื่นในตลาด ตามแนวคิดเดิม ที่จะไม่ลงมาทำราคาแข่งขัน แต่จะเน้นจำหน่ายสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม และความแปลกใหม่เท่านั้น

เดอะมอลล์ กรุ๊ป จะใช้กลยุทธ์หลักในการดึงลูกค้า ด้วยการเน้นร่วมมือกับพันธมิตรหลากหลายวงการ เพื่อร่วมกันจัดโปรโมชั่น สร้างความอลังการกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา

ทองคำยังฮิตตลอด

นอกจากนั้น “ทองคำ” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสินค้าขายดี ที่คนนิยมซื้อหาเป็นของขวัญ โดย “จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” นายกสมาคมค้าทองคำ และเจ้าของร้านทองจีทีเวล บรรยายบรรยากาศการซื้อขายทองตรุษจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาว่า ด้วยภาวะเศรษฐกิจทำให้ตลาดทองช่วงนี้ซบเซา แม้ว่าราคาทองจะลดลงมามาก อยู่ที่ 19,000 บาทต่อบาททองคำแล้วก็ตาม แต่ปีนี้ก็คงจะยังเงียบเหงาอยู่ดี เพราะกำลังซื้อคนไทยก็ยังคงไม่ฟื้นตัวมาก

“ช่วงที่เศรษฐกิจยังดี ๆ เมื่อ 2-3 ปีก่อน ยอดขายทองตรุษจีนจะสูงกว่าช่วงปกติถึง 10% แต่ปีนี้เต็มที่คงแค่ 10% แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผู้บริโภค ซึ่งมีโอกาสดีขึ้นได้ แต่จะรู้ได้ชัดเจนช่วงก่อนตรุษจีน 2-3 วัน หรือหลังจากที่คนได้รับเงินอั่งเปาแล้วเท่านั้น”

ทั้งนี้หลายปีที่ผ่านมา บรรยากาศการซื้อทองเป็นของขวัญในเทศกาลตรุษจีนลดลงเรื่อย ๆ เช่นเคยซื้อทองมอบให้กัน 2-3 บาท ขณะนี้ก็เหลือเพียง 1-2 สลึงแทน ทำให้ต้องปรับตัวด้วยการออกของขวัญตรุษจีนขนาดเล็กลง ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 5-6 ปี ตั้งแต่จำหน่ายสินค้าพิเศษในเทศกาล เพื่อดึงกำลังซื้อกลับมาให้ได้ โดยเตรียมออกเซตเหรียญ 12 ราศี ที่ชิ้นละ 1 สลึง หรือชุดละ 12 สลึง จากที่เคยจำหน่ายแต่ชิ้นละ 1 บาท เป็นเซตละ 12 บาท ซึ่งมีราคาลดลง จากกว่า 200,000 บาท เหลือ 20,000 กว่าบาท หรือลดลงกว่า 90% นอกจากนี้บางร้านยังเอาใจคนที่อยากมีทองใหม่แต่เงินในกระเป๋ายังไม่มากพอ ด้วยการลดค่ากำเหน็จลงพิเศษกว่าปกติ กระตุ้นให้คนมาเปลี่ยนทองเส้นใหม่กันมากขึ้นด้วย

สภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้... คงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด ว่ากิจกรรมที่ผู้ประกอบการกระหน่ำกันออกมานั้น จะสามารถดึงเงินออกจากกระเป๋าผู้บริโภคได้หรือไม่!!.

พิชชาพร อยู่เลี้ยงพันธุ์


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 17 ก.พ 2558