มุ้งลวดน็อคเอาท์ยุง
Posted: 18 Feb 2015, 12:00
มุ้งลวดน็อคเอาท์ยุง
ประกาศตัวเป็นรายแรกของโลกกับ “มุ้งลวดกำจัดยุง” ไม่เพียงแต่ส่งกลิ่นไล่ยุงแต่ยังทำให้กลายเป็นอัมพาตหรือเป็น
หมันได้อีกด้วย ทั้งองค์การอนามัยโลกการันตีความปลอดภัยในการใช้งานภายในครัวเรือน เสริมความเชื่อมั่นด้วยผล
การทดสอบจากหลายหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุข
“โอกาสความสำเร็จทางการตลาดมีอยู่มาก เนื่องจากคุณสมบัติที่สามารถขจัดความรำคาญและป้องกันโรคที่เกิดจาก
ยุง โดยคงประสิทธิภาพการกำจัดยุงได้ 3 ปีจึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผลิตภัณฑ์กำจัดยุง ลดความเสี่ยงที่เกิดจาก
สารเคมี ถือเป็นจุดขายที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้รักสุขภาพ” ดร.มาส ตันหยงมาศ เจ้าของไอเดียมุ้งลวดกำจัดยุง กล่าว
ผลิตภัณฑ์แปลก-แตกต่าง
ดร.มาส ลาออกจากกระทรวงพาณิชย์เพื่อเดินตามความฝันที่จะสร้างกิจการ ส่วนตัว โดยตั้งโจทย์ว่าธุรกิจนั้นจะ
ต้องไม่ซ้ำ/ลอกเลียนใคร กระทั่งได้รับแรงบันดาลใจจากคนใกล้ตัวที่ถูกยุงกัดอยู่บ่อยครั้ง จึงเกิดไอเดียผลิตมุ้งลวด
กำจัดยุง เพื่อแก้ปัญหาแทนการใช้ยาสารเคมีซึ่งรวมถึงโลชั่นทากันยุงด้วย จากนั้นได้ต่อยอดพัฒนามาเป็นธุรกิจจาก
การร่วมคิดค้นและพัฒนากับผู้ที่เชี่ยวชาญ
เขาเริ่มจากการเสิร์ชข้อมูลในอินเทอร์เน็ตและพบเรื่องราวของสาร “เดลต้าเมธริน” (Deltamethrin) ซึ่งเป็นสาร
สังเคราะห์เลียนแบบสารสกัดในธรรมชาติที่มีคุณสมบัติฆ่ายุงได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกว่า เป็นสาร
กำจัดยุงและแมลงที่ปลอดภัยเหมาะใช้ในครัวเรือน การเกษตร สาธารณสุข สารนี้จะส่งกลิ่นที่สามารถรับรู้ได้เฉพาะยุง
ทำให้ยุงบินหนีหรือเมื่อยุงสัมผัสสารก็จะทำให้เป็นอัมพาตและตายในที่สุด แต่หากรอดก็จะเป็นหมันไม่สามารถแพร่
พันธุ์
ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวจึงมั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการในตลาด จึงติดต่อหาโรงงานผลิตมุ้งลวดซึ่งก็
คือบริษัท ไทยประสิทธิ์เท็กซ์ไทล์ จำกัด ในการนำมุ้งลวดพลาสติกหรือมุ้งไนล่อนมาเคลือบสารดังกล่าว ระยะแรกมี
กำลังการผลิต 1,200 ม้วนต่อเดือน
“แทนที่จะลงทุนมหาศาล เราเริ่มต้นจากงบลงทุนต่ำ แต่มีประสิทธิภาพโชคดีที่เราได้ไทยประสิทธิ์เท็กซ์ไทล์มาเป็นพาต
เนอร์ ซึ่งมีประสบการณ์การผลิตมานาน 30 ปี รวมทั้งมีเครือข่ายร้านค้าทั่วประเทศในการกระจายสินค้าทำให้มั่นใจใน
การนำเสนอนวัตกรรมสู่กลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง”
กลยุทธ์สร้างความเชื่อมั่น
ทว่าแรกเริ่มของการสร้างความเชื่อมั่นคือ การนำนวัตรรมไปทดสอบประสิทธิภาพจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ดำเนินการทดสอบประสิทธิภาพทางชีวภาพตามวิธี
ปฏิบัติขององค์การอนามัยโลก พบว่า คงประสิทธิภาพการกำจัดยุงได้100% หลังผ่านการซักล้าง 15 ครั้ง
ขณะที่การทดสอบปริมาณสารออกฤทธิ์ จากสำนักวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร ยืน
ยันว่า สารเดลต้าเมธรินที่อยู่บนมุ้งมอสน็อกซ์อยู่ในเกณฑ์กำหนดขององค์การอนามัยโลก 0.04% W/W และจากการ
ประเมินความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ โดยกรมการแพทย์ สรุปว่า สารเคลือบนี้มีความปลอดภัย
