คลังเล็งหาคนคุม กอช.
Posted: 27 Feb 2015, 15:45
คลังเล็งหาคนคุม กอช.
คลังพร้อมหาคนคุม กอช. การันตีผลตอบแทนไม่ต่ำกว่าเงินฝากเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ แถมช่วยคนเกษียณมีเงินใช้เลี้ยงชีพ
นายกฤษฎาจีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเปิดรับสมัครผู้จัดการกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) ทันที ภายหลังจากที่ประชุม ครม. สัปดาห์หน้าเห็นชอบให้เดินหน้ากองทุนโดยพร้อมรับโอนสมาชิกจากกองทุนประกันสังคม ตามมาตรา 40 (3) ประมาณ 1 ล้านรายมาเป็นสมาชิก กอช. ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจ เนื่องจากกองทุนตามมาตรา 40จะไม่เปิดรับสมาชิก ทำให้ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม
“มั่นใจว่า กอช.จะได้รับความสนใจอย่างมากเมื่อเทียบกับกองทุนตามมาตรา 40 (3) เนื่องจากตามกฎหมายรัฐบาลจะค้ำประกันผลตอบแทนให้กับสมาชิก กอช. ทุกคนโดยคิดคำนวณอัตราผลประโยชน์ให้ไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนเฉลี่ยของธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)และธนาคารพาณิชย์ใหญ่อีก 5 แห่ง เพื่อให้มีเงินออมเพียงพอภายหลังจากที่เกษียณ”
ทั้งนี้กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาว่าการดำเนินการกองทุน โดยจะเป็นผู้บริหารเองหรือจะปล่อยให้การดำเนินงานเป็นแบบกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่เปิดสำนักงานบริหารภายนอกรวมถึงจะเปิดให้ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส.มาดูแลระบบรับขึ้นทะเบียนหรือไม่เพื่อให้ตัวกองทุนเองมีหน้าที่นำเงินออมไปบริหารลงทุนเพียงอย่างเดียวซึ่งอาจจะบริหารเอง หรือว่าจ้างบริษัทจัดการหลักทรัพย์ มาช่วยบริหาร
อย่างไรก็ตาม คาดว่าปี 58 จะมีวงเงินจัดตั้งกองทุนเฉลี่ยที่ 600-700 ล้านบาท แต่หากมีประชาชนให้ความสนใจมาออมเงินเข้ากองทุนมากกว่าที่คาดก็จะต้องมีการของบประมาณเพิ่มเติม โดยคาดว่าต่อปีจะอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท โดยกอช.จะมีโครงสร้างตามกฎหมายเดิมที่กำหนดให้แรงงานนอกที่อายุ 15 ปี ขึ้นไปสามารถสมัครเป็นสมาชิก กอช. ได้ ซึ่งจ่ายสมทบขั้นต่ำ 50 บาท แต่ต้องไม่เกินปีละ 13,200 บาทต่อปี
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558
คลังพร้อมหาคนคุม กอช. การันตีผลตอบแทนไม่ต่ำกว่าเงินฝากเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ แถมช่วยคนเกษียณมีเงินใช้เลี้ยงชีพ
นายกฤษฎาจีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเปิดรับสมัครผู้จัดการกองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) ทันที ภายหลังจากที่ประชุม ครม. สัปดาห์หน้าเห็นชอบให้เดินหน้ากองทุนโดยพร้อมรับโอนสมาชิกจากกองทุนประกันสังคม ตามมาตรา 40 (3) ประมาณ 1 ล้านรายมาเป็นสมาชิก กอช. ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจ เนื่องจากกองทุนตามมาตรา 40จะไม่เปิดรับสมาชิก ทำให้ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม
“มั่นใจว่า กอช.จะได้รับความสนใจอย่างมากเมื่อเทียบกับกองทุนตามมาตรา 40 (3) เนื่องจากตามกฎหมายรัฐบาลจะค้ำประกันผลตอบแทนให้กับสมาชิก กอช. ทุกคนโดยคิดคำนวณอัตราผลประโยชน์ให้ไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนเฉลี่ยของธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)และธนาคารพาณิชย์ใหญ่อีก 5 แห่ง เพื่อให้มีเงินออมเพียงพอภายหลังจากที่เกษียณ”
ทั้งนี้กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาว่าการดำเนินการกองทุน โดยจะเป็นผู้บริหารเองหรือจะปล่อยให้การดำเนินงานเป็นแบบกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่เปิดสำนักงานบริหารภายนอกรวมถึงจะเปิดให้ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส.มาดูแลระบบรับขึ้นทะเบียนหรือไม่เพื่อให้ตัวกองทุนเองมีหน้าที่นำเงินออมไปบริหารลงทุนเพียงอย่างเดียวซึ่งอาจจะบริหารเอง หรือว่าจ้างบริษัทจัดการหลักทรัพย์ มาช่วยบริหาร
อย่างไรก็ตาม คาดว่าปี 58 จะมีวงเงินจัดตั้งกองทุนเฉลี่ยที่ 600-700 ล้านบาท แต่หากมีประชาชนให้ความสนใจมาออมเงินเข้ากองทุนมากกว่าที่คาดก็จะต้องมีการของบประมาณเพิ่มเติม โดยคาดว่าต่อปีจะอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท โดยกอช.จะมีโครงสร้างตามกฎหมายเดิมที่กำหนดให้แรงงานนอกที่อายุ 15 ปี ขึ้นไปสามารถสมัครเป็นสมาชิก กอช. ได้ ซึ่งจ่ายสมทบขั้นต่ำ 50 บาท แต่ต้องไม่เกินปีละ 13,200 บาทต่อปี
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558