นโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลกับการจัดสรรคลื่น 4G ของรัฐบาลประยุทธ์
Posted: 18 Mar 2015, 07:37
นโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลกับการจัดสรรคลื่น 4G ของรัฐบาลประยุทธ์
นโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลกับการจัดสรรคลื่น 4G ของรัฐบาลประยุทธ์
'สมเกียรติ ตั้งกิจวนิชย์' ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)
“สมเกียรติ ตั้งกิจวนิชย์” ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เขียนถึงมุมมองการชะลอการประมูลความถี่ 4G กับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล หรือ Digital Economy ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พยายามผลักดัน โดยหวังว่าการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจดิจิตอลชุดชั่วคราวในวันที่ 18 มีนาคมนี้ หากไม่มีคำสั่งให้ กสทช. ประมูล 4G พล.อ.ประยุทธ์ ก็คงมีคำตอบ และเหตุผลเพื่อบอกประชาชนได้ชัดเจนว่า การประมูล 4G โดยเร็วนั้นจะก่อให้เกิดผลเสียต่อประเทศอย่างไรจึงสมควรต้องชะลอต่อไป
นายสมเกียรติ ระบุว่า เศรษฐกิจดิจิตอล คือ เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในภาคการผลิตต่างๆ อย่างเข้มข้น ทำให้ประเทศไทยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความสามารถในการแข่งขันได้ เศรษฐกิจดิจิตอลแบบใหม่ (New Digital Economy) ในปัจจุบัน แตกต่างจากเศรษฐกิจดิจิตอลแบบเดิม (Old Digital Economy) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 2 ทศวรรษแล้ว
กล่าวคือ ในขณะที่เศรษฐกิจดิจิตอลแบบเดิมเกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เศรษฐกิจดิจิตอลแบบใหม่เกิดจากการใช้สมาร์ทดีไวซ์ (smart device) เช่น สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ซึ่งติดต่อสื่อสารกันผ่านเครือข่ายไร้สายความเร็วสูง (wireless broadband) เช่น 3G
การที่สมาร์ทดีไวซ์ใช้งานได้ง่ายกว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาก ทำให้เกิดการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวในวงกว้าง แม้กระทั่งในหมู่ของผู้ที่ไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์ หรืออินเทอร์เน็ตมาก่อน และทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ มากมายในแทบทุกสาขาเศรษฐกิจ แม้กระทั่งบริการแท็กซี่ ดังตัวอย่างของ Uber และบริการในลักษณะเดียวกัน
มีการประมาณการกว่า ในปัจจุบันประเทศไทยมีสมาร์ทดีไวซ์ประมาณ 30-33 ล้านเครื่อง และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 65 ล้านเครื่อง หรือประมาณ 2 เท่าในอีก 4 ปีหน้า ซึ่งจะทำให้เกิดความต้องการใช้คลื่นความถี่เพิ่มขึ้นอีกมาก จนเกินกว่าบริการ 3G จะรองรับได้ การใช้สมาร์ทดีไวซ์ในระดับสูงดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า คนไทยมีความพร้อมในการก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิตอลแบบใหม่มากพอสมควร
การที่รัฐบาลประยุทธ์ ประกาศนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล จึงเป็นการส่งสัญญาณที่ดีมาก และเป็นการประกาศนโยบายที่ออกมาถูกที่ และถูกเวลา
อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือ มาตรการส่วนใหญ่ของรัฐบาลที่กำหนดขึ้นมาไม่ได้ช่วยส่งเสริมการสร้างเศรษฐกิจดิจิตอล เพราะมุ่งใช้กลไกภาครัฐซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน ในขณะที่ละเลยกลไกตลาด ตลอดจนไม่มีมาตรการลดอุปสรรคต่างๆ ในการประกอบธุรกิจ
นอกจากนี้ ท่าทีของ คสช. และรัฐบาลต่อการจัดสรรคลื่น 4G ยังสวนทางต่อการมุ่งสู่เศรษฐกิจดิจิตอลแบบใหม่ โดย คสช. มีคำสั่งเมื่อเดือนมิถุนายน 2557 ให้ กสทช. ชะลอการประมูลคลื่น 4G ออกไปถึง 1 ปี โดยไม่ได้ให้เหตุผลที่ชัดเจนในการมีคำสั่งดังกล่าว
