อย่าหลงเชื่อ! เฟซบุ๊กจะปิดตัวในวันที่ 15 มีนาคม 2558 ไม่จริง
Posted: 10 Mar 2015, 16:17
อย่าหลงเชื่อ! เฟซบุ๊กจะปิดตัวในวันที่ 15 มีนาคม 2558 ไม่จริง
กลายเป็นกระแสข่าวลืออยู่เรื่อยๆ สำหรับการปิดตัวของเฟซบุ๊ก (Facebook) ล่าสุด มีข้อความที่ถูกส่งต่อกันมาว่า “Facebook กำลังจะปิดลงในวันที่ 15 มีนาคม 2558 เพราะมันจะกลายเป็น มีพลเมืองมากเกินไป มีสมาชิกหลายคน บ่นว่า Facebook ช้ามาก แสดงว่ามี สมาชิก Facebook ใช้งาน จำนวนมากและยังเป็นสมาชิกใหม่จำนวนมาก เราจะส่ง ข้อความนี้ ไปรอบๆ เพื่อดูว่าสมาชิกมีการใช้งานหรือไม่ หากคุณมีการใช้งาน กรุณาส่งไปยังผู้ใช้ 15 คน อื่น ๆ ที่ใช้การคัดลอก + วาง แสดงให้เห็นว่า คุณยังคง ใช้งานอยู่ *ผู้ที่ไม่ได้ ส่งข้อความนี้ ภายใน 2 สัปดาห์ จะถูกลบโดยไม่ลังเล ที่จะทำให้พื้นที่มากขึ้น ส่งข้อความนี้ไปยังเพื่อนของคุณ ที่จะแสดงให้เห็นว่า คุณยังคงใช้งานอยู่ และคุณจะไม่ถูกลบจากผู้ก่อตั้ง Facebook โปรดจำไว้ว่า การส่งนี้ ถึง 15 คน อื่น ๆ เพื่อให้บัญชีของคุณจะไม่ ถูกลบ”
จนมีชาวเน็ตมาตั้งกระทู้ถามในเว็บไซต์พันทิปว่า เรื่องนี้จริงหรือไม่? ซึ่งก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า ข้อความดังกล่าว อาจเป็นเพียงข้อความที่คล้ายกับจดหมายลูกโซ่ และเป็นเพียงการแปลมาจาก google translate เท่านั้น
ทางไทยรัฐออนไลน์จึงได้ค้นหาคำตอบ เพื่อให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กทราบเรื่องที่แท้จริง พบว่า เมื่อปี พ.ศ. 2554 เกิดกระแสข่าวลือกรณีเฟซบุ๊กจะปิดตัวลงเช่นกัน โดยข่าวลือมาจากเว็บไซต์ weeklyworldnews.com ที่ระบุว่า ในวันที่ 15 มีนาคม 2554 เฟซบุ๊กจะปิดตัวลง โดย “มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก” ซีอีโอของเฟซบุ๊ก ตัดสินใจที่จะยุติทุกสิ่งทุกอย่าง เนื่องจากมันอยู่เหนือการควบคุมของเขา เพราะปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 500 ล้านคน และเขาอยากจะกลับไปใช้ชีวิตเรียบง่ายตามเดิม ซึ่งหลังจากเกิดข่าวลือนี้ “แลร์รี่ หยู” ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรของเฟซบุ๊ก ก็ได้ออกมากล่าวปฎิเสธทันทีว่า ข่าวดังกล่าวนี้ไม่เป็นความจริง และขอร้องให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กช่วยกันยุติข่าวลือด้วย
หลังจากนั้นในปีถัดมา ก็มีกระแสข่าวลือในทำนองนี้อีกว่า เฟซบุ๊กจะปิดตัวลงในวันที่ 15 มีนาคม 2555 ซึ่งเป็นข้อความเดียวกันกับในปี 2554 จึงตั้งข้อสังเกตได้ว่า ข้อความล่าสุดที่ว่าเฟซบุ๊กปิดตัวลงในวันที่ 15 มีนาคม 2558 เป็นเพียงข่าวลือที่ส่งต่อๆ กันมา เพื่อให้เกิดความตื่นตระหนกในกลุ่มผู้ใช้งานเฟซบุ๊กเท่านั้น เพราะทางเฟซบุ๊กเองก็ได้ออกมายืนยันตั้งแต่เกิดกระแสข่าวลือครั้งแรกเมื่อปี 2554 แล้วว่าไม่ใช่เรื่องจริง
