Page 1 of 1

ปตท.กำไรปี 57 วูบ40% PTTGC จ่อผุดปิโตรคอมเพล็กซ์ที่สหรัฐ

Posted: 21 Feb 2015, 14:12
by brid.ladawan
ปตท.กำไรปี 57 วูบ40% PTTGC จ่อผุดปิโตรคอมเพล็กซ์ที่สหรัฐ

ปตท.แจงปี 57 กำไรทรุดวูบ 40%เหลือ 5.5 หมื่นล้านบาท เหตุได้รับผลกระทบจากการขาดทุนสต็อกนำมัน และแบกรับภาระขาดทุน NGV เร่งกลุ่มปตท.ทบทวนแผนการลงทุนใหม่รับมือตลาดน้ำมันผันผวน คาดได้ข้อสรุปสิ้น มี.ค. 58 ชี้เป็นจังหวะที่ดีในการไล่ซื้อกิจการ ด้าน PTTGC เดินหน้าลุยโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่สหรัฐฯ โดยใช้อีเทนจาก Shale Gas คาด 2-3 เดือนนี้ได้ข้อสรุปเลือกที่ตั้งโครงการ เผยดึงญี่ปุ่นเข้าเป็นพันธมิตรเพื่อทำตลาดเม็ดพลาสติกภายในประเทศสหรัฐฯ

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2557 ปตท.มีกำไรสุทธิ 55,795 ล้านบาท ลดลง 40% เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่มีกำไรสุทธิ 93,091 ล้านบาท เป็นผลมาจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลงถึง 50%ในปลายปีที่แล้ว ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบต่อธุรกิจน้ำมันและธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งยังต้องแบกรับภาระการขาดทุนเอ็นจีวี 1.99 หมื่นล้านบาท ขณะที่ธุรกิจในเครือฯ อาทิ กลุ่มโรงกลั่นและบริษัทน้ำมันเกิดการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันจำนวนมากในช่วงไตรมาส 4/2557 ขณะที่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลประกอบการดีขึ้น 21% และธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ก็ดีขึ้นเช่นกัน

" โครงสร้างธุรกิจของปตท.ทำตั้งแต่อัพสตรีมถึงดาวน์สตรีม ทำให้ปตท.ได้รับผลกระทบน้อยกว่าบริษัทน้ำมันอื่นๆ ส่งผลให้ราคาหุ้นPTT ไม่ได้ปรับลดลงมากนักจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้มีการปรับโครงสร้างราคาพลังงานทำให้มีการปรับขึ้นราคาNGV ขึ้นมา 2.50 บาท/กก.ช่วยลดภาระการขาดทุนลง"

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นมาอยู่ระดับ 50- 60เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มองว่าโอกาสที่ราคาน้ำมันจะลงไปต่ำกว่า 40 เหรียญสหรัฐก็คงยาก ดังนั้น ปีนี้บริษัทฯคาดว่ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี (EBITDA) จะไม่ต่ำกว่าปี 2557 ที่อยู่ระดับ 2.51 แสนล้านบาท เนื่องจากปีนี้จะมีการขายหุ้นบางจากฯที่ปตท.ถือหุ้นอยู่ 27% การลดสัดส่วนหุ้นในบริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่งจำกัด (มหาชน)(SPRC)ทันทีที่บริษัทฯเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในครึ่งปีหลัง 2558 และการนำบริษัท GPSC ที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าเข้าตลาดหุ้นในไตรมาส 2 นี้ รวมทั้งภาระการขาดทุนทั้งNGV และLPG ลดลงด้วย

นายไพรินทร์ กล่าวถึงแผนการลงทุน 5ปีนี้ จะใช้เงินลงทุน 9.97 แสนล้านบาท โดยแบ่งการการลงทุนของปตท.สผ. 55% ปตท. 33% ปิโตรเคมีและการกลั่น 14% โดยงบลงทุนของปตท.ใน 5ปีนี้จะใช้เงิน 3.27 แสนล้านบาท โดยปีนี้วางงบลงทุนไว้ที่ 8.54 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่าคาดหมาย ทำให้กลุ่มปตท.ต้องมีทบทวนงบประมาณการลงทุนใหม่หมด คาดว่าสิ้นมี.ค.นี้จะได้ข้อสรุป
จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงนี้ ปตท.มองว่าน่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อกิจการ หรือลงทุนเพิ่มเติม เนื่องจากค่าก่อสร้างและเครื่องจักรลดลง แต่เมื่อตัดสินใจที่จะลงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีทีโกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) เปิดเผยว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ที่เมืองMarcellus เขตตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ขนาดกำลังการผลิต 1 ล้านตัน มูลค่าการลงทุน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยใชัอีเทนจากShale Gas เป็นวัตถุดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีราคาถูกประมาณ 2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

เบื้องต้นมีพื้นที่ที่น่าสนใจเพื่อตั้งโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์อยู่ 3 แห่งที่คาดว่าจะสรุปคัดเลือกพื้นที่ได้ในเดือนมี.ค.-เม.ย.นี้ หลังจากนั้นจะพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการใช้เวลา 1 ปี หากพบว่าโครงการดังกล่าวมีผลตอบแทนที่ดีก็จะลงทุน โดยบริษัทฯจะถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% เบื้องต้นได้มีการดึงบริษัทเทรดดิ้งญี่ปุ่นเข้ามาร่วมทุนโครงการดังกล่าว เพื่อหวังทำตลาดภายในสหรัฐฯ

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ที่อินโดนีเซียว่า หลังจากเปอร์ติน่า ดึงซาอุดิอารัมโก เข้ามาปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันที่บางลองกัน อินโดนีเซีย มีแผนที่จะนำโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ร่วมกับการปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันดังกล่าวเข้ามาอินทิเกรต ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง โดยจะนำแนฟทาจากโรงกลั่นดังกล่าวมาใช้เป็นวัตถุดิบในโครงการปิโตรเคมี คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558