พิษเศรษฐกิจ 2 เดือนสินเชื่อนิ่งสนิท-ธุรกิจหยุดลงทุน
Posted: 14 Mar 2015, 10:46
พิษเศรษฐกิจ 2 เดือนสินเชื่อนิ่งสนิท-ธุรกิจหยุดลงทุน
แบงก์โอดสินเชื่อธุรกิจ 2 เดือนแรกนิ่งสนิท ทั้งธุรกิจรายใหญ่-เอสเอ็มอี พิษเศรษฐกิจทุบการลงทุนภาคธุรกิจ เผยมีแค่กลุ่มก่อสร้างเริ่มขยับเตรียมรับลงทุนภาครัฐ เน้นประคองลูกค้าไม่ให้กลายเป็นหนี้เสีย ศูนย์วิจัยกสิกรฯคาด Q1/58 สินเชื่อธุรกิจมีสิทธิ์ติดลบ 1.5-2.5%
2 เดือนสินเชื่อธุรกิจนิ่งสนิท
นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2558 สินเชื่อธุรกิจอยู่ในระดับที่ค่อนข้างนิ่ง หากเทียบกับสิ้นปี 2557 เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุนหรือการใช้สินเชื่อของภาคธุรกิจ ทั้งภาคการส่งออกยังได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อจากต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ตกต่ำ และผลกระทบยังส่งต่อมายังภาคการท่องเที่ยวอีกด้วย ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐทำได้ไม่เร็ว อีกทั้งการลงทุนก็เป็นโครงการระยะยาว 7-8 ปีกว่าจะรู้ผลประมูลก็ไตรมาส 3 ส่งผลภาพรวมความต้องการสินเชื่อหมุนเวียนลดลงตามไปด้วย
ขณะนี้เริ่มเห็นกลุ่มธุรกิจที่ก่อสร้างและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เริ่มขยับตัวเพื่อเตรียมรับกับการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐบ้างแล้ว เช่น ลูกค้าของธนาคารที่ทำโรงงานหมอนรถไฟ ช่วงที่ผ่านมาเห็นการขยายโรงงานเพิ่มเติม
"เอกชนเขาเตรียมตัวอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อการลงทุนของภาครัฐยังไม่สตาร์ต ผู้ประกอบการก็ได้แต่เตรียมตัวถ้าจะเห็นการขยับตัวด้านสินเชื่อก็คงจะเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ก่อน จากนั้นค่อยขยายไปยังซัพพลายเชนต่าง ๆ"
สำหรับปีนี้คาดการณ์สินเชื่อทั้งระบบจะขยายตัวประมาณ 3-5% เท่านั้น ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยความหวังน่าจะมาจากสินเชื่อธุรกิจเป็นหลัก แต่คงต้องรอจังหวะก่อน ขณะที่สินเชื่อรายย่อยโดยเฉพาะในตลาดล่างคงเติบโตไม่มาก เพราะหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับที่สูงมากถึง 84% น่าจะทำให้กำลังซื้อค่อนข้างติดขัด
สัญญาณผิดชำระหนี้เพิ่มขึ้น
ด้านนายวิพล วรเสาหฤท ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มลูกค้าธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การขยายตัวของสินเชื่อเอสเอ็มอีในช่วง 2 เดือนแรกเติบโตเพียงเล็กน้อย และส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อหมุนเวียนที่ปล่อยให้กับลูกค้ารายเดิม ขณะที่มีลูกค้ารายใหม่น้อยมาก หรือมีก็เป็นการรีไฟแนนซ์จากธนาคารคู่แข่งไม่ใช่การลงทุนใหม่
อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเริ่มเห็นการขยับตัวมาขอสินเชื่อเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ธุรกิจประเภทอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร ท่องเที่ยว การส่งออก ยังไม่เห็นความเคลื่อนไหว นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่เห็นการชำระหนี้ล่าช้าอีกด้วย
"สินเชื่อปล่อยได้ลำบากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่าเพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี ที่ทำได้คือการประคับประคองลูกค้าไม่ให้เป็นหนี้เสีย เพราะแม้หนี้เสียจะไม่ไหลเร็วเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ใช่ว่าปัญหาจะดีขึ้นสักเท่าไหร่" นายวิพลกล่าวและว่า
ปัจจุบันเอ็นพีแอลในส่วนของสินเชื่อเอสเอ็มอีของแบงก์อยู่ที่ประมาณ 3% ของพอร์ตสินเชื่อรวมประมาณ 3 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษอยู่ไม่น้อย
