2แบงก์รัฐพร้อมปล่อยกู้กองทุนหมู่บ้าน
Posted: 24 Feb 2015, 10:03
2แบงก์รัฐพร้อมปล่อยกู้กองทุนหมู่บ้าน
ออมสิน-ธกส.พร้อมอัดฉีดวงเงินเข้ากองทุนหมู่บ้าน รวม 40,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5% เวลา 5 ปี ชง ครม.เห็นชอบ 10 มี.ค.นี้
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ข้อสรุปว่าทั้ง 2 สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ(แบงก์รัฐ) จะปล่อยกู้ให้กับกองทุนหมู่บ้าน ธนาคารละ 20,000 ล้านบาท กับกองทุนหมู่บ้านที่มีผลประกอบการดีแห่งละ 1 ล้านบาทเป็นเวลา 5 ปี ในอัตราดอกเบี้ยปีละ 5% ต่อปีโดยที่รัฐบาลไม่ต้องชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้เพราะถือเป็นการปล่อยกู้ตามปกติของธนาคารซึ่งจะเสนอให้ครม. เห็นชอบภายในวันที่ 10 มี.ค. นี้
ทั้งนี้ เงินที่กองทุนหมู่บ้านกู้ไปนั้นจะไปดำเนินการปล่อยกู้ต่อให้กับสมาชิกในหมู่บ้าน โดยมีวัตถุประสงค์ 3 ส่วน เพื่อแก้หนี้นอกระบบเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และปล่อยกู้เพื่อไปใช้ฉุกเฉิน ขณะที่ กองทุนหมู่บ้านที่ผลการดำเนินงานไม่ดีจะต้องพิจารณาอีกครั้งว่ามีการปรับปรุงการดำเนินการให้ดีขึ้นหรือยังถึงจะดูว่าจะปล่อยกู้ให้เพิ่มหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ นายสมหมาย ภาษีรมว.คลัง กำลังหารือรายละเอียดกับทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่า จะชดเชยดอกเบี้ยกู้ให้กับธนาคารทั้ง2 แห่งหรือไม่ เพราะต้องใช้เงินปีละ 2,000 ล้านบาท เป็นเวลา 5 ปี ต้องใช้เงินถึง 10,000 ล้านบาทเพราะหากไม่ชดเชยดอกเบี้ยให้กองทุนหมู่บ้านต้องไปปล่อยกู้ประชาชนในหมู่บ้านมากกว่า5% ทำให้เป็นภาระกับผู้กู้อาจทำให้มาตรการแก้ไขปัญหาความยากจนไม่ได้ผล
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558
ออมสิน-ธกส.พร้อมอัดฉีดวงเงินเข้ากองทุนหมู่บ้าน รวม 40,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5% เวลา 5 ปี ชง ครม.เห็นชอบ 10 มี.ค.นี้
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ข้อสรุปว่าทั้ง 2 สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ(แบงก์รัฐ) จะปล่อยกู้ให้กับกองทุนหมู่บ้าน ธนาคารละ 20,000 ล้านบาท กับกองทุนหมู่บ้านที่มีผลประกอบการดีแห่งละ 1 ล้านบาทเป็นเวลา 5 ปี ในอัตราดอกเบี้ยปีละ 5% ต่อปีโดยที่รัฐบาลไม่ต้องชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้เพราะถือเป็นการปล่อยกู้ตามปกติของธนาคารซึ่งจะเสนอให้ครม. เห็นชอบภายในวันที่ 10 มี.ค. นี้
ทั้งนี้ เงินที่กองทุนหมู่บ้านกู้ไปนั้นจะไปดำเนินการปล่อยกู้ต่อให้กับสมาชิกในหมู่บ้าน โดยมีวัตถุประสงค์ 3 ส่วน เพื่อแก้หนี้นอกระบบเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และปล่อยกู้เพื่อไปใช้ฉุกเฉิน ขณะที่ กองทุนหมู่บ้านที่ผลการดำเนินงานไม่ดีจะต้องพิจารณาอีกครั้งว่ามีการปรับปรุงการดำเนินการให้ดีขึ้นหรือยังถึงจะดูว่าจะปล่อยกู้ให้เพิ่มหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ นายสมหมาย ภาษีรมว.คลัง กำลังหารือรายละเอียดกับทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่า จะชดเชยดอกเบี้ยกู้ให้กับธนาคารทั้ง2 แห่งหรือไม่ เพราะต้องใช้เงินปีละ 2,000 ล้านบาท เป็นเวลา 5 ปี ต้องใช้เงินถึง 10,000 ล้านบาทเพราะหากไม่ชดเชยดอกเบี้ยให้กองทุนหมู่บ้านต้องไปปล่อยกู้ประชาชนในหมู่บ้านมากกว่า5% ทำให้เป็นภาระกับผู้กู้อาจทำให้มาตรการแก้ไขปัญหาความยากจนไม่ได้ผล
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558