Page 1 of 1

การเมืองกดตลาดเกลือซึมยาว10ปี

Posted: 12 Mar 2015, 11:53
by brid.ladawan
การเมืองกดตลาดเกลือซึมยาว10ปี

อุตสาหกรรมตลาดเกลือซบยาว 10 ปี หลังการเมืองป่วน ทำความต้องการใช้เกลือชะลอลงต่อเนื่อง เอกชนเล็งหนีลงทุนเพื่อนบ้าน เหตุต้นทุนไฟฟ้าต่ำ

นายอรุณ อินเจริญศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท เกลือพิมาย เปิดเผยว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมเกลือ อยู่ภาวะตกต่ำ อัตราการเติบโตของตลาดต่ำกว่าปกติที่ขยายตัวปีละ 3% เนื่องจากความวุ่นวายทางการเมืองที่ต่อเนื่องยาวนานถึง 10 ปี ทำให้ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเคมี และปิโตรเคมี ที่เป็นกลุ่มใช้เกลือเป็นวัตถุดิบที่สำคัญชะลอการเติบโต ส่งผลต่อความต้องการเกลือลดลงมาก

ทั้งนี้จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้บริษัทต้องชะลอแผนการลงทุน จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายว่า จะขยายกำลังการผลิตอีกไม่ต่ำกว่า 500,000 ตัน ในปี 53 แต่จากภาวะทางการเมือง ทำให้ความต้องการของตลาดไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ทั้งนี้ความต้องการของตลาดก็ค่อย ๆ ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้คาดว่าจะขยายการลงทุนได้ในเร็ว ๆ นี้ โดยปัจจุบัน โรงงานมีกำลังการผลิต 1.5 ล้านตันต่อปี แต่ใช้กำลังการผลิตเพียง 1.4 ล้านตันต่อปี และปี 58 นี้ คาดว่า จะใช้กำลังการผลิตที่ 1.4 ล้านตันเช่นเดียวกัน

“การบริโภคเกลือเป็นดัชนีที่วัดการเติบโตของเศรษฐกิจได้ส่วนหนึ่ง เพราะเกลือเป็นวัตถุดิบพื้นฐานของอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมเคมีต่าง ๆ เช่น โซดาไฟ เส้นใยสังเคราะห์ พลาสติก สบู่ ผงซักฟอก คลอรีน ยางสังเคราะห์ ยาฆ่าแมลง น้ำยาฆ่าเชื้อโรค หากการบริโภคเหลือลดลง ก็ชี้ให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมไม่ขยายตัว ช่วงที่ผ่านมาเกือบ 10 ปี อัตราความต้องการเกลือขยายตัวต่ำมาก สะท้อนให้เห็นว่าความวุ่นวายทางการเมือง ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างเห็นได้ชัด”

สำหรับราคาเกลือขณะนี้อยู่ที่ตันละ 1,000 บาท ซึ่งโรงงานสามารถคงราคาผลิตนี้ได้ในระยะยาว หากต้นทุนค่าไฟฟ้าไม่เปลี่ยนแปลง เพราะว่าต้นทุนที่สำคัญในการผลิต คือกระแสไฟฟ้า ส่วนต้นทุนด้านอื่น ๆ คงที่ หากปีนี้ค่าเอฟทีลดลง อาจทำให้ราคาเกลือลดลงบ้าง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าราคาเหลือจะขึ้นหรือลง ก็ไม่กระทบต่อบริษัท เพราะจะจำหน่ายเกลือไปยังผู้ร่วมทุน ในสัดส่วนคงที่ตลอด ได้แก่ บริษัทไทยอาซาฮีเคมีภัณฑ์ 40% บริษัท อุตสาหกรรมเกลือบริสุทธิ์ 32% และบริษัทยูนิไทย 28% ซึ่งบริษัทเหล่านี้ จะนำเหลือไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และส่งออกเพียง 8%

นายธีระพร ศรีเฟื่องฟุ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เกลือพิมาย กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายไปตั้งเหมืองเกลือ และโรงงานในแหล่งแอ่งเกลือสกลนคร ซึ่งเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ไปหลายจังหวัด รวมถึงสปป.ลาว โดยบริษัทมองว่า ลาวเป็นประเทศที่น่าจะเข้าไปลงทุน ซึ่งแม้จะอยู่ตรงขอบแอ่งเกลือสกลนคร แต่ก็มีความได้เปรียบของต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ถูกกว่า และเข้าไปใช้ที่ดินทำเหมืองได้ง่ายกว่าประเทศไทย ที่มีชุมชนอยู่หนาแน่น รวมทั้งเกลือที่ผลิตได้ สามารถส่งไปขายยังประเทศเวียดนาม ที่ภาคอุตสาหกรรมมีการขยายตัวที่รวดเร็ว และมีความต้องการสูง


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 10 มีนาคม 2558