คาด ศก.ไตรมาสแรกขยายตัวไม่ถึง 3%

[brid.ladawan]

คาด ศก.ไตรมาสแรกขยายตัวไม่ถึง 3%

สศค.ประเมินเศรษฐกิจไทย ไตรมาสแรกขยายตัวไม่ถึง 3% หลังการลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลดตัว ชี้หากไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจเข้ามาเพิ่มเติมจีดีพีจะอยู่ที่ 3.9%

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้ประเมินเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปี 58 จะขยายตัวได้ไม่ถึง 3% เนื่องจากได้รับผลกระทบของการลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลอตัว โดยในเดือนม.ค.58 การลงทุนภาคเอกชนในหมวดก่อสร้างชะลอตัว สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ ที่ติดลบ 5.8% ต่อปี และการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุนหักเครื่องบินเรือและรถไฟหดตัว ติดลบ 4.5% ต่อปี แต่ยังเชื่อว่าจะขยายตัวได้มากกว่าไตรมาส 4 ปี 57 ที่ขยายตัวได้ 2.3% และหากไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจเข้ามาเพิ่มเติมอีก มองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3.9% ต่อปี

ทั้งนี้ การเบิกจ่ายภาครัฐเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะการทำสัญญาโครงการลงทุนของกระทรวงคมนาคมที่ทำได้ตามเป้าหมาย ซึ่ง สศค.คาดว่าการเบิกจ่ายงบทุนปี 58 จะเบิกจ่ายได้ประมาณ 70% โดยฐานะภาคการคลัง เดือน ม.ค.58 รัฐบาลขาดดุล 57,600 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าภาคการคลังยังมีบทบาทกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ รวมทั้ง โครงการซ่อมสร้างถนนทั่วประเทศวงเงิน 40,000 ล้านบาท เป็นอีกมาตรการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หากรัฐบาลเบิกจ่ายได้เร็วขึ้น ก็จะส่งผลดีกับเศรษฐกิจไทย

ขณะที่ มาตรการเติมเงินให้กับกองทุนหมู่บ้าน 79,000 แห่ง โดยกว่า 50,000 หมู่บ้าน ที่ได้เงินเพิ่มทุนรอบ 3 ไปแล้ว ก็จะมีวงเงินกู้จากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) 40,000 ล้านบาท ให้ไปปล่อยกู้สมาชิก ส่วนกว่า 25,000 หมู่บ้านที่ยังไม่ได้เงินเพิ่มทุน ทางรัฐบาลก็เร่งเพิ่มทุนให้ โดยเชื่อว่ามาตรการนี้จะช่วยเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง เพราะวงเงินที่เพิ่มเติมเข้าไปจะกระจายสู่ชุมชน ทำให้ประชาชนเกิดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการส่งออก เดือน ม.ค.58 กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดเผยแล้ว ว่าขยายตัวติดลบ 3.5% ซึ่งเป็นไปตามที่ สศค. คาดการณ์ไว้ เนื่องจากได้ผลกระทบจากต่างประเทศ ที่มีปัจจัยสำคัญมาจากการส่งออกสินค้าในหมวดสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร และน้ำมันสำเร็จรูป ที่เวลา 16:12 น.
ลดลง โดยตลาดส่งออกที่หดตัวลง ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และอาเซียน แต่คาดว่าทั้งปียังขยายตัวได้อยู่ 1.4% ตามที่คาดไว้

สำหรับการบริโภคภาคเอกชน เดือนม.ค.58 ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้า สะท้อนได้จากยอดจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จัดเก็บบนฐานการบริโภคภายในประเทศ ณ ราคาคงที่ ปรับเพิ่มขึ้น 9.5% ต่อปี และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออกจะขยายตัวได้ 6.8% ต่อเดือน รวมทั้ง ปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ กลับมาขยายตัวเป็นบวกเป็นเดือนแรกที่ 14.5% ต่อปี แต่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ยังปรับตัวลดลง อยู่ที่ระดับ 69.7 เป็นผลมาจากประชาชนยังมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวได้ช้า และราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558