ย้อนหลังไปเมื่อปี 2555 กสทช. ได้เคยเตรียมการประมูล 4G โดยเตรียมนำเอาคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ของบริษัท True Move ที่กำลังจะหมดอายุสัมปทานมาประมูล แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ประมูล เพราะ กสทช. มีมติให้ขยายเวลาการให้บริการของ True Move ตามสัมปทานออกไป โดยอ้างว่าไม่สามารถจัดการประมูลได้ทัน ซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์มากมาย
การประมูลคลื่น 4G ยังล่าช้าออกไปอีกครั้งเมื่อ คสช. มีคำสั่งเมื่อเดือนมิถุนายน 2557 ให้ชะลอการประมูลออกไปอีก 1 ปี ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แม้ในเดือนธันวาคม 2557 กสทช. ได้ขออนุญาตให้มีการประมูลคลื่นก็ยังไม่ได้รับคำตอบจาก คสช.และประชาชนไม่เคยทราบเหตุผลของการที่ คสช. ยังไม่อนุญาตใหัมีการประมูลคลื่น 4G ซึ่งก่อให้เกิดการคาดเดาต่างๆ
การประมูลคลื่น 4G ล่าช้า ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการในตลาดโทรคมนาคมไทย ดังปรากฏว่า นักวิเคราะห์หลักทรัพย์เคยวิเคราะห์ว่า ผู้ประกอบการที่ได้ประโยชน์จากการประมูลที่ล่าช้าออกไปคือ True Move ในขณะที่คู่แข่งอีก 2 รายเสียประโยชน์ ที่สำคัญ การประมูลคลื่นที่ล่าช้าก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อคนไทยที่เสียโอกาสในการได้ใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จนล้าหลังประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว และกัมพูชา และทำให้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสารสนเทศต้องล่าช้าออกไป ซึ่งขัดขวางนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
นอกจากนี้ ในระหว่างเวลาที่ คสช. ให้ชะลอการประมูลคลื่น 4G ออกไปนั้น ไม่ปรากฏว่า รัฐบาล และ คสช. ได้ดำเนินการอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย ซึ่งเกิดจากการแข่งขันที่จำกัดของผู้ประกอบการเพียง 3 ราย คือ AIS, DTAC และ True Move
เช่นไม่ได้แก้ไขกฎหมายให้มีการเปิดเสรีตลาดโทรคมนาคมเพื่อให้มีผู้ประกอบการรายใหม่ และไม่ได้แก้ปัญหาธรรมาภิบาลของ กสทช. และสำนักงาน กสทช. เลย มีแต่การเร่งผลักดันกฎหมายเศรษฐกิจดิจิตอลซึ่งก็ไม่ได้ตอบโจทย์ในเรื่องดังกล่าว และเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิของประชาชนเกินสมควร นอกจากนี้ คำสัมภาษณ์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องในคณะรัฐมนตรีก็ยังเพิ่มความสับสนและความสงสัยให้มากขึ้นต่อเจตนาของรัฐบาล
“ทราบจากข่าวว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจดิจิตอลชุดชั่วคราว ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 18 มีนาคมนี้ ผมหวังว่า จะเกิดความชัดเจนในการประมูล 4G ในวันนั้น โดยนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า คสช. จะใช้โอกาสดังกล่าวในการประกาศเลิกคำสั่งให้ชะลอการประมูลคลื่น 4G และส่งสัญญาณให้ กสทช. ดำเนินการจัดประมูลคลื่นโดยเร็ว ในกรณีที่ยังไม่อนุญาตให้มีการประมูล 4G ผู้เขียนก็หวังว่า ประชาชนจะได้ทราบเหตุผลอย่างชัดเจนว่า การประมูล 4G โดยเร็วนั้น จะก่อให้เกิดผลเสียต่อประเทศอย่างไร จึงสมควรต้องชะลอต่อไป”
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 17 มีนาคม 2558
นโยบายเศรษฐกิจดิจิตอลกับการจัดสรรคลื่น 4G ของรัฐบาลประยุทธ์
'สมเกียรติ ตั้งกิจวนิชย์' ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)
“สมเกียรติ ตั้งกิจวนิชย์” ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เขียนถึงมุมมองการชะลอการประมูลความถี่ 4G กับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล หรือ Digital Economy ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พยายามผลักดัน โดยหวังว่าการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจดิจิตอลชุดชั่วคราวในวันที่ 18 มีนาคมนี้ หากไม่มีคำสั่งให้ กสทช. ประมูล 4G พล.อ.ประยุทธ์ ก็คงมีคำตอบ และเหตุผลเพื่อบอกประชาชนได้ชัดเจนว่า การประมูล 4G โดยเร็วนั้นจะก่อให้เกิดผลเสียต่อประเทศอย่างไรจึงสมควรต้องชะลอต่อไป
