Page 1 of 1

เทคนิคเตรียมลุยสำหรับเด็กจบใหม่!! พลิกวิกฤต (ว่างงาน) ให้เป็

Posted: 23 Feb 2015, 15:02
by brid.ladawan
เทคนิคเตรียมลุยสำหรับเด็กจบใหม่!! พลิกวิกฤต (ว่างงาน) ให้เป็นโอกาส

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัญหาหลักของนักศึกษาจบใหม่นั้น คือการต้องเผชิญหน้ากับปัญหาการว่างงาน หากบางคนจบมาได้งานทำเลยถือว่าโชคดี หรือเรียกได้ว่าจังหวะและโอกาสอยู่ในกำมือ แต่สำหรับนักศึกษาจบใหม่ที่ยังว่างงานอยู่คงกังวลใจไม่น้อย ยิ่งเพื่อนๆ ต่างพากันได้งานแล้วด้วย ยิ่งคิดมากเข้าไปใหญ่ วันนี้ Life on Campus จึงมีบทความดีๆ เทคนิคการเตรียมตัวพลิกวิกฤต (ว่างงาน) ให้เป็นโอกาส เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆ ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษา หรือสำหรับน้องๆ ที่กำลังเรียนอยู่จะได้เตรียมตัว เตรียมความพร้อมให้ดีก่อนชีวิตการทำงานจะเริ่มต้นขึ้น..

เตรียมข้อมูลการสมัครให้เป๊ะ..ลบจุดบกพร่อง!

แน่นอนว่าเด็กจบใหม่ที่กำลังว่างงานนั้น จะมีเวลามากกว่าคนที่ได้งานแล้ว หากคิดในแง่ดีคือการมีเวลามากขึ้นในการเตรียมตัวสมัครงาน เราควรใช้เวลาตรงนั้นในการกลับมาตรวจสอบ และทบทวนดูว่ามีข้อผิดพลาดตรงไหน หรือมีปัญหาที่จุดใด ทำไมจึงไม่ได้งานทำ รวมถึงหาข้อบกพร่องต่างๆ ที่ทำให้เราพลาดตำแหน่งงานที่ต้องการไปได้ จากนั้นให้เตรียมอัพเดทเรซูเม่ให้น่าสนใจกว่าเดิม เช่นการปรับเปลี่ยนรูปแบบเรซูเม่ให้มีความพิเศษแตกต่างจากเรซูเม่แบบทั่วไป เพื่อที่ดึงความสนใจจากผู้จ้างงานนั้นเอง

นอกจากนี้นักศึกษาจบใหม่ควรอย่างยิ่งที่จะศึกษาความต้องการของตลาดแรงงาน และกำหนดทิศทางการสมัครงานให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงควรใช้เวลาตอนว่างงานให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ด้วยการเตรียมข้อมูลให้พร้อมทุกด้าน ก่อนเริ่มต้นสมัครงานในครั้งต่อไป

อย่าทิ้งเวลาให้เปล่าประโยชน์!

ความจริงคือการว่างงานไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป และไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่บ้านเฉยๆ รอโอกาสวิ่งเข้าใส่เท่านั้น เด็กจบใหม่บางคนถึงกับท้อจนไม่อยากจะทำอะไรเลย นอนรอโอกาสจากเสียงโทรศัพท์ปลายทาง ซึ่งอาจเป็นการทำลายเวลาที่มีค่านั้นให้เสียไปเปล่าๆ ดังนั้นเด็กจบใหม่ที่ว่างงานอยู่ สามารถเพิ่มโอกาสให้กับตัวเองได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานฟรีแลนซ์ หางานพาร์ทไทม์ทำ หรือหางานเล็กๆ น้อยๆ ทำระหว่างที่รอการตอบรับจากบริษัท เพื่อจะได้ไม่ทิ้งเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์

ข้อดีของการทำงานเสริมระหว่างรองานประจำคือ ช่วยลดความกดดันหลังจากพลาดงานลงไปได้บ้าง และในขณะเดียวกันเราสามารถสร้างรายได้ส่วนหนึ่งให้กับตัวเอง เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการสมัครงานครั้งต่อไป อีกทั้ง การทำฟรีแลนซ์ยังช่วยให้เราพัฒนาตัวเองในแง่ของศักยภาพการทำงาน รวมถึงได้กลุ่มเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ สามารถปรับเปลี่ยนมุมมองและทัศนคติของกันและกันได้

พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ!

ปัญหาหลักอีกประการที่ทำให้ต้องผิดหวังไปคือ การขาดทักษะบางอย่างที่องค์กรต้องการ หรือทักษะที่ตำแหน่งนั้นๆ ควรจะมี เช่น หากผู้สมัครต้องการสมัครงานไอทีในบริษัทต่างชาติ แต่ไม่พูดภาษาอังกฤษได้ไม่ดี หรือไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ดังนั้นสิ่งที่เราควรแก้ไขคือการเสริมความรู้ให้กับตัวเองอย่างเร่งด่วน เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ตำแหน่งงานที่เคยคาดหวังไว้ก็คงเป็นได้แค่ความฝัน

สำหรับเด็กจบใหม่ที่ว่างงานคือคนที่มีเวลาว่าง ควรรีบมองหาแนวทางในการพัฒนาตัวเอง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อาจจะด้วยการลงเรียนเสริมความรู้ เสริมทักษะในการทำงานให้มีมากขึ้น หรือขอเข้าไปฝึกงานในบริษัทที่สนใจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งานทำ ในการหางานแต่ละครั้ง สิ่งสำคัญคือควรละทิ้งทัศนคติเรื่องการเลือกงานไว้ข้างหลัง หากเราอยากได้งาน เราต้องไม่เลือกงาน ไม่อย่างนั้นโอกาสและประสบการณ์ในการทำงานก็จะยิ่งห่างไกลออกไป

รวมถึงไม่ควรคิดว่าการต้องตกอยู่ในภาวะว่างงานนั้นเป็นความเครียด แต่ให้คิดว่าเรายังมีโอกาสในการเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองก่อนที่จะเริ่มต้นหางานครั้งใหม่ เพียงแต่อย่าเพิ่งท้อ เด็กจบใหม่หลายคนจะรู้สึกท้อแท้ ทั้งที่เพิ่งเริ่มต้นหางานไปได้ไม่กี่ครั้ง หากยังไม่ได้งานทันที ก็ให้เตรียมความพร้อมให้มากขึ้นกว่าเดิม และเพิ่มความมั่นใจทั้งกับตัวเองและนายจ้าง ให้ได้เห็นความมุ่งมั่นและความพร้อมที่จะทำงานนั้นเอง

สานสัมพันธ์ Keep In Touch!!

สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับคนรอบตัว รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนๆ เอาไว้ เพราะพวกเขาเหล่านั้นจะได้ช่วยแนะนำอะไรดีๆ ให้เราได้เมื่อมีโอกาส ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งงานว่าง ช่องทางการหางาน หรือคนรู้จักที่จะสามารถ แนะนำงานให้เราได้ อย่าลืมว่าสังคมไทยเป็นสังคมอุปถัมภ์ คนที่มีเครือข่ายกว้างขวางย่อมได้เปรียบคนที่เก่งอย่างเดียว ดังนั้นควรสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัวไว้


ขอบคุณข้อมูลจาก
- http://www.dailyenglish.in.th/
- http://th.jobsdb.com/
- http://jobmarket.co.th/


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558