“เราเป็นเจ้าแรกที่คิดค้นมุ้งลวดกำจัดยุงและผ่านกระบวนการทดสอบจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง แม้จะต้องใช้
เวลานานและค่าใช้จ่าย แต่เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างมูลค่าและความน่าเชื่อถือให้กับตัวผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะ
ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ต้องการแจ้งเกิดในการทำตลาด มีส่วนช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นการยกระดับให้กับตัวของ
ผลิตภัณฑ์ไปด้วย”
ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถือเป็นเซกเมนต์ใหม่ในตลาดมุ้งลวดเมืองไทย แนวทางการทำตลาดจึงเน้นการสื่อสารให้ความรู้
แก่ผู้บริโภคผ่านการออกบูธตามงานแฟร์ต่างๆ และในอนาคตมีแผนการที่จะแตกไลน์ไปยังเต็นท์สำเร็จรูปสำหรับการ
ท่องเที่ยวด้วยโอกาสความสำเร็จทางการตลาดมีอยู่มาก เนื่องจากยุงเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขของประเทศเขตร้อน
ฉะนั้น ทันทีที่เปิดเออีซีเท่ากับเป็นการขยายตลาดมากขึ้น จากปัจจุบันที่เริ่มรุกสู่ตลาดในสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์และ
อินโดนีเซีย”
ดร.มาส กล่าวทิ้งท้ายว่า มุ้งลวดกำจัดยุง “มอสน็อกซ์” ในวันนี้เป็นเพียงบันไดขั้นแรกเท่านั้น เพราะยังมีการคิดค้น
นวัตกรรมอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ขานรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่
Tags : มุ้งลวด,น็อคเอาท์,ยุง,ดร.มาส ตันหยงมาศ
ที่มา : www.bangkokbiznews.com
ประกาศตัวเป็นรายแรกของโลกกับ “มุ้งลวดกำจัดยุง” ไม่เพียงแต่ส่งกลิ่นไล่ยุงแต่ยังทำให้กลายเป็นอัมพาตหรือเป็น
หมันได้อีกด้วย ทั้งองค์การอนามัยโลกการันตีความปลอดภัยในการใช้งานภายในครัวเรือน เสริมความเชื่อมั่นด้วยผล
การทดสอบจากหลายหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุข
“โอกาสความสำเร็จทางการตลาดมีอยู่มาก เนื่องจากคุณสมบัติที่สามารถขจัดความรำคาญและป้องกันโรคที่เกิดจาก
ยุง โดยคงประสิทธิภาพการกำจัดยุงได้ 3 ปีจึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผลิตภัณฑ์กำจัดยุง ลดความเสี่ยงที่เกิดจาก
สารเคมี ถือเป็นจุดขายที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้รักสุขภาพ” ดร.มาส ตันหยงมาศ เจ้าของไอเดียมุ้งลวดกำจัดยุง กล่าว
ผลิตภัณฑ์แปลก-แตกต่าง
ดร.มาส ลาออกจากกระทรวงพาณิชย์เพื่อเดินตามความฝันที่จะสร้างกิจการ ส่วนตัว โดยตั้งโจทย์ว่าธุรกิจนั้นจะ
ต้องไม่ซ้ำ/ลอกเลียนใคร กระทั่งได้รับแรงบันดาลใจจากคนใกล้ตัวที่ถูกยุงกัดอยู่บ่อยครั้ง จึงเกิดไอเดียผลิตมุ้งลวด
กำจัดยุง เพื่อแก้ปัญหาแทนการใช้ยาสารเคมีซึ่งรวมถึงโลชั่นทากันยุงด้วย จากนั้นได้ต่อยอดพัฒนามาเป็นธุรกิจจาก
การร่วมคิดค้นและพัฒนากับผู้ที่เชี่ยวชาญ
เขาเริ่มจากการเสิร์ชข้อมูลในอินเทอร์เน็ตและพบเรื่องราวของสาร “เดลต้าเมธริน” (Deltamethrin) ซึ่งเป็นสาร
สังเคราะห์เลียนแบบสารสกัดในธรรมชาติที่มีคุณสมบัติฆ่ายุงได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกว่า เป็นสาร