"ตอนนี้สภาพคล่องทางธุรกิจและสภาพคล่องส่วนตัวของลูกค้าหมดแล้วทำให้ตั้งแต่ช่วงปี2557 เอ็นพีแอลจึงสูงขึ้น ๆ ตอนนี้แบงก์ก็เข้าไปให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ก็ต้องรอดูต่อไปว่าเขาจะสามารถผ่านช่วงครึ่งปีแรกนี้ไปได้หรือไม่ แต่จะให้คาดเดาว่าใครรอดหรือไม่รอดซักกี่มากน้อย ทำได้ลำบากเพราะดูยาก ถ้าราคาน้ำมันไม่ปรับตัวลดลงมาช่วยก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ บ้าง"
ด้านนายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอีของธนาคารไม่มีการขยายตัว เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่ชัดเจนนัก ขณะนี้เห็นเพียงกลุ่มธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเท่านั้นที่เริ่มฟื้นตัว และกลับเข้ามาขอสินเชื่อตามการใช้งบประมาณของภาครัฐ ส่วนธุรกิจอื่น ๆ สถานการณ์ยังไม่ค่อยดีนัก คงต้องขอดูการใช้งบประมาณของภาครัฐก่อนว่าจะลงมาสู่ภาคธุรกิจได้หรือไม่ แบงก์ก็ต้องประคับประคองลูกค้าไปก่อน ข้อดีคือเอ็นพีแอลก็ไม่ได้เติบโตเพิ่มขึ้น ยังอยู่ที่ระดับประมาณ 2.39% เช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม กสิกรไทยยังตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อปี 2558 เพิ่มขึ้น 7.7% จากปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ 5.68 แสนล้านบาท
ธปท.ชี้ลงทุนเอกชนไม่ขยับ
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านสินเชื่อรวมของสถาบันการเงินทั้งระบบธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือน ม.ค. 2558 ว่า ยอดสินเชื่อรวมขยายตัว 4.3% ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอตัวลงจากเดือน ธ.ค. 2557 ที่สินเชื่อขยายตัว 4.5% เนื่องจากสถาบันการเงินยังคงระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ
โดยเฉพาะสินเชื่อครัวเรือนที่ยังมีอัตราขยายตัวสูงอยู่ที่ 6.3% แต่ว่าสินเชื่อธุรกิจขยายตัวต่ำอยู่ที่ 1.6% ถือว่าเป็นอัตราที่ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจยังไม่เห็นภาคเอกชนลงทุนเพิ่มขึ้นในระยะสั้น ๆ นี้
ขณะที่การลงทุนของภาคเอกชนในเดือน ม.ค.ก็อยู่ระดับทรงตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ทั้งในภาคก่อสร้างและเครื่องจักร เนื่องจากภาคธุรกิจรอความชัดเจนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการลงทุนของภาครัฐ จึงยังไม่เห็นการลงทุนใหม่มากนัก ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมพบว่ามีการใช้กำลังการผลิตที่ 60.9% ซึ่งทรงตัวระดับนี้มาต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า สินเชื่อรวมธนาคารพาณิชย์เดือน ม.ค. 58 ชะลอลงกว่าคาด ต้องเผชิญโจทย์ท้าทายมากขึ้นในการประคองการเติบโตของสินเชื่อ หลังจากที่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา มีทิศทางการให้สินเชื่อแย่กว่าที่คาดไว้ แม้ส่วนหนึ่งจะเป็นผลจากปัจจัยด้านฤดูกาลชำระคืนหนี้ก็ตาม ประกอบกับภาพกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน
"ผนวกกับแนวโน้มชะลอการเบิกใช้สินเชื่อใหม่ของทั้งลูกค้าธุรกิจและลูกค้ารายย่อย เพื่อรอจังหวะเม็ดเงินลงทุนโครงการภาครัฐไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และเพื่อติดตามสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย รวมถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ แล้ว ก็ยังอาจมีผลกดดันต่อการเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า"ศูนย์วิจัยระบุ
ทั้งนี้คาดการณ์สินเชื่อธุรกิจในไตรมาส1/58 น่าจะขยายตัว 1-1.5% ชะลอตัวจากไตรมาส 4/57 มีสัญญาณชะลอตัวทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และรายเล็ก โดยสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่คาดจะติดลบ 1.5-2.5% ส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอียังน่าจะขยายตัว 3.7-4%
