ททท.ดึงอินโดฯ-อินเดียเที่ยวไทย

[brid.ladawan]

ททท.ดึงอินโดฯ-อินเดียเที่ยวไทย

ททท.ชูแหล่งท่องเที่ยวไทย-อาหารฮาลาล-ช็อปปิ้ง จูงใจนักท่องเที่ยวอินโดนีเซีย -อินเดียเดินทางมาไทยแทนรัสเซียวิกฤติ

นายอำนวย เทียมกีรกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยภาพรวมการทำตลาดในปีนี้ว่า จะหันมาชูสินค้าท่องเที่ยว อาทิ แหล่งท่องเที่ยวสำหรับพรีเวดดิ้ง ,อาหารฮาลาล,การช็อปปิ้ง เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวอินเดีย และ อินโดนีเซียให้เดินทางมาไทย เนื่องจาก สองประเทศดังกล่าวเป็นประเทศใหญ่มีประชากรมาก เหมาะสมที่จะทดแทนตลาดรัสเซียที่จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ โดยตั้งเป้าว่าในปีนี้จะมีชาวอินโดนีเซียเดินทางมาไทย กว่า 657,000 คนเติบโตจากปีที่ผ่านมา 13.67% ขณะที่อินเดียตั้งเป้าจะเดินทางมาไทย 1.05 ล้านคนเติบโต 10.34% จากปีก่อน

ทั้งนี้นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกู ร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาและททท.เตรียมเปิดตัวปีท่องเที่ยววิถีไทยที่เมืองมุมไบประเทศอินเดีย เพื่อตอกย้ำให้รับรู้สินค้าท่องเที่ยวของไทย เนื่องจากชาวอินเดียจะชื่นชอบวีถีไทยเป็นพิเศษ โดยทางททท.สำนักงานมุมไบได้เชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยว 50 ราย และสื่อมวลชน กว่า 20 ราย และ ททท.สำนักงานนิวเดลี เชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยว10 ราย สื่อมวลชน 10 ราย พร้อมนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวกลุ่มการแต่งงานและการช็อปปิ้งที่ตรงกับความสนใจของชาวอินเดียด้วย

ส่วนตลาดอินโดนีเซียจะโปรโมทและส่งเสริมเรื่องอาหารฮาลาลให้มากขึ้น โดยภาคเอกชน ทั้งโรงแรม มัคคุเทศก์ และ บริษัทนำเที่ยวจะต้องเตรียมรับมือกับอาหารฮาลาลให้มากขึ้น ทั้งการเตรียมห้องรองรับการละหมาด การเตรียมมัคคุเทศก์ที่มีความรู้เกี่ยวกับอาหารฮาลาล และ พฤติกรรมของชาวมุสลิม รวมถึงจะต้องศึกษาเส้นทางการท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับชาวอินโดนีเซียด้วย



“อินโดนีเซีย และ อินเดีย ประชากรเยอะ โดยอินโดนีเซียมีกว่า 240 ล้านคน และ อินเดียที่มีประชากรกว่า 1,000 ล้านคน หากเราเข้าไปทำตลาดและดึงนักท่องเที่ยวมาได้ เพียง 1-2% ก็ถือว่าได้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นรวมกับตลาดกลุ่มตะวันออกกลาง ซึ่งคาดว่าจะช่วยทดแทนตลาดรัสเซียที่ลดลงไปได้”

นายอำนวย กล่าวว่า เตรียมร่วมกับสำนักงานยุโรปในการจัดทำแพ็กเก็จท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างไทยไปเมียนมาร์ เพื่อให้เกิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน เนื่องจากนักท่องเที่ยวยุโรป กำลังให้ความสนใจแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของเมียนมาร์ นอกจากนั้น ด้านการทำงานประสานงานร่วมกัน จะต้องทำงานในรูปแบบเป็นเพื่อน หรือ ทำงานแบบทวิภาคี ไม่ควรพูดในรูปแบบเป็นพี่น้อง เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านจะไม่สบายใจ

ซีย และ อินเดีย ประชากรเยอะ โดยอินโดนีเซียมีกว่า 240 ล้านคน และ อินเดียที่มีประชากรกว่า 1,000 ล้านคน หากเราเข้าไปทำตลาดและดึงนักท่องเที่ยวมาได้ เพียง 1-2% ก็ถือว่าได้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นรวมกับตลาดกลุ่มตะวันออกกลาง ซึ่งคาดว่าจะช่วยทดแทนตลาดรัสเซียที่ลดลงไปได้”

นายอำนวย กล่าวว่า เตรียมร่วมกับสำนักงานยุโรปในการจัดทำแพ็กเก็จท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างไทยไปเมียนมาร์ เพื่อให้เกิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน เนื่องจากนักท่องเที่ยวยุโรป กำลังให้ความสนใจแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของเมียนมาร์ นอกจากนั้น ด้านการทำงานประสานงานร่วมกัน จะต้องทำงานในรูปแบบเป็นเพื่อน หรือ ทำงานแบบทวิภาคี ไม่ควรพูดในรูปแบบเป็นพี่น้อง เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านจะไม่สบายใจ

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 19 ก.พ 2558