Page 1 of 1

กำชับผวจ.เร่งรัดการเบิกจ่ายให้ได้ตามเป้า

Posted: 21 Feb 2015, 10:30
by brid.ladawan
กำชับผวจ.เร่งรัดการเบิกจ่ายให้ได้ตามเป้า

มท.1 กำชับ ผวจ.เร่งรัดการเบิกจ่ายให้ได้ตามเป้า ย้ำ ทำงานโปร่งใส เกิดประโยชน์กับ ปชช.

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่โรงแรมรามาการ์เด้น ถนนวิภาวดีรังสิต พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมสัมมนาโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณของจังหวัด กลุ่มจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระหว่างวันที่ 19 – 20 ก.พ. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนโยบายการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลโดยเฉพาะงบลงทุนของปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 และพ.ศ. 2558 และเพิ่มประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ.2558 ได้รับอุดหนุนจากรัฐบาลกว่า 2 แสนล้านบาท และงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2557 ที่ต้องเร่งเบิกจ่ายอีกกว่า 18,500 ล้านบาท รวมถึงติดตามความคืบหน้าและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานที่ผ่านมา

ทั้งนี้พล.อ.อนุพงษ์ ได้มอบนโยบายให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุมฯ ว่า สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณของจังหวัด กลุ่มจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถือว่า เป็นกระบวนการสำคัญที่จะทำให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ จึงขอให้เร่งดำเนินการตามเป้าหมาย 2 เรื่องหลัก คือ 1. เร่งรัดการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ยึดถือเป้าหมายของแผนปฏิบัติการเร่งรัดการเบิกจ่ายเป็นพันธสัญญาระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด และกระทรวงมหาดไทย 2. ด้านความโปร่งใสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสนับสนุน ติดตามการบริหารงบประมาณ ตามอำนาจหน้าที่และกฎหมายของแต่ละหน่วยงานอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การบริหารงบประมาณของจังหวัด กลุ่มจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นไปอย่างโปร่งใส เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

อย่างไรก็ตามพล.อ.อนุพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมถึงกรณีที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้คนไทยอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งไม่ได้ สังคมต้องเรียนรู้ว่า ทุกเรื่องต้องเป็นไปตามกฎหมาย แม้ตนจะเป็นรัฐมนตรีแต่ถ้าหากกระทำผิดกฎหมายหรือไปโกงใคร อย่าโยงว่า เป็นบิ๊กป๊อก ต่อให้ทำผิดก็ต้องโดน ดังนั้นใครที่มีคดีความไม่มีข้อยกเว้น อย่างไรก็ตามยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกดดันในมีการเร่งรัดทำคดีดังกล่าว ขณะนี้เมื่อเรื่องอยู่ที่ศาลก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม ส่วนการอนุญาต น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางออกนอกประเทศได้หรือไม่นั้น เป็นอำนาจการพิจารณาของศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะอัยการได้ส่งเรื่องไปให้ศาลฯพิจารณาแล้วจึงขึ้นอยู่ที่ศาลจะอนุญาตหรือไม่

เมื่อถามว่า ได้รับรายงานความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามว่ามีคลื่นใต้น้ำในจังหวัดใดบ้างหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี และไม่ได้รับรายงานว่า มีความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในจังหวัดใด ทั้งนี้หากมีกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวก่อกวน ทางหน่วยงานความมั่นคงจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามในส่วนของจังหวัดทางผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องลงไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุข ประเทศจะได้เดินหน้าต่อไปได้.


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558