แนวโน้มธุรกิจจีนในสามเดือนข้างหน้า ตกต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี
Posted: 23 Feb 2015, 13:48
แนวโน้มธุรกิจจีนในสามเดือนข้างหน้า ตกต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี
ธนาคารกลางจีนลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน และยังได้ปรับลดอัตราเงินสดสำรองของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่องในแผ่นดินใหญ่ (ภาพ: รอยเตอร์ส)
เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- ชี้แนวโน้มธุรกิจแดนมังกรในสามเดือนข้างหน้า ตกต่ำเป็นประวัติการณ์
เอ็มเอ็นไอ ไชน่า บิซิเนส (MNI China Business Indicator) บริษัทจัดทำข้อมูลความเชื่อมั่นธุรกิจในประเทศจีน ซึ่งเป็นเครือบริษัท Deutsche Börse Group เจ้าของตลาดหุ้นแฟรงค์เฟิร์ต หั่นตัวเลขความเชื่อมั่นภาคธุรกิจจีนในเดือนก.พ. เหลือ 52.8 จากระดับ 53.7 ในเดือนม.ค. โดยการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อแก่กลุ่มบริษัท เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความหวังภาคธุรกิจตกต่ำสุดนับจากปี 2550 และการดำเนินธุกรกิจในสามเดือนข้างหน้านี้จะประสบความยากลำบากสาหัส
“แม้มีสัญญาณการฟื้นตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ดัชนีส่วนใหญ่ในการสำรวจ ล้วนชะลอตัวตั้งแต่ต้นปี 2558 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจปีนี้จะประสบความยากลำบาก” ฟิลิป อักโกล์ว หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ประจำ MNI กล่าว
แม้ในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา (2557) ธนาคารกลางของจีนสั่งลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน (benchmark interest rate) และในเดือนนี้ก็ปรับลดอัตราเงินสดสำรองของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่องของบริษัทจีน แต่จากการสำรวจ ก็พบว่า มาตรการดังกล่าวยังไม่สามารถช่วยบรรดาบริษัทได้เท่าใดนัก ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทจีนที่ยังประสบปัญหาสภาพคล่อง ได้แก่ กลุ่มบริษัทในภาคการผลิต และภาคบริการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ในขณะเดียว บริษัทเหล่านี้ยังเผชิญแรงกดดันเงินฝืด และราคาสินค้าตกต่ำ
ส่วนดัชนีด้านการสั่งซื้อและการผลิตเพิ่มสูงขึ้นในเดือนธ.ค. (2557) เนื่องจากรัฐบาลกลางประกาศโครงการลงทุนสาธารณูปโภคใหม่หลายโครงการ แต่ดัชนีเหล่านี้ ก็ฝ่อแฟบถอยลงไปอีก ทำให้แนวโนมเศรษฐกิจในสามเดือนข้างหน้า แย่สุดในรอบ 8 ปี
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2558
ธนาคารกลางจีนลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน และยังได้ปรับลดอัตราเงินสดสำรองของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่องในแผ่นดินใหญ่ (ภาพ: รอยเตอร์ส)
เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- ชี้แนวโน้มธุรกิจแดนมังกรในสามเดือนข้างหน้า ตกต่ำเป็นประวัติการณ์
เอ็มเอ็นไอ ไชน่า บิซิเนส (MNI China Business Indicator) บริษัทจัดทำข้อมูลความเชื่อมั่นธุรกิจในประเทศจีน ซึ่งเป็นเครือบริษัท Deutsche Börse Group เจ้าของตลาดหุ้นแฟรงค์เฟิร์ต หั่นตัวเลขความเชื่อมั่นภาคธุรกิจจีนในเดือนก.พ. เหลือ 52.8 จากระดับ 53.7 ในเดือนม.ค. โดยการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อแก่กลุ่มบริษัท เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความหวังภาคธุรกิจตกต่ำสุดนับจากปี 2550 และการดำเนินธุกรกิจในสามเดือนข้างหน้านี้จะประสบความยากลำบากสาหัส
“แม้มีสัญญาณการฟื้นตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ดัชนีส่วนใหญ่ในการสำรวจ ล้วนชะลอตัวตั้งแต่ต้นปี 2558 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจปีนี้จะประสบความยากลำบาก” ฟิลิป อักโกล์ว หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ประจำ MNI กล่าว
แม้ในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา (2557) ธนาคารกลางของจีนสั่งลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน (benchmark interest rate) และในเดือนนี้ก็ปรับลดอัตราเงินสดสำรองของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่องของบริษัทจีน แต่จากการสำรวจ ก็พบว่า มาตรการดังกล่าวยังไม่สามารถช่วยบรรดาบริษัทได้เท่าใดนัก ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทจีนที่ยังประสบปัญหาสภาพคล่อง ได้แก่ กลุ่มบริษัทในภาคการผลิต และภาคบริการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ในขณะเดียว บริษัทเหล่านี้ยังเผชิญแรงกดดันเงินฝืด และราคาสินค้าตกต่ำ
ส่วนดัชนีด้านการสั่งซื้อและการผลิตเพิ่มสูงขึ้นในเดือนธ.ค. (2557) เนื่องจากรัฐบาลกลางประกาศโครงการลงทุนสาธารณูปโภคใหม่หลายโครงการ แต่ดัชนีเหล่านี้ ก็ฝ่อแฟบถอยลงไปอีก ทำให้แนวโนมเศรษฐกิจในสามเดือนข้างหน้า แย่สุดในรอบ 8 ปี
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2558