“เอสเอฟ” ส่ง “เอ็มพรีเว่” เจาะไฮเอนด์! วิ่งสู้ฟัดธุรกิจโรงภา

[brid.ladawan]

“เอสเอฟ” ส่ง “เอ็มพรีเว่” เจาะไฮเอนด์! วิ่งสู้ฟัดธุรกิจโรงภาพยนตร์


เอสเอฟฯเปิดแผนเจาะตลาดไฮเอนด์ ทุ่ม 100 ล้านบาท ผุดโรงภาพยนตร์แบรนด์ใหม่ “เอ็มพรีเว่ ซีเนคลับ” บนห้างหรู ดิเอ็มโพเรียม ช็อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ ใจกลางกรุงเทพฯ บุก พร้อมชูจุดขายลักชัวรี่เอ็กซ์คลูซีฟแห่งเดียวในเมืองไทยเบียดบี้คู่แข่ง

นายสุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่บริษัททุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ผุด“เอ็มพรีเว่ ซีเนคลับ” (EMPRIVÉ CINECLUB) โรงภาพยนตร์ระดับลักชัวรี่เอ็กซ์คลูซีฟแบบเป็นส่วนตัว “แบรนด์ใหม่” ที่มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ขนาดพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร จำนวน 5 โรง จุได้กว่า 700 ที่นั่ง ในศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม ช็อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ เพราะเชื่อว่ามีโอกาสในการทำตลาดสูง เนื่องจากมุ่งหวังเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ไฮโซ เซเลบริตี้รุ่นใหม่,แฟชั่นนิสต้า,นักช็อประดับไฮเอนด์ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบความชิค ความมีสไตล์อย่างมีระดับ และต้องการชมภาพยนตร์ในบรรยากาศเฉพาะตัว ซึ่งกลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงมาก แม้ราคาค่าตั๋วหนังจะอยู่ที่ราคา 300-800 บาท จากปัจจุบันที่ราคาตั๋วหนังในโรงภาพยนตร์ปกติจะอยู่ที่ ที่นั่งละ 120-160 บาทก็ตาม

ทั้งนี้ ยอมรับว่าปัจจุบันธุรกิจโรงภาพยนตร์ในตลาดเมืองไทยแข่งขันดุเดือดทุกรูปแบบ ทั้งการ บริการที่ครบ ครันความ หลากหลายของสิ่งอำนวยความสะดวก ภาพยนตร์ และความทันสมัย แม้จะมีรายใหญ่ๆ แข่งกันอยู่แค่ 2 ราย คือ เอสเอฟฯ กับเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ เป็นเพราะผู้บริโภคคนไทยมีไลฟ์สไตล์ชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นความบันเทิงราคาถูก และยังไม่มีกิจกรรมนันทนาการใดๆ มาทดแทนได้
สุวัฒน์ ทองร่มโพธิ์

ประกอบกับปัจจุบันหลายๆค่ายก็พยายามเฟ้นหานวัตกรรมการชมภาพยนตร์รูปแบบใหม่มาตอบสนองมากขึ้น ทั้งระบบการฉาย ที่มีทั้ง Digital Cinema 4K, Digital Cinema 3D, 4D เก้าอี้นั่ง การบริการในโรงภาพยนตร์ที่มีมากกว่าแค่นั่งดูเฉยๆ คือ มีบริการครบแบบ 6 ดาว หรือแม้แต่ล็อบบี้เลานจ์ บาร์

“คาดหวังว่า เอ็มพรีเว่ ซีเนคลับ หลังเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันที่ 12 ก.พ.นี้ จะมอบประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่เหนือระดับกับลูกค้า ซึ่งน่าจะเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่สามารถสัมผัสได้ถึงความหรูหราทันทีตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ด้านหน้าของศูนย์การค้าดิ เอ็มโพเรียม จนถึงโถงของโรงภาพยนตร์ในบรรยากาศ Residential Cinema”

จุดขายและจุดแข็งของ“เอ็มพรีเว่ ซีเนคลับ” คือ โดดเด่นด้วยคอนเซปต์แห่งเดียวในเมืองไทย และเจาะกลุ่มเป้าหมายกำลังซื้อสูง นอกจากนี้ยังมีความสะดวกสบายของที่นั่งโซฟาพิเศษ พร้อมหมอนและผ้าห่ม ซึ่งเลือกได้ทั้งแบบ Executive Seat และ First Class Seat ปรับเอนนอนได้ 180 องศา พร้อม DIRECTOR LOUNGE แบบเป็นส่วนตัว บริการฟรี Gourmet Bar และเสิร์ฟเครื่องดื่ม-ป๊อปคอร์นฟรีตลอดการชมภาพยนตร์ ขณะที่ระบบฉายภาพยนตร์ยังเป็นแบบดิจิตอลใหม่ล่าสุด Sony Digital Cinema 4K ทุกโรง และ Sony Digital Cinema 3D ที่ให้ภาพคมชัดสูงถึง 8.8 ล้านเมกะพิเซล พร้อมระบบเสียงอัจฉริยะ Dolby Atmos สมจริงทุกอนูเสียงเต็มอรรถรสความบันเทิง เหนือกว่าทุกโรงภาพยนตร์ที่เคยมีมา

นายสุวัฒน์ กล่าวว่า โรงภาพยนตร์แบรนด์ใหม่ของเอสเอฟฯนี้ จะถึงจุดคืนทุนได้ภายใน 5-7 ปี เพราะมั่นใจว่า จะได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด ปีแรกมียอดผู้ชมเข้ามาใช้บริการมากถึง 200,000 คน เติบโต 20% ต่อเนื่องทุกปี และมียอดรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท “ภาพรวมธุรกิจโรงภาพยนตร์ในเมืองไทย ตลอดปี 2557 ที่ผ่านมา แม้กำลังซื้อจะอยู่ในภาวะชะลอตัวจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง แต่ก็มั่นใจว่า หลังจากนี้กำลังซื้อจะกลับมาเติบโตได้ในครึ่งปีแรก โดย เฉพาะสาขาในต่างจังหวัด ที่มีอัตราการเติบโตสูงจากหนังไทย รวมถึงการเปิดตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนสิ้นปี 2558 นี้ จะส่งผลให้ตลาดธุรกิจภาพยนตร์ในเอเชีย มีโอกาสเติบโตอีกมาก รวมทั้งผลจากภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ทำรายได้สูงที่มีโปรแกรมเข้าฉายตลอดปี”

ที่เลือกพลิกโฉมโรงภาพยนตร์ในเครือเอสเอฟฯ เป็น “เอ็มพรีเว่ ซีเนคลับ” แห่งแรก ที่ดิเอ็มโพเรียม ช็อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ เพราะทำเลที่ตั้งที่อยู่ใจกลางสุขุมวิท เป็นแหล่งอยู่อาศัยของผู้มีฐานะที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งน่าจะประสบความสำเร็จในการทำตลาดไม่แพ้ 3 แบรนด์ที่มีอยู่ อาทิ เอส เอฟ เวิลด์ ซีเนม่า, เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า และเอส เอฟ ซีเนม่า ซิตี้ รวม 40 สาขา 277 โรงทั่วประเทศ แม้จะเพิ่งเปิดตัว ช่วงแรกบริษัทได้ใช้งบกว่า 20 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์น้องใหม่ “เอ็มพรีเว่ ซีเนคลับ” ให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในวงกว้าง.

ที่มา ไทยรัฐฉบับพิมพ์
วันที่ 7 มี.ค. 2558