ก.วิทย์ฯไฟเขียวนักเรียนทุน ทำงานวิจัยกับเอกชนได้
Posted: 24 Feb 2015, 10:00
ก.วิทย์ฯไฟเขียวนักเรียนทุน ทำงานวิจัยกับเอกชนได้
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ นโยบายส่งเสริมบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) จากมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยของภาครัฐ
กระทรวงวิทย์ฯ ปลดล็อกเงื่อนไข นักเรียน-นักวิจัยทุน ไม่สามารถทำงานภาคเอกชน พร้อมเตรียมจัดงาน ทาเลนท์ โมบิลิตี้ แฟร์ จับคู่นักวิจัยกับภาคธุรกิจ
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ นโยบายส่งเสริมบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) จากมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยของภาครัฐ ไปปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในภาคเอกชน (Talent Mobility) ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เสนอ ทำให้กฎเกณฑ์บางอย่างที่ทำให้นักวิจัยและนักเรียนทุนไม่สามารถไปปฏิบัติงานในภาคเอกชนได้ ถูกคลี่คลายลงไป ผู้ที่ไปปฏิบัติงานภายใต้นโยบาย ทาเลนท์ โมบิลิตี้ จะถือว่าเป็นการปฏิบัติงานเต็มเวลา โดยให้นับเป็นอายุราชการหรืออายุงานของหน่วยงานต้นสังกัดรวมถึงการขึ้นเงินเดือน ตามเกณฑ์ที่หน่วยงานต้นสังกัดจัดทำขึ้น
“เมื่อเอกชนเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนามากขึ้น จะเกิดความต้องการบุคลากรวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม มากขึ้น ซึ่งบุคลากรเหล่านี้กระจายตัวอยู่ในภาครัฐและสถาบันการศึกษาถึง 83% ขณะที่ภาคเอกชน มีเพียง 17% นโยบาย ทาเลนท์ โมบิลิตี้ จะเป็นกลไกสำคัญที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย ช่วยให้ประเทศหลุดพ้นจากการเป็นประเทศรายได้ปานกลาง ช่วยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของสถานประกอบการภาคเอกชนอย่างเป็นรูปธรรม”
ดร.พิเชฐ กล่าวอีกว่า เพื่อที่จะเป็นการต่อยอดความสำเร็จและขับเคลื่อนนโยบาย ทาเลนท์ โมบิลิตี้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) จะมีการจัดงาน ทาเลนท์ โมบิลิตี้ แฟร์ ในวันที่ 25 มี.ค. 2558 ภายในงานจะมีการจัดให้ภาคเอกชนพบปะนักวิจัย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเปิดตัวฐานข้อมูลนักวิจัยเพื่อประโยชน์ของภาคเอกชนอีกด้วย.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ นโยบายส่งเสริมบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) จากมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยของภาครัฐ
กระทรวงวิทย์ฯ ปลดล็อกเงื่อนไข นักเรียน-นักวิจัยทุน ไม่สามารถทำงานภาคเอกชน พร้อมเตรียมจัดงาน ทาเลนท์ โมบิลิตี้ แฟร์ จับคู่นักวิจัยกับภาคธุรกิจ
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ นโยบายส่งเสริมบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) จากมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยของภาครัฐ ไปปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในภาคเอกชน (Talent Mobility) ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เสนอ ทำให้กฎเกณฑ์บางอย่างที่ทำให้นักวิจัยและนักเรียนทุนไม่สามารถไปปฏิบัติงานในภาคเอกชนได้ ถูกคลี่คลายลงไป ผู้ที่ไปปฏิบัติงานภายใต้นโยบาย ทาเลนท์ โมบิลิตี้ จะถือว่าเป็นการปฏิบัติงานเต็มเวลา โดยให้นับเป็นอายุราชการหรืออายุงานของหน่วยงานต้นสังกัดรวมถึงการขึ้นเงินเดือน ตามเกณฑ์ที่หน่วยงานต้นสังกัดจัดทำขึ้น
“เมื่อเอกชนเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนามากขึ้น จะเกิดความต้องการบุคลากรวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม มากขึ้น ซึ่งบุคลากรเหล่านี้กระจายตัวอยู่ในภาครัฐและสถาบันการศึกษาถึง 83% ขณะที่ภาคเอกชน มีเพียง 17% นโยบาย ทาเลนท์ โมบิลิตี้ จะเป็นกลไกสำคัญที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย ช่วยให้ประเทศหลุดพ้นจากการเป็นประเทศรายได้ปานกลาง ช่วยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของสถานประกอบการภาคเอกชนอย่างเป็นรูปธรรม”
ดร.พิเชฐ กล่าวอีกว่า เพื่อที่จะเป็นการต่อยอดความสำเร็จและขับเคลื่อนนโยบาย ทาเลนท์ โมบิลิตี้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) จะมีการจัดงาน ทาเลนท์ โมบิลิตี้ แฟร์ ในวันที่ 25 มี.ค. 2558 ภายในงานจะมีการจัดให้ภาคเอกชนพบปะนักวิจัย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเปิดตัวฐานข้อมูลนักวิจัยเพื่อประโยชน์ของภาคเอกชนอีกด้วย.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558