คาดราคาทองหลุด 1.8 หมื่นบาท
Posted: 13 Mar 2015, 10:17
คาดราคาทองหลุด 1.8 หมื่นบาท
ศูนย์วิจัยทองคำคาดทองคำดิ่งแตะ 17,600 บาทในเดือนนี้ เหตุกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ด้านเงินบาทแนวโน้มอ่อนค่าหนุนราคาทองในประเทศ
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำมีโอกาสลดลงถึงจุดต่ำสุดใหม่ที่ 1,100 ดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 17,500 บาทต่อบาททองคำ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนกังวลการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งจะส่งผลให้เงินดอลล่าร์แข็งค่าลดความน่าสนใจของทองคำ
ขณะเดียวกันทิศทางค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.75% และการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะทำให้เงินดอลล่าร์แข็งค่า แต่ถือว่าเป็นส่วนช่วยพยุงให้ราคาทองคำในประเทศ ไม่ลดลงแรงเทียบเท่ากับราคาทองคำโลก
"การอ่อนค่าของค่าเงินบาททุก 10 สตางค์ จะส่งผลดีต่อราคาทองคำในประเทศให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 53 บาท และหากราคาทองคำในตลาดโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้อัตราการปรับเพิ่มขึ้นของทองคำในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีกว่าปกติ โดยทิศทางของค่าเงินบาทมีแนวโน้มจะอ่อนค่าต่อเนื่อง และประเมินว่ากรอบค่าเงินบาทน่าจะอยู่ที่ 33 - 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ"
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือน มี.ค. อยู่ที่ 45.56 จุด ลดลง 7.13 จุด หรือ 13.53% ถือเป็นมุมมองเชิงลบครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยนักลงทุนทองคำและผู้ค้าทองคำให้น้ำหนักปัจจัยการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์มากที่สุด 45.05 % ,ค่าเงินบาท 38.92 %, ราคาน้ำมัน 37.97 % ,การเก็งกำไร 37.74 % และการปรับเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยนโยบายของเฟด 36.08 %
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะสามเดือนข้างหน้ามีการปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 50 จุดเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนและผู้ค้าทองคำมีความอ่อนไหวต่อข่าวการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด แต่อย่างไรก็ดีประเมินว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยน่าจะยังอยู่ในช่วงปลายไตรมาส 2 ถึงช่วงต้นไตรมาส 3 เนื่องจากยังมีผลกระทบจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอยู่พอสมควร
อย่างไรก็ตามหากราคาต่ำกว่า 18,000 บาทต่อบาททองคำ ถือเป็นจุดที่ควรทยอยซื้อสะสมเพื่อรอรับการฟื้นตัว ส่วนกรณีที่มีการปิดเหมืองชั่วคราวกว่า 40% เพื่อควบคุมต้นทุนนั้นประเมินว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนทองคำ เพราะในปี 56-57 มีการผลิตทองคำสูงถึงปีละ 3,500-4,000 ตัน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงและเพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 12 มีนาคม 2558
ศูนย์วิจัยทองคำคาดทองคำดิ่งแตะ 17,600 บาทในเดือนนี้ เหตุกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ด้านเงินบาทแนวโน้มอ่อนค่าหนุนราคาทองในประเทศ
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำมีโอกาสลดลงถึงจุดต่ำสุดใหม่ที่ 1,100 ดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 17,500 บาทต่อบาททองคำ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนกังวลการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งจะส่งผลให้เงินดอลล่าร์แข็งค่าลดความน่าสนใจของทองคำ
ขณะเดียวกันทิศทางค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.75% และการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะทำให้เงินดอลล่าร์แข็งค่า แต่ถือว่าเป็นส่วนช่วยพยุงให้ราคาทองคำในประเทศ ไม่ลดลงแรงเทียบเท่ากับราคาทองคำโลก
"การอ่อนค่าของค่าเงินบาททุก 10 สตางค์ จะส่งผลดีต่อราคาทองคำในประเทศให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 53 บาท และหากราคาทองคำในตลาดโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้อัตราการปรับเพิ่มขึ้นของทองคำในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีกว่าปกติ โดยทิศทางของค่าเงินบาทมีแนวโน้มจะอ่อนค่าต่อเนื่อง และประเมินว่ากรอบค่าเงินบาทน่าจะอยู่ที่ 33 - 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ"
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือน มี.ค. อยู่ที่ 45.56 จุด ลดลง 7.13 จุด หรือ 13.53% ถือเป็นมุมมองเชิงลบครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยนักลงทุนทองคำและผู้ค้าทองคำให้น้ำหนักปัจจัยการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์มากที่สุด 45.05 % ,ค่าเงินบาท 38.92 %, ราคาน้ำมัน 37.97 % ,การเก็งกำไร 37.74 % และการปรับเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยนโยบายของเฟด 36.08 %
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะสามเดือนข้างหน้ามีการปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 50 จุดเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนและผู้ค้าทองคำมีความอ่อนไหวต่อข่าวการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด แต่อย่างไรก็ดีประเมินว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยน่าจะยังอยู่ในช่วงปลายไตรมาส 2 ถึงช่วงต้นไตรมาส 3 เนื่องจากยังมีผลกระทบจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอยู่พอสมควร
อย่างไรก็ตามหากราคาต่ำกว่า 18,000 บาทต่อบาททองคำ ถือเป็นจุดที่ควรทยอยซื้อสะสมเพื่อรอรับการฟื้นตัว ส่วนกรณีที่มีการปิดเหมืองชั่วคราวกว่า 40% เพื่อควบคุมต้นทุนนั้นประเมินว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนทองคำ เพราะในปี 56-57 มีการผลิตทองคำสูงถึงปีละ 3,500-4,000 ตัน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงและเพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 12 มีนาคม 2558