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 14 มีนาคม 2558
แบงก์โอดสินเชื่อธุรกิจ 2 เดือนแรกนิ่งสนิท ทั้งธุรกิจรายใหญ่-เอสเอ็มอี พิษเศรษฐกิจทุบการลงทุนภาคธุรกิจ เผยมีแค่กลุ่มก่อสร้างเริ่มขยับเตรียมรับลงทุนภาครัฐ เน้นประคองลูกค้าไม่ให้กลายเป็นหนี้เสีย ศูนย์วิจัยกสิกรฯคาด Q1/58 สินเชื่อธุรกิจมีสิทธิ์ติดลบ 1.5-2.5%
2 เดือนสินเชื่อธุรกิจนิ่งสนิท
นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2558 สินเชื่อธุรกิจอยู่ในระดับที่ค่อนข้างนิ่ง หากเทียบกับสิ้นปี 2557 เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุนหรือการใช้สินเชื่อของภาคธุรกิจ ทั้งภาคการส่งออกยังได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อจากต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ตกต่ำ และผลกระทบยังส่งต่อมายังภาคการท่องเที่ยวอีกด้วย ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐทำได้ไม่เร็ว อีกทั้งการลงทุนก็เป็นโครงการระยะยาว 7-8 ปีกว่าจะรู้ผลประมูลก็ไตรมาส 3 ส่งผลภาพรวมความต้องการสินเชื่อหมุนเวียนลดลงตามไปด้วย
ขณะนี้เริ่มเห็นกลุ่มธุรกิจที่ก่อสร้างและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เริ่มขยับตัวเพื่อเตรียมรับกับการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐบ้างแล้ว เช่น ลูกค้าของธนาคารที่ทำโรงงานหมอนรถไฟ ช่วงที่ผ่านมาเห็นการขยายโรงงานเพิ่มเติม
"เอกชนเขาเตรียมตัวอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อการลงทุนของภาครัฐยังไม่สตาร์ต ผู้ประกอบการก็ได้แต่เตรียมตัวถ้าจะเห็นการขยับตัวด้านสินเชื่อก็คงจะเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ก่อน จากนั้นค่อยขยายไปยังซัพพลายเชนต่าง ๆ"
สำหรับปีนี้คาดการณ์สินเชื่อทั้งระบบจะขยายตัวประมาณ 3-5% เท่านั้น ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยความหวังน่าจะมาจากสินเชื่อธุรกิจเป็นหลัก แต่คงต้องรอจังหวะก่อน ขณะที่สินเชื่อรายย่อยโดยเฉพาะในตลาดล่างคงเติบโตไม่มาก เพราะหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับที่สูงมากถึง 84% น่าจะทำให้กำลังซื้อค่อนข้างติดขัด
สัญญาณผิดชำระหนี้เพิ่มขึ้น
ด้านนายวิพล วรเสาหฤท ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มลูกค้าธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การขยายตัวของสินเชื่อเอสเอ็มอีในช่วง 2 เดือนแรกเติบโตเพียงเล็กน้อย และส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อหมุนเวียนที่ปล่อยให้กับลูกค้ารายเดิม ขณะที่มีลูกค้ารายใหม่น้อยมาก หรือมีก็เป็นการรีไฟแนนซ์จากธนาคารคู่แข่งไม่ใช่การลงทุนใหม่
อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเริ่มเห็นการขยับตัวมาขอสินเชื่อเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ธุรกิจประเภทอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร ท่องเที่ยว การส่งออก ยังไม่เห็นความเคลื่อนไหว นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่เห็นการชำระหนี้ล่าช้าอีกด้วย
"สินเชื่อปล่อยได้ลำบากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่าเพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี ที่ทำได้คือการประคับประคองลูกค้าไม่ให้เป็นหนี้เสีย เพราะแม้หนี้เสียจะไม่ไหลเร็วเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ใช่ว่าปัญหาจะดีขึ้นสักเท่าไหร่" นายวิพลกล่าวและว่า
ปัจจุบันเอ็นพีแอลในส่วนของสินเชื่อเอสเอ็มอีของแบงก์อยู่ที่ประมาณ 3% ของพอร์ตสินเชื่อรวมประมาณ 3 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษอยู่ไม่น้อย
