‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
Posted: 19 Feb 2015, 10:28
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
เครื่องดื่ม ‘INNERGY’ ขวดละ 20 บาท
น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกชื่นชอบ แม้จะรู้ดีว่า ข้อเสียดื่มมากแล้วจะ “อ้วน” รวมถึง กรดฟอสฟอริกที่ทำให้ซ่าจะมีส่วนทำลายกระดูกและฟัน จุดนี่เอง ทำให้เอสเอ็มอีไทยเห็นถึงโอกาสที่จะมาปฏิวัติเครื่องดื่มน้ำอัดลมเสียใหม่ โดยปรับใช้วัตถุดิบที่ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย ในขณะเดียวกัน คงจุดเด่นดื่มแล้วสดชื่นไว้เช่นเดิม ภายใต้แบรนด์ ‘INNERGY’
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
นพ.จิระวัฒน์ จันชะนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเนียจี้ จำกัด
นพ.จิระวัฒน์ จันชะนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเนียจี้ จำกัด เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มน้ำอัดลมน้องใหม่ แบรนด์ ‘INNERGY’ เล่าแนวคิดหลัก ต้องการเปลี่ยนให้น้ำอัดลมกลายเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ สามารถดื่มได้ทุกเพศทุกวัย โดยนำจุดอ่อนทุกด้านของน้ำอัดลมที่ขายอยู่ทั่วไปในปัจจุบันมาขจัดทิ้ง ตั้งแต่เรื่องดื่มมากแล้วจะอ้วน โดยเปลี่ยนจากใส่น้ำหวานหันมาใช้ “น้ำหวานฟรุกโตส” แทน ทำให้ดื่มแล้วไม่อ้วน รวมถึงไม่ใส่สารคาเฟอิน และไม่มีกรดฟอสฟอริก
นอกจากนั้น ยังเติมวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเข้าไปแทน โดยเป็นสารสกัดจาก “รำข้าวและจมูกข้าวหอมมะลิ ออแกนิก” และที่สำคัญได้พัฒนานวัตกรรม “โซดาอนุภาพนาโน” ซึ่งมีคุณสมบัติทำให้เครื่องดื่มมีความซ่า แต่ไม่กัดกระเพาะ และเนื่องจากเป็นอนุภาพนาโน เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว วิตามินต่างๆ จะแทรกซึมเข้าสู่การบำรุงร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ดื่มแล้วสดชื่นกระปรี้กระเปร่าในทันที
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
น้ำหวานฟรุกโตสกับน้ำโซดานาโนก็จะพุ่งทะยานขึ้นมา ไหลผสมกันในแก้ว
เจ้าของธุรกิจ เผยต่อว่า นวัตกรรมเครื่องดื่มดังกล่าว พัฒนาขึ้นโดยคนไทยล้วนๆ กว่าจะได้สูตรสำเร็จใช้เวลาวิจัยและพัฒนานานถึง 7 ปี ความยากอยู่ที่การหาสูตรลงตัว ให้เครื่องดื่มมีรสชาติน่าพึงพอใจ คงความซ่า ควบคู่กับดีต่อสุขภาพด้วย เบื้องต้นทำออกมา 6 รสชาติ ได้แก่ เฟิร์มมิ่ง มิกซ์ฟรุ๊ต , บิวตี้ออเรนจ์ ,เวอร์จิ้น เลมอน , แฮปปี้โคล่า , สวีทฮาร์ทโคล่า และโบนนี่ โยเกิร์ต ขายปลีกทั้งแบบขวด และแบบแก้ว ในราคา 20 บาท
“ผมวางตำแหน่งเครื่องดื่ม INNERGY ไว้ที่คนรุ่นใหม่และวัยทำงาน ตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป อยากให้เป็นเครื่องดื่มที่ทันสมัย เป็นทางเลือกใหม่ของคนชอบดื่มน้ำอัดลม และรักสุขภาพด้วย ซึ่งการสื่อสารแบรนด์ถึงลูกค้าจะเน้นผ่านทางสื่อออนไลน์ รวมถึง กระแสบบอกต่อ ให้ลูกค้าจดจำในฐานะเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่มีนวัตกรรม ดีต่อสุขภาพ หาไม่ได้จากน้ำอัดลมอื่นๆ ในท้องตลาด” นพ.จิระวัฒน์ กล่าว
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
ด้านผลิตนั้น เขาระบุว่า ก่อสร้างโรงงานระดับมาตรฐานส่งออกครบทุกด้าน ลงทุนกว่า 30 ล้านบาท ศักยภาพการผลิตกว่า 3 หมื่นขวดต่อวัน ส่วนช่องทางตลาด กำลังวางขายในห้างโมเดิร์นเทรดทั่วไป รวมถึง หาตัวแทนขายปลีกทั่วประเทศ
