แพทย์เตือนภัยเงียบ′ต้อหิน′เสี่ยงตาบอดถาวร แนะตรวจอย่างน้อยปี

Post Reply
brid.ladawan
Posts: 7045
Joined: 29 Mar 2013, 13:36

แพทย์เตือนภัยเงียบ′ต้อหิน′เสี่ยงตาบอดถาวร แนะตรวจอย่างน้อยปี

Post by brid.ladawan »

แพทย์เตือนภัยเงียบ′ต้อหิน′เสี่ยงตาบอดถาวร แนะตรวจอย่างน้อยปีละครั้ง



นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า วันที่ 6 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันต้อหินโลก โรคต้อหินเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาตาบอดหรือสายตาพิการอย่างถาวร หากเป็นแล้วจะรักษาให้เหมือนปกติไม่ได้ โดยทั่วไปผู้ป่วยโรคต้อหินมักจะมีความดันลูกตาสูงกว่าปกติ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีการทำลายของประสาทตา


ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาประสาทตาก็จะถูกทำลายลงเรื่อยๆ จนทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร แต่ถ้าสามารถวินิจฉัยได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และรักษาอย่างทันท่วงที ก็จะสามารถรักษาการมองเห็นไว้ได้


อาการของโรคต้อหินในระยะแรกจะไม่มีอาการใดๆ ต่อมาเมื่อประสาทตาถูกทำลายไปมากกว่า 40% ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการสูญเสียการมองเห็นโดยลานสายตาจะแคบลงเรื่อยๆ และถ้าไม่ได้รับการรักษา ประสาทตาก็จะสูญเสียไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งมองไม่เห็นในที่สุด


ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคต้อหิน คือ อายุมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัยชรา มีประวัติต้อหินในครอบครัว เคยมีอุบัติเหตุที่ตา หรือเคยได้รับการผ่าตัดตา มีโรคประจำตัวบางชนิดเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง รวมทั้งผู้ที่มีกระจกตาบางกว่าปกติ


สำหรับผู้ป่วยโรคนี้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงอายุ กลุ่มที่พบมากที่สุดคือผู้สูงอายุโดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป รวมทั้งผู้ที่มีญาติใกล้ชิด เช่น พี่น้องบิดามารดาเป็นต้อหิน จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต้อหินมากกว่าบุคคลอื่นๆ และผู้ที่มีระดับความดันตาค่อนข้างสูงโดยเฉพาะสูงมากกว่า 21 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไปและในอนาคตจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคต้อหิน


นอกจากนี้ ยังพบคนที่สายตาสั้น หรือยาวมากๆ ก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคต้อหิน สำหรับการรักษาโรคต้อหินทำเพื่อเป็นการป้องกันและยับยั้งการสูญเสียของชั้นประสาทตาจากโรคต้อหินเนื่องจากประสาทตาส่วนที่เสียไปแล้วจะไม่สามารถกลับคืนมาได้การรักษาในปัจจุบันทำโดยการลดความดันลูกตาเพื่อควบคุมโรคต้อหินซึ่งสามารถทำได้หลายวิธีเช่น การใช้ยาหยอดตา รับประทานยา ยิงแสงเลเซอร์ และการทำผ่าตัด แต่ละวิธีมีข้อจำกัดขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยและประเภทของต้อหิน


ส่วนการป้องกันโรคต้อหิน คือ แนะนำให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นต้อหิน ผู้ที่มีสายตาสั้นหรือยาวมาก ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับเลือดและหลอดเลือดซึ่งเลือดไหลเวียนขึ้นไปประสาทตาไม่ดี และผู้ที่ใช้ยาหยอดตาจำพวกสเตียรอยด์โดยไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของจักษุแพทย์ ควรได้รับการตรวจคัดกรองความดันลูกตาและตรวจขั้วประสาทตา อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และอาจตรวจซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์ หากเกิดความผิดปกติกับดวงตาจะได้รับการดูแลรักษาอย่างรวดเร็วและสามารถใช้งานดวงตาได้ยาวนานมากขึ้น


ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 04 มีนาคม 2558
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”