ยิ่งอ้วน ยิ่งเสี่ยงข้อเข่าเสื่อม

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

ยิ่งอ้วน ยิ่งเสี่ยงข้อเข่าเสื่อม

Post by brid.ladawan »

ยิ่งอ้วน ยิ่งเสี่ยงข้อเข่าเสื่อม

เรื่องโรคภัยไข้เจ็บเรียกว่าไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งอายุมากขึ้นทุกวัน บวกกับทุกวันนี้หลายคนละเลยตัวเอง ยิ่งทำให้โรคร้ายถามหาอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะโรค ข้อเข่าเสื่อม ที่มีผู้ป่วยมากขึ้นทุกๆ วัน โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ จึงได้จัดกิจกรรม "ร้อยสู่ 1000 ปันข้อดี" ให้ความรู้และเทคนิคการดูแลสุขภาพป้องกันข้อเข่าเสื่อม

ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

ภายในงาน นอกจากจะมีกิจกรรมน่าสนใจอย่างการให้คำปรึกษาอาการข้อเข่าต่างๆ ตลอดจนประสบการณ์จากผู้ป่วยแล้ว ยังได้ รศ.นพ.กีรติ เจริญชลวานิช ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ มาให้ความรู้ว่า โรคข้อเข่าเสื่อมนี้เป็นโรคที่เกิดจากการสึกกร่อนของกระดูกอ่อนผิวข้อ โดยคนไทยมักจะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมประมาณ 70-80% เนื่องจากการใช้ชีวิตประจำวันของคนไทยที่มักนั่งกับพื้นเป็นส่วนใหญ่ เมื่อนั่งกับพื้นจะเกิดแรงกระทำกับที่ข้อ โดยเฉพาะข้อเข่า เช่น การลุกขึ้นหรือนั่งลงกับพื้น หรือนั่งยองๆ ขัดสมาธิ ซึ่งจะทำให้เสื่อมได้ง่าย

นอกจากนี้ ผู้หญิงยังเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย เพราะเสี่ยงจะเป็นโรคอ้วนมากกว่าเพศชาย ทั้งปัจจุบันหญิงไทยมีอายุเฉลี่ยสูงขึ้นจาก 60 กว่า เป็น 70 กว่าปี ทุกวันนี้พบเร็วขึ้นในอายุประมาณ 40-50 ปี ทั้งนี้ ภาวะอ้วนทำให้ข้อเข่าแบกรับน้ำหนักมากเกินถือเป็นปัจจัยสำคัญกับโรคนี้

"น้ำหนักตัวถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ข้อเสื่อมได้เร็วขึ้น เพราะแต่ละก้าวที่เราเดินและยืน เข่าต้องรับน้ำหนักของร่างกายไว้ทำให้เกิดแรงกดทับ ส่งผลให้เกิดภาวะข้อเสื่อมได้ ซึ่งปกติเท้าจะรับน้ำหนักข้างละ 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเดินก็จะเพิ่มเป็น 1.5 เท่าของน้ำหนักตัว เมื่อวิ่งก็จะเป็น 3-5 เท่าของน้ำหนักตัว ยิ่งถ้ากระโดดก็จะเพิ่มเป็น 7 เท่าของน้ำหนักตัว ยิ่งมีพฤติกรรมเสี่ยงจะทำให้ข้อรับแรงกระทำมากขึ้น ส่งผลให้ข้อสึกได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย ทำให้ข้อเสื่อมได้"



สำหรับวิธีการรักษานั้น รศ.นพ.กีรติแนะนำให้หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ ยาที่ดีที่สุดคือการออกกำลังกาย โดยกีฬาที่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคข้อ จะเป็นกีฬาประเภทที่ไม่มีการกระแทกแรงๆ เช่น ขี่จักรยาน เดินเร็ว ว่ายน้ำ เล่นแอโรบิกช้าๆ รำไทเก๊ก ส่วนกีฬาที่ไม่เหมาะ ไม่ควรเล่นกีฬาที่ใช้แรงกระแทก ซึ่งหากเป็นมากก็ควรทำกายภาพบำบัดหรือผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าต่อไป

ระวังไว้ก่อนดีที่สุด


ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 20 มกราคม 2558
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”