อีกด้าน จะขยายธุรกิจในรูปแบบสร้างอาชีพ กึ่งแฟรนไชส์ ด้วยการเปิดโอกาสให้คนสนใจมาซื้อธุรกิจ ใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 1 แสนบาท โดยจะได้รับคีออส อุปกรณ์ครบชุดและวัตถุดิบต้นต้น พร้อมเริ่มอาชีพได้ทันที
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
คีออส‘INNERGY’
ในคีออส จะมีอุปกรณ์สำคัญ คือ ชุดผสมเครื่องดื่ม ที่แยกวัตถุดิบเป็น 2 ส่วน คือ น้ำหวานฟรุกโตส 6 รสชาติ กับส่วนของโซดาอนุภาพนาโน โดยมีท่อสายยางเชื่อมต่อถังเก็บวัตถุดิบทั้งสองเชื่อมเข้ามาหากัน เพียงแค่กดปุ่มเลือกรสชาติที่ต้องการ บนอุปกรณ์ซึ่งติดตั้งไว้ปลายสายยาง น้ำหวานฟรุกโตสกับน้ำโซดานาโนก็จะพุ่งทะยานขึ้นมาไหลผสมกันในแก้ว ซึ่งวิธีการนี้ ทำให้ได้เครื่องดื่มที่ซ่าสดใหม่ ดื่มแล้วชื่นใจ
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
ชุดผสมเครื่องดื่ม ที่แยกวัตถุดิบเป็น 2 ส่วน คือ น้ำหวานฟรุกโตส 6 รสชาติ กับ ส่วนของโซดาอนุภาพนาโน
นพ.จิระวัฒน์ เสริมต่อว่า ผู้ลงทุนในแฟรนไชส์จะมีกำไรจากการขายเครื่องดื่ม INNERGY ในรูปแบบแก้ว ประมาณ 10 บาทจากราคาขายแก้วละ 20 บาท ส่วนการขายแบบขวด ขวดละ 20 บาท กำไรประมาณ 5 บาท (กำไรหักเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเช่า ค่าพนักงาน ค่าน้ำแข็ง ฯลฯ) จากที่บริษัทได้ทำร้านแฟรนไชส์ INNERGY ต้นแบบอยู่ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร มียอดขายเฉลี่ยวันละประมาณ 200 แก้ว ซึ่งหากผู้ลงทุนมียอดขายระดับนี้ สามารถคืนเงินทุนได้ในเวลา 1-3 เดือน
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
สำหรับทำเลที่เหมาะจะเปิดบูท INNERGY ควรอยู่ในจุดที่มีคนรุ่นใหม่จำนวนมาก เช่น สถาบันการศึกษา และย่านออฟฟิศ ขณะนี้ มีเปิดแล้วที่สาขามหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ผู้ลงทุนควรมีเงินทุนหมุนเวียนในการบริหารร้านประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน ส่วนแผนขยายสาขาแฟรนไชส์ต้องการให้ค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเริ่มจากในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อน แล้วขยายไปจังหวัดรอบๆ ในรัศมีประมาณ 150 กิโลเมตรรอบๆ เมืองหลวง รวมถึง กำลังจะส่งออกต่างประเทศ โดยวางเป้าหมายยอดขายจากทุกส่วนรวมกัน ปีนี้ (2558) ต้องการให้ถึงกว่า 100 ล้านบาท
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
เพียงแค่กดปุ่ม เลือกรสชาติที่ต้องการ บนอุปกรณ์ซึ่งติดตั้งไว้ปลายสายยาง
“เราไม่ได้เป็นคู่แข่งโดยตรงกับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แต่ต้องการเป็นทางเลือกใหม่เจาะตลาดน้ำอัดลมเลย ซึ่งที่ผ่านมา มูลค่าตลาดน้ำอัดลมมหาศาลมาก แต่ผู้ผลิตแบรนด์ใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้ กลับมีพัฒนานวัตกรรมสินค้าน้อยมาก ส่วนใหญ่เน้นแต่ทำตลาด ดังนั้น ผมเชื่อว่า เมื่อเรามีนวัตกรรมของตัวเอง ประกอบกับกระแสรักสุขภาพกำลังเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ จึงเป็นโอกาสที่เราจะแจ้งเกิดได้” เจ้าของธุรกิจ กล่าว
โทร.02-985-9118,0-2922-2669 หรือ www.innergydrink.com
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
