ชงครม.แก้กม.สรรพสามิต
Posted: 09 Mar 2015, 13:45
ชงครม.แก้กม.สรรพสามิต
กรมสรรพสามิตเตรียมเสนอครม.ใน 2 สัปดาห์ แก้ไขกฏหมายเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บภาษี คาดรายได้เพิ่มแสนล้าน
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอร่างแก้ไขกฎหมายสรรพสามิตให้ครม.พิจารณา ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยสาระสำคัญ คือ รวมกฎหมายต่าง ๆ ของกรมสรรพสามิต 7 ฉบับ ให้เป็นฉบับเดียว เพื่อปรับปรุงกระบวนการเก็บให้มีประสิทธิภาพ และปรับเปลี่ยนการเก็บภาษีจากฐานราคาหน้าโรงงาน หรือ ราคาสำแดงนำเข้า (ซีไอเอฟ) มาเป็นราคาขายปลีก ที่ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตเพิ่มขึ้นทันที 30% จากปัจจุบันจัดเก็บภาษีได้ปีละ 400,000 ล้านบาท ก็จะเก็บเพิ่มขึ้น 100,000-120,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่า หากเปลี่ยนฐานราคาการเก็บตามกฎหมายใหม่ ที่อัตราการเก็บภาษียังคงเดิมไม่มีการเปลี่ยน ทำให้การเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตเพิ่มขึ้นทันทีแสนล้านบาท โดยสินค้าที่ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอันดับต้นๆ ได้แก่บุหรี่ เนื่องจากที่ผ่านมาบุหรี่นำเข้ามาการสำแดงราคาต่ำทำให้เสียภาษีน้อย แต่เมื่อมาใช้ฐานราคาขายปลีกทำให้เสียภาษีเพิ่มขึ้น รองลงมาเป็นเครื่องดื่มต่าง ๆ ซึ่งสินค้าดังกล่าวต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น 30-40% จากที่เคยเสียอยู่ในปัจจุบัน อาจจะส่งผลกระทบทำให้ผู้ผลิตผลักภาระมาให้ผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าในราคาแพงขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา เพราะตลาดจะเกิดการแข่งขันด้านราคามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้บริโภคมากเกินไป เมื่อภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ กรมฯต้องขอความเห็นจากฝ่ายนโยบาย จะให้ลดอัตราภาษีสรรพสามิตในระดับที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เช่น ต้องการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 10% กรมสรรพสามิตก็สามารถลดอัตราภาษี เพราะยังมีรายได้ที่เก็บได้เกินมาถึง 20% เป็นต้น
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 9 มีนาคม 2558
กรมสรรพสามิตเตรียมเสนอครม.ใน 2 สัปดาห์ แก้ไขกฏหมายเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บภาษี คาดรายได้เพิ่มแสนล้าน
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอร่างแก้ไขกฎหมายสรรพสามิตให้ครม.พิจารณา ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยสาระสำคัญ คือ รวมกฎหมายต่าง ๆ ของกรมสรรพสามิต 7 ฉบับ ให้เป็นฉบับเดียว เพื่อปรับปรุงกระบวนการเก็บให้มีประสิทธิภาพ และปรับเปลี่ยนการเก็บภาษีจากฐานราคาหน้าโรงงาน หรือ ราคาสำแดงนำเข้า (ซีไอเอฟ) มาเป็นราคาขายปลีก ที่ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตเพิ่มขึ้นทันที 30% จากปัจจุบันจัดเก็บภาษีได้ปีละ 400,000 ล้านบาท ก็จะเก็บเพิ่มขึ้น 100,000-120,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่า หากเปลี่ยนฐานราคาการเก็บตามกฎหมายใหม่ ที่อัตราการเก็บภาษียังคงเดิมไม่มีการเปลี่ยน ทำให้การเก็บภาษีของกรมสรรพสามิตเพิ่มขึ้นทันทีแสนล้านบาท โดยสินค้าที่ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอันดับต้นๆ ได้แก่บุหรี่ เนื่องจากที่ผ่านมาบุหรี่นำเข้ามาการสำแดงราคาต่ำทำให้เสียภาษีน้อย แต่เมื่อมาใช้ฐานราคาขายปลีกทำให้เสียภาษีเพิ่มขึ้น รองลงมาเป็นเครื่องดื่มต่าง ๆ ซึ่งสินค้าดังกล่าวต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น 30-40% จากที่เคยเสียอยู่ในปัจจุบัน อาจจะส่งผลกระทบทำให้ผู้ผลิตผลักภาระมาให้ผู้บริโภคต้องซื้อสินค้าในราคาแพงขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่มีปัญหา เพราะตลาดจะเกิดการแข่งขันด้านราคามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้บริโภคมากเกินไป เมื่อภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ กรมฯต้องขอความเห็นจากฝ่ายนโยบาย จะให้ลดอัตราภาษีสรรพสามิตในระดับที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เช่น ต้องการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 10% กรมสรรพสามิตก็สามารถลดอัตราภาษี เพราะยังมีรายได้ที่เก็บได้เกินมาถึง 20% เป็นต้น
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 9 มีนาคม 2558