กำจัดยุงและแมลงที่ปลอดภัยเหมาะใช้ในครัวเรือน การเกษตร สาธารณสุข สารนี้จะส่งกลิ่นที่สามารถรับรู้ได้เฉพาะยุง
ทำให้ยุงบินหนีหรือเมื่อยุงสัมผัสสารก็จะทำให้เป็นอัมพาตและตายในที่สุด แต่หากรอดก็จะเป็นหมันไม่สามารถแพร่
พันธุ์
ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวจึงมั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการในตลาด จึงติดต่อหาโรงงานผลิตมุ้งลวดซึ่งก็
คือบริษัท ไทยประสิทธิ์เท็กซ์ไทล์ จำกัด ในการนำมุ้งลวดพลาสติกหรือมุ้งไนล่อนมาเคลือบสารดังกล่าว ระยะแรกมี
กำลังการผลิต 1,200 ม้วนต่อเดือน
“แทนที่จะลงทุนมหาศาล เราเริ่มต้นจากงบลงทุนต่ำ แต่มีประสิทธิภาพโชคดีที่เราได้ไทยประสิทธิ์เท็กซ์ไทล์มาเป็นพาต
เนอร์ ซึ่งมีประสบการณ์การผลิตมานาน 30 ปี รวมทั้งมีเครือข่ายร้านค้าทั่วประเทศในการกระจายสินค้าทำให้มั่นใจใน
การนำเสนอนวัตกรรมสู่กลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง”
กลยุทธ์สร้างความเชื่อมั่น
ทว่าแรกเริ่มของการสร้างความเชื่อมั่นคือ การนำนวัตรรมไปทดสอบประสิทธิภาพจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ดำเนินการทดสอบประสิทธิภาพทางชีวภาพตามวิธี
ปฏิบัติขององค์การอนามัยโลก พบว่า คงประสิทธิภาพการกำจัดยุงได้100% หลังผ่านการซักล้าง 15 ครั้ง
ขณะที่การทดสอบปริมาณสารออกฤทธิ์ จากสำนักวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร ยืน
ยันว่า สารเดลต้าเมธรินที่อยู่บนมุ้งมอสน็อกซ์อยู่ในเกณฑ์กำหนดขององค์การอนามัยโลก 0.04% W/W และจากการ
ประเมินความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ โดยกรมการแพทย์ สรุปว่า สารเคลือบนี้มีความปลอดภัย
“เราเป็นเจ้าแรกที่คิดค้นมุ้งลวดกำจัดยุงและผ่านกระบวนการทดสอบจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง แม้จะต้องใช้
เวลานานและค่าใช้จ่าย แต่เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างมูลค่าและความน่าเชื่อถือให้กับตัวผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะ
ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ต้องการแจ้งเกิดในการทำตลาด มีส่วนช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นการยกระดับให้กับตัวของ
ผลิตภัณฑ์ไปด้วย”
ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถือเป็นเซกเมนต์ใหม่ในตลาดมุ้งลวดเมืองไทย แนวทางการทำตลาดจึงเน้นการสื่อสารให้ความรู้
แก่ผู้บริโภคผ่านการออกบูธตามงานแฟร์ต่างๆ และในอนาคตมีแผนการที่จะแตกไลน์ไปยังเต็นท์สำเร็จรูปสำหรับการ
ท่องเที่ยวด้วยโอกาสความสำเร็จทางการตลาดมีอยู่มาก เนื่องจากยุงเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขของประเทศเขตร้อน
ฉะนั้น ทันทีที่เปิดเออีซีเท่ากับเป็นการขยายตลาดมากขึ้น จากปัจจุบันที่เริ่มรุกสู่ตลาดในสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์และ
อินโดนีเซีย”
ดร.มาส กล่าวทิ้งท้ายว่า มุ้งลวดกำจัดยุง “มอสน็อกซ์” ในวันนี้เป็นเพียงบันไดขั้นแรกเท่านั้น เพราะยังมีการคิดค้น
นวัตกรรมอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ขานรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่
Tags : มุ้งลวด,น็อคเอาท์,ยุง,ดร.มาส ตันหยงมาศ
ที่มา : www.bangkokbiznews.com