แก้วละ 20 บาท
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 19 ก.พ 2558
เครื่องดื่ม ‘INNERGY’ ขวดละ 20 บาท
น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกชื่นชอบ แม้จะรู้ดีว่า ข้อเสียดื่มมากแล้วจะ “อ้วน” รวมถึง กรดฟอสฟอริกที่ทำให้ซ่าจะมีส่วนทำลายกระดูกและฟัน จุดนี่เอง ทำให้เอสเอ็มอีไทยเห็นถึงโอกาสที่จะมาปฏิวัติเครื่องดื่มน้ำอัดลมเสียใหม่ โดยปรับใช้วัตถุดิบที่ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย ในขณะเดียวกัน คงจุดเด่นดื่มแล้วสดชื่นไว้เช่นเดิม ภายใต้แบรนด์ ‘INNERGY’
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
นพ.จิระวัฒน์ จันชะนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเนียจี้ จำกัด
นพ.จิระวัฒน์ จันชะนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเนียจี้ จำกัด เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มน้ำอัดลมน้องใหม่ แบรนด์ ‘INNERGY’ เล่าแนวคิดหลัก ต้องการเปลี่ยนให้น้ำอัดลมกลายเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ สามารถดื่มได้ทุกเพศทุกวัย โดยนำจุดอ่อนทุกด้านของน้ำอัดลมที่ขายอยู่ทั่วไปในปัจจุบันมาขจัดทิ้ง ตั้งแต่เรื่องดื่มมากแล้วจะอ้วน โดยเปลี่ยนจากใส่น้ำหวานหันมาใช้ “น้ำหวานฟรุกโตส” แทน ทำให้ดื่มแล้วไม่อ้วน รวมถึงไม่ใส่สารคาเฟอิน และไม่มีกรดฟอสฟอริก
นอกจากนั้น ยังเติมวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเข้าไปแทน โดยเป็นสารสกัดจาก “รำข้าวและจมูกข้าวหอมมะลิ ออแกนิก” และที่สำคัญได้พัฒนานวัตกรรม “โซดาอนุภาพนาโน” ซึ่งมีคุณสมบัติทำให้เครื่องดื่มมีความซ่า แต่ไม่กัดกระเพาะ และเนื่องจากเป็นอนุภาพนาโน เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว วิตามินต่างๆ จะแทรกซึมเข้าสู่การบำรุงร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ดื่มแล้วสดชื่นกระปรี้กระเปร่าในทันที
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
น้ำหวานฟรุกโตสกับน้ำโซดานาโนก็จะพุ่งทะยานขึ้นมา ไหลผสมกันในแก้ว
เจ้าของธุรกิจ เผยต่อว่า นวัตกรรมเครื่องดื่มดังกล่าว พัฒนาขึ้นโดยคนไทยล้วนๆ กว่าจะได้สูตรสำเร็จใช้เวลาวิจัยและพัฒนานานถึง 7 ปี ความยากอยู่ที่การหาสูตรลงตัว ให้เครื่องดื่มมีรสชาติน่าพึงพอใจ คงความซ่า ควบคู่กับดีต่อสุขภาพด้วย เบื้องต้นทำออกมา 6 รสชาติ ได้แก่ เฟิร์มมิ่ง มิกซ์ฟรุ๊ต , บิวตี้ออเรนจ์ ,เวอร์จิ้น เลมอน , แฮปปี้โคล่า , สวีทฮาร์ทโคล่า และโบนนี่ โยเกิร์ต ขายปลีกทั้งแบบขวด และแบบแก้ว ในราคา 20 บาท
“ผมวางตำแหน่งเครื่องดื่ม INNERGY ไว้ที่คนรุ่นใหม่และวัยทำงาน ตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป อยากให้เป็นเครื่องดื่มที่ทันสมัย เป็นทางเลือกใหม่ของคนชอบดื่มน้ำอัดลม และรักสุขภาพด้วย ซึ่งการสื่อสารแบรนด์ถึงลูกค้าจะเน้นผ่านทางสื่อออนไลน์ รวมถึง กระแสบบอกต่อ ให้ลูกค้าจดจำในฐานะเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่มีนวัตกรรม ดีต่อสุขภาพ หาไม่ได้จากน้ำอัดลมอื่นๆ ในท้องตลาด” นพ.จิระวัฒน์ กล่าว
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
ด้านผลิตนั้น เขาระบุว่า ก่อสร้างโรงงานระดับมาตรฐานส่งออกครบทุกด้าน ลงทุนกว่า 30 ล้านบาท ศักยภาพการผลิตกว่า 3 หมื่นขวดต่อวัน ส่วนช่องทางตลาด กำลังวางขายในห้างโมเดิร์นเทรดทั่วไป รวมถึง หาตัวแทนขายปลีกทั่วประเทศ