"ตอนนี้สภาพคล่องทางธุรกิจและสภาพคล่องส่วนตัวของลูกค้าหมดแล้วทำให้ตั้งแต่ช่วงปี2557 เอ็นพีแอลจึงสูงขึ้น ๆ ตอนนี้แบงก์ก็เข้าไปให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ก็ต้องรอดูต่อไปว่าเขาจะสามารถผ่านช่วงครึ่งปีแรกนี้ไปได้หรือไม่ แต่จะให้คาดเดาว่าใครรอดหรือไม่รอดซักกี่มากน้อย ทำได้ลำบากเพราะดูยาก ถ้าราคาน้ำมันไม่ปรับตัวลดลงมาช่วยก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ บ้าง"
ด้านนายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอีของธนาคารไม่มีการขยายตัว เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่ชัดเจนนัก ขณะนี้เห็นเพียงกลุ่มธุรกิจก่อสร้างและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเท่านั้นที่เริ่มฟื้นตัว และกลับเข้ามาขอสินเชื่อตามการใช้งบประมาณของภาครัฐ ส่วนธุรกิจอื่น ๆ สถานการณ์ยังไม่ค่อยดีนัก คงต้องขอดูการใช้งบประมาณของภาครัฐก่อนว่าจะลงมาสู่ภาคธุรกิจได้หรือไม่ แบงก์ก็ต้องประคับประคองลูกค้าไปก่อน ข้อดีคือเอ็นพีแอลก็ไม่ได้เติบโตเพิ่มขึ้น ยังอยู่ที่ระดับประมาณ 2.39% เช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม กสิกรไทยยังตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อปี 2558 เพิ่มขึ้น 7.7% จากปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ 5.68 แสนล้านบาท
ธปท.ชี้ลงทุนเอกชนไม่ขยับ
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านสินเชื่อรวมของสถาบันการเงินทั้งระบบธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือน ม.ค. 2558 ว่า ยอดสินเชื่อรวมขยายตัว 4.3% ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอตัวลงจากเดือน ธ.ค. 2557 ที่สินเชื่อขยายตัว 4.5% เนื่องจากสถาบันการเงินยังคงระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ
โดยเฉพาะสินเชื่อครัวเรือนที่ยังมีอัตราขยายตัวสูงอยู่ที่ 6.3% แต่ว่าสินเชื่อธุรกิจขยายตัวต่ำอยู่ที่ 1.6% ถือว่าเป็นอัตราที่ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจยังไม่เห็นภาคเอกชนลงทุนเพิ่มขึ้นในระยะสั้น ๆ นี้
ขณะที่การลงทุนของภาคเอกชนในเดือน ม.ค.ก็อยู่ระดับทรงตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ทั้งในภาคก่อสร้างและเครื่องจักร เนื่องจากภาคธุรกิจรอความชัดเจนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการลงทุนของภาครัฐ จึงยังไม่เห็นการลงทุนใหม่มากนัก ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมพบว่ามีการใช้กำลังการผลิตที่ 60.9% ซึ่งทรงตัวระดับนี้มาต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า สินเชื่อรวมธนาคารพาณิชย์เดือน ม.ค. 58 ชะลอลงกว่าคาด ต้องเผชิญโจทย์ท้าทายมากขึ้นในการประคองการเติบโตของสินเชื่อ หลังจากที่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา มีทิศทางการให้สินเชื่อแย่กว่าที่คาดไว้ แม้ส่วนหนึ่งจะเป็นผลจากปัจจัยด้านฤดูกาลชำระคืนหนี้ก็ตาม ประกอบกับภาพกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน
"ผนวกกับแนวโน้มชะลอการเบิกใช้สินเชื่อใหม่ของทั้งลูกค้าธุรกิจและลูกค้ารายย่อย เพื่อรอจังหวะเม็ดเงินลงทุนโครงการภาครัฐไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และเพื่อติดตามสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย รวมถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ แล้ว ก็ยังอาจมีผลกดดันต่อการเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า"ศูนย์วิจัยระบุ
ทั้งนี้คาดการณ์สินเชื่อธุรกิจในไตรมาส1/58 น่าจะขยายตัว 1-1.5% ชะลอตัวจากไตรมาส 4/57 มีสัญญาณชะลอตัวทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายใหญ่และรายเล็ก โดยสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่คาดจะติดลบ 1.5-2.5% ส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอียังน่าจะขยายตัว 3.7-4%
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 14 มีนาคม 2558