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 10 มี.ค. 2558
กลายเป็นกระแสข่าวลืออยู่เรื่อยๆ สำหรับการปิดตัวของเฟซบุ๊ก (Facebook) ล่าสุด มีข้อความที่ถูกส่งต่อกันมาว่า “Facebook กำลังจะปิดลงในวันที่ 15 มีนาคม 2558 เพราะมันจะกลายเป็น มีพลเมืองมากเกินไป มีสมาชิกหลายคน บ่นว่า Facebook ช้ามาก แสดงว่ามี สมาชิก Facebook ใช้งาน จำนวนมากและยังเป็นสมาชิกใหม่จำนวนมาก เราจะส่ง ข้อความนี้ ไปรอบๆ เพื่อดูว่าสมาชิกมีการใช้งานหรือไม่ หากคุณมีการใช้งาน กรุณาส่งไปยังผู้ใช้ 15 คน อื่น ๆ ที่ใช้การคัดลอก + วาง แสดงให้เห็นว่า คุณยังคง ใช้งานอยู่ *ผู้ที่ไม่ได้ ส่งข้อความนี้ ภายใน 2 สัปดาห์ จะถูกลบโดยไม่ลังเล ที่จะทำให้พื้นที่มากขึ้น ส่งข้อความนี้ไปยังเพื่อนของคุณ ที่จะแสดงให้เห็นว่า คุณยังคงใช้งานอยู่ และคุณจะไม่ถูกลบจากผู้ก่อตั้ง Facebook โปรดจำไว้ว่า การส่งนี้ ถึง 15 คน อื่น ๆ เพื่อให้บัญชีของคุณจะไม่ ถูกลบ”
จนมีชาวเน็ตมาตั้งกระทู้ถามในเว็บไซต์พันทิปว่า เรื่องนี้จริงหรือไม่? ซึ่งก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า ข้อความดังกล่าว อาจเป็นเพียงข้อความที่คล้ายกับจดหมายลูกโซ่ และเป็นเพียงการแปลมาจาก google translate เท่านั้น
ทางไทยรัฐออนไลน์จึงได้ค้นหาคำตอบ เพื่อให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กทราบเรื่องที่แท้จริง พบว่า เมื่อปี พ.ศ. 2554 เกิดกระแสข่าวลือกรณีเฟซบุ๊กจะปิดตัวลงเช่นกัน โดยข่าวลือมาจากเว็บไซต์ weeklyworldnews.com ที่ระบุว่า ในวันที่ 15 มีนาคม 2554 เฟซบุ๊กจะปิดตัวลง โดย “มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก” ซีอีโอของเฟซบุ๊ก ตัดสินใจที่จะยุติทุกสิ่งทุกอย่าง เนื่องจากมันอยู่เหนือการควบคุมของเขา เพราะปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 500 ล้านคน และเขาอยากจะกลับไปใช้ชีวิตเรียบง่ายตามเดิม ซึ่งหลังจากเกิดข่าวลือนี้ “แลร์รี่ หยู” ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรของเฟซบุ๊ก ก็ได้ออกมากล่าวปฎิเสธทันทีว่า ข่าวดังกล่าวนี้ไม่เป็นความจริง และขอร้องให้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กช่วยกันยุติข่าวลือด้วย
หลังจากนั้นในปีถัดมา ก็มีกระแสข่าวลือในทำนองนี้อีกว่า เฟซบุ๊กจะปิดตัวลงในวันที่ 15 มีนาคม 2555 ซึ่งเป็นข้อความเดียวกันกับในปี 2554 จึงตั้งข้อสังเกตได้ว่า ข้อความล่าสุดที่ว่าเฟซบุ๊กปิดตัวลงในวันที่ 15 มีนาคม 2558 เป็นเพียงข่าวลือที่ส่งต่อๆ กันมา เพื่อให้เกิดความตื่นตระหนกในกลุ่มผู้ใช้งานเฟซบุ๊กเท่านั้น เพราะทางเฟซบุ๊กเองก็ได้ออกมายืนยันตั้งแต่เกิดกระแสข่าวลือครั้งแรกเมื่อปี 2554 แล้วว่าไม่ใช่เรื่องจริง
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 10 มี.ค. 2558