สรรพากรเร่งพิมพ์เช็กคืนภาษีประชาชน

[brid.ladawan]

สรรพากรเร่งพิมพ์เช็กคืนภาษีประชาชน

altนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ยอดการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาผ่านอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-28 กุมภาพันธ์ 2558
มีจำนวน 4 ล้านฉบับ โดยมีการยื่นแบบผ่านอินเทอร์เน็ตถึง 77% และยื่นผ่านแบบกระดาษ 23% จากยอดการยื่นแบบของบุคคลธรรมดาทั้งหมด 12 ล้านราย คาดว่าการยื่นแบบเสียภาษีในเดือนมีนาคมจะสูงถึง 8 ล้านฉบับ เพิ่มขึ้นเท่าตัวเพราะเป็นเดือนสุดท้ายในการยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี

สำหรับการคืนภาษีให้กับประชาชนในปีนี้คาดว่าจะมีการขอคืนภาษีประมาณ 2 ล้านฉบับ โดยขณะนี้มียอดขอคืนภาษี 500,000 รายจากยอดการยื่นแบบ 4 ล้านราย โดยในเดือนมกราคมได้คืนเงินภาษีให้แล้ว 1.9 ล้านราย เดือนกุมภาพันธ์คืนให้อีก 300,000 ราย ยอมรับการคืนภาษีล่าช้าในช่วงที่ผ่านมา เพราะธนาคารกรุงไทยได้เปลี่ยนแบบฟอร์มการพิมพ์เช็ก 8 สี เพื่อคืนเงินภาษีให้ประชาชนจึงเกิดความล่าช้าไป 10 กว่าวันกระทบผู้ขอคืนภาษีประมาณ 100,000 คน แต่ขณะนี้ได้แก้ไขปัญหาเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยอมรับว่าเมื่อยอดขอคืนภาษีมีจำนวนมากในเดือนมีนาคม ศักยภาพในการพิมพ์เช็กคืนภาษีผลิตได้ 25,000-30,000 ใบต่อวัน จึงอาจกระทบต่อการจัดส่งเช็กบ้างเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าคนรุ่นใหม่สนใจโหลดแอปพลิเคชัน RD Smart Tax ประมาณ 50,000 ราย แต่ยื่นแบบเพียง 20,000 ราย เพราะเป็นช่วงแรกของการโปรโมต จึงต้องการแนะนำให้ประชาชนยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านอินเทอร์เน็ต เพราะระบบจะช่วยคำนวณให้โดยอัตโนมัติ เพราะข้อมูลในระบบจะทำให้สะดวกในการประเมินภาษี มากกว่าการยื่นแบบผ่านกระดาษ และการยื่นแบบผ่านกระดาษใช้เวลาประมาณพิจารณาไม่เกิน 90 วัน หากยื่นขณะนี้พิจารณาคืนภาษีอย่างช้าในช่วงเดือนมิถุนายน

ส่วนการขอลดหย่อนภาษีในปีนี้ กรมสรรพากรอาจตรวจละเอียดขึ้น โดยเฉพาะการนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวในประเทศมาใช้หักลดหย่อนภาษี เน้นย้ำเฉพาะการพักโรงแรมที่มีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และโรงแรมในสังกัดสมาคมด้านการท่องเที่ยว เพื่อสามารถเช็กระบบการแจ้งภาษีของโรงแรมได้ ยอมรับโรงแรม รีสอร์ตหลายแห่งไม่ยอมเข้ามาอยู่ในระบบแม้จะมีใบเสร็จให้ลูกค้า เพราะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการรักษาสิ่งแวดล้อมในด้านการบำบัดน้ำเสีย รวมถึงการจองที่พักผ่านเว็บไซต์ต่างชาติ เช่น Agoda ไม่สามารถนำใบจองมาหักลดหย่อนภาษีได้ และย้ำให้บุตรใช้สิทธิลูกกตัญญูได้เพียงคนเดียวเท่านั้น


ที่มา ฐานเศรษฐกิจ
วันที่ 02 มีนาคม 2558