อีกด้าน จะขยายธุรกิจในรูปแบบสร้างอาชีพ กึ่งแฟรนไชส์ ด้วยการเปิดโอกาสให้คนสนใจมาซื้อธุรกิจ ใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 1 แสนบาท โดยจะได้รับคีออส อุปกรณ์ครบชุดและวัตถุดิบต้นต้น พร้อมเริ่มอาชีพได้ทันที
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
คีออส‘INNERGY’
ในคีออส จะมีอุปกรณ์สำคัญ คือ ชุดผสมเครื่องดื่ม ที่แยกวัตถุดิบเป็น 2 ส่วน คือ น้ำหวานฟรุกโตส 6 รสชาติ กับส่วนของโซดาอนุภาพนาโน โดยมีท่อสายยางเชื่อมต่อถังเก็บวัตถุดิบทั้งสองเชื่อมเข้ามาหากัน เพียงแค่กดปุ่มเลือกรสชาติที่ต้องการ บนอุปกรณ์ซึ่งติดตั้งไว้ปลายสายยาง น้ำหวานฟรุกโตสกับน้ำโซดานาโนก็จะพุ่งทะยานขึ้นมาไหลผสมกันในแก้ว ซึ่งวิธีการนี้ ทำให้ได้เครื่องดื่มที่ซ่าสดใหม่ ดื่มแล้วชื่นใจ
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
ชุดผสมเครื่องดื่ม ที่แยกวัตถุดิบเป็น 2 ส่วน คือ น้ำหวานฟรุกโตส 6 รสชาติ กับ ส่วนของโซดาอนุภาพนาโน
นพ.จิระวัฒน์ เสริมต่อว่า ผู้ลงทุนในแฟรนไชส์จะมีกำไรจากการขายเครื่องดื่ม INNERGY ในรูปแบบแก้ว ประมาณ 10 บาทจากราคาขายแก้วละ 20 บาท ส่วนการขายแบบขวด ขวดละ 20 บาท กำไรประมาณ 5 บาท (กำไรหักเฉพาะต้นทุนวัตถุดิบ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเช่า ค่าพนักงาน ค่าน้ำแข็ง ฯลฯ) จากที่บริษัทได้ทำร้านแฟรนไชส์ INNERGY ต้นแบบอยู่ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร มียอดขายเฉลี่ยวันละประมาณ 200 แก้ว ซึ่งหากผู้ลงทุนมียอดขายระดับนี้ สามารถคืนเงินทุนได้ในเวลา 1-3 เดือน
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
สำหรับทำเลที่เหมาะจะเปิดบูท INNERGY ควรอยู่ในจุดที่มีคนรุ่นใหม่จำนวนมาก เช่น สถาบันการศึกษา และย่านออฟฟิศ ขณะนี้ มีเปิดแล้วที่สาขามหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ผู้ลงทุนควรมีเงินทุนหมุนเวียนในการบริหารร้านประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน ส่วนแผนขยายสาขาแฟรนไชส์ต้องการให้ค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเริ่มจากในพื้นที่กรุงเทพฯ ก่อน แล้วขยายไปจังหวัดรอบๆ ในรัศมีประมาณ 150 กิโลเมตรรอบๆ เมืองหลวง รวมถึง กำลังจะส่งออกต่างประเทศ โดยวางเป้าหมายยอดขายจากทุกส่วนรวมกัน ปีนี้ (2558) ต้องการให้ถึงกว่า 100 ล้านบาท
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
เพียงแค่กดปุ่ม เลือกรสชาติที่ต้องการ บนอุปกรณ์ซึ่งติดตั้งไว้ปลายสายยาง
“เราไม่ได้เป็นคู่แข่งโดยตรงกับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แต่ต้องการเป็นทางเลือกใหม่เจาะตลาดน้ำอัดลมเลย ซึ่งที่ผ่านมา มูลค่าตลาดน้ำอัดลมมหาศาลมาก แต่ผู้ผลิตแบรนด์ใหญ่ในอุตสาหกรรมนี้ กลับมีพัฒนานวัตกรรมสินค้าน้อยมาก ส่วนใหญ่เน้นแต่ทำตลาด ดังนั้น ผมเชื่อว่า เมื่อเรามีนวัตกรรมของตัวเอง ประกอบกับกระแสรักสุขภาพกำลังเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ จึงเป็นโอกาสที่เราจะแจ้งเกิดได้” เจ้าของธุรกิจ กล่าว
โทร.02-985-9118,0-2922-2669 หรือ www.innergydrink.com
‘INNERGY’ ปฏิวัติน้ำอัดลม ซ่าสะใจไม่ทำร้ายสุขภาพ
แก้วละ 20 บาท
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 19 ก.พ 2558