จับตาธุรกิจเอสเอ็มจีเจ๋ง
Posted: 09 Mar 2015, 13:50
จับตาธุรกิจเอสเอ็มจีเจ๋ง
ส.อ.ท.ระบุธุรกิจเอสเอ็สอีหนี้ท่วมรายได้หด จี้รัฐกระตุ้นเบิกจ่ายงบลงทุนกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ
นายเกรียงไกร เธียรนุกูลรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าขณะนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เริ่มประสบปัญหาเป็นลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากรายได้ยังไม่เป็นไปตามเป้า เพราะการส่งออก ยังชะลอตัวขณะที่แรงซื้อในประเทศ ยังไม่ฟื้นตัวเช่นกัน ส่งผลต่อการจำหน่ายสินค้าลดลง ทางภาคเอกชนจึงต้องการให้รัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบประมาณวันอาทิตย์ 8 มีนาคม 2558 เวลา 18:00 น.
และงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศทำให้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
“การส่งออกในเดือนม.ค. ที่ลดลงประกอบกับแรงซื้อในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว สิ่งที่เอกชนรอดู คือมาตรการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่พบว่า ม.ค. 58รัฐเบิกจ่ายงบลงทุนเพียง 50,000 ล้านบาทคิดเพียง 13% จากที่ตั้งเป้าไว้ ทำให้การลงทุนทั้งรัฐและเอกชนบางส่วนมีการชะลอออกไปโดยเฉพาะการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณรัฐก็ต้องดูสถานการณ์การเบิกจ่ายงบของรัฐก่อน”
นางเพ็ญทิพย์ พรจะเด็ด นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอทีเอสเอ็มอี) กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยังไม่ดีนักรายได้ลดลงประมาณ 20 – 30 % เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศ ยังไม่ฟื้นตัว จึงต้องการให้ภาครัฐเร่งกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะเป็นภาคที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติมมีสถานที่อยู่แล้ว อยากให้จัดงานอาเซียนเที่ยวไทยภายในปีนี้เพราะเป็นการรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน (เออีซี) ปลายปีนี้ เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นรายได้ให้ภาคเอสเอ็มอีได้รวดเร็ว
“ จากการสอบถามผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่เป็นสมาชิกหลายคนพูดตรงกันว่า รายได้ลดลงประมาณ 20 – 30 % ยังไม่ฟื้นตัวตอนนี้หลายคนไม่อยากจะรอมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศอย่างเดียวเพราะอาจล่าช้าได้ จึงอยากให้ภาครัฐ โปรโมทให้อีก 9 ประเทศในอาเซียนมาเที่ยวไทยเพราะไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มเติม เรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่แล้ว
แต่อยากให้อำนวยความสะดวกเพิ่มเติมเช่น การให้วีซ่าต่างๆ บางประเทศยังต้องใช้วีซ่าเข้าประเทศไทยอยู่ซึ่งหากกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวได้ จะทำให้ภาคเอสเอ็มอี ได้รับอานิสงส์โดยตรงเพราะรายได้หลักของหลายธุรกิจของเอสเอ็มอี มาจากภาคการท่องเที่ยว”
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 8 มีนาคม 2558
ส.อ.ท.ระบุธุรกิจเอสเอ็สอีหนี้ท่วมรายได้หด จี้รัฐกระตุ้นเบิกจ่ายงบลงทุนกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ
นายเกรียงไกร เธียรนุกูลรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าขณะนี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เริ่มประสบปัญหาเป็นลูกหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากรายได้ยังไม่เป็นไปตามเป้า เพราะการส่งออก ยังชะลอตัวขณะที่แรงซื้อในประเทศ ยังไม่ฟื้นตัวเช่นกัน ส่งผลต่อการจำหน่ายสินค้าลดลง ทางภาคเอกชนจึงต้องการให้รัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบประมาณวันอาทิตย์ 8 มีนาคม 2558 เวลา 18:00 น.
และงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศทำให้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
“การส่งออกในเดือนม.ค. ที่ลดลงประกอบกับแรงซื้อในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว สิ่งที่เอกชนรอดู คือมาตรการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่พบว่า ม.ค. 58รัฐเบิกจ่ายงบลงทุนเพียง 50,000 ล้านบาทคิดเพียง 13% จากที่ตั้งเป้าไว้ ทำให้การลงทุนทั้งรัฐและเอกชนบางส่วนมีการชะลอออกไปโดยเฉพาะการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณรัฐก็ต้องดูสถานการณ์การเบิกจ่ายงบของรัฐก่อน”
นางเพ็ญทิพย์ พรจะเด็ด นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอทีเอสเอ็มอี) กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ยังไม่ดีนักรายได้ลดลงประมาณ 20 – 30 % เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศ ยังไม่ฟื้นตัว จึงต้องการให้ภาครัฐเร่งกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะเป็นภาคที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติมมีสถานที่อยู่แล้ว อยากให้จัดงานอาเซียนเที่ยวไทยภายในปีนี้เพราะเป็นการรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน (เออีซี) ปลายปีนี้ เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นรายได้ให้ภาคเอสเอ็มอีได้รวดเร็ว
“ จากการสอบถามผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่เป็นสมาชิกหลายคนพูดตรงกันว่า รายได้ลดลงประมาณ 20 – 30 % ยังไม่ฟื้นตัวตอนนี้หลายคนไม่อยากจะรอมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศอย่างเดียวเพราะอาจล่าช้าได้ จึงอยากให้ภาครัฐ โปรโมทให้อีก 9 ประเทศในอาเซียนมาเที่ยวไทยเพราะไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มเติม เรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่แล้ว
แต่อยากให้อำนวยความสะดวกเพิ่มเติมเช่น การให้วีซ่าต่างๆ บางประเทศยังต้องใช้วีซ่าเข้าประเทศไทยอยู่ซึ่งหากกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวได้ จะทำให้ภาคเอสเอ็มอี ได้รับอานิสงส์โดยตรงเพราะรายได้หลักของหลายธุรกิจของเอสเอ็มอี มาจากภาคการท่องเที่ยว”
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 8 มีนาคม 2558