นายสมเกียรติ ระบุว่า เศรษฐกิจดิจิตอล คือ เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในภาคการผลิตต่างๆ อย่างเข้มข้น ทำให้ประเทศไทยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความสามารถในการแข่งขันได้ เศรษฐกิจดิจิตอลแบบใหม่ (New Digital Economy) ในปัจจุบัน แตกต่างจากเศรษฐกิจดิจิตอลแบบเดิม (Old Digital Economy) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 2 ทศวรรษแล้ว
กล่าวคือ ในขณะที่เศรษฐกิจดิจิตอลแบบเดิมเกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เศรษฐกิจดิจิตอลแบบใหม่เกิดจากการใช้สมาร์ทดีไวซ์ (smart device) เช่น สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ซึ่งติดต่อสื่อสารกันผ่านเครือข่ายไร้สายความเร็วสูง (wireless broadband) เช่น 3G
การที่สมาร์ทดีไวซ์ใช้งานได้ง่ายกว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมาก ทำให้เกิดการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวในวงกว้าง แม้กระทั่งในหมู่ของผู้ที่ไม่เคยใช้คอมพิวเตอร์ หรืออินเทอร์เน็ตมาก่อน และทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ มากมายในแทบทุกสาขาเศรษฐกิจ แม้กระทั่งบริการแท็กซี่ ดังตัวอย่างของ Uber และบริการในลักษณะเดียวกัน
มีการประมาณการกว่า ในปัจจุบันประเทศไทยมีสมาร์ทดีไวซ์ประมาณ 30-33 ล้านเครื่อง และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 65 ล้านเครื่อง หรือประมาณ 2 เท่าในอีก 4 ปีหน้า ซึ่งจะทำให้เกิดความต้องการใช้คลื่นความถี่เพิ่มขึ้นอีกมาก จนเกินกว่าบริการ 3G จะรองรับได้ การใช้สมาร์ทดีไวซ์ในระดับสูงดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า คนไทยมีความพร้อมในการก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิตอลแบบใหม่มากพอสมควร
การที่รัฐบาลประยุทธ์ ประกาศนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล จึงเป็นการส่งสัญญาณที่ดีมาก และเป็นการประกาศนโยบายที่ออกมาถูกที่ และถูกเวลา
อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือ มาตรการส่วนใหญ่ของรัฐบาลที่กำหนดขึ้นมาไม่ได้ช่วยส่งเสริมการสร้างเศรษฐกิจดิจิตอล เพราะมุ่งใช้กลไกภาครัฐซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน ในขณะที่ละเลยกลไกตลาด ตลอดจนไม่มีมาตรการลดอุปสรรคต่างๆ ในการประกอบธุรกิจ
นอกจากนี้ ท่าทีของ คสช. และรัฐบาลต่อการจัดสรรคลื่น 4G ยังสวนทางต่อการมุ่งสู่เศรษฐกิจดิจิตอลแบบใหม่ โดย คสช. มีคำสั่งเมื่อเดือนมิถุนายน 2557 ให้ กสทช. ชะลอการประมูลคลื่น 4G ออกไปถึง 1 ปี โดยไม่ได้ให้เหตุผลที่ชัดเจนในการมีคำสั่งดังกล่าว
ย้อนหลังไปเมื่อปี 2555 กสทช. ได้เคยเตรียมการประมูล 4G โดยเตรียมนำเอาคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ของบริษัท True Move ที่กำลังจะหมดอายุสัมปทานมาประมูล แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ประมูล เพราะ กสทช. มีมติให้ขยายเวลาการให้บริการของ True Move ตามสัมปทานออกไป โดยอ้างว่าไม่สามารถจัดการประมูลได้ทัน ซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์มากมาย
การประมูลคลื่น 4G ยังล่าช้าออกไปอีกครั้งเมื่อ คสช. มีคำสั่งเมื่อเดือนมิถุนายน 2557 ให้ชะลอการประมูลออกไปอีก 1 ปี ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แม้ในเดือนธันวาคม 2557 กสทช. ได้ขออนุญาตให้มีการประมูลคลื่นก็ยังไม่ได้รับคำตอบจาก คสช.และประชาชนไม่เคยทราบเหตุผลของการที่ คสช. ยังไม่อนุญาตใหัมีการประมูลคลื่น 4G ซึ่งก่อให้เกิดการคาดเดาต่างๆ
การประมูลคลื่น 4G ล่าช้า ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการในตลาดโทรคมนาคมไทย ดังปรากฏว่า นักวิเคราะห์หลักทรัพย์เคยวิเคราะห์ว่า ผู้ประกอบการที่ได้ประโยชน์จากการประมูลที่ล่าช้าออกไปคือ True Move ในขณะที่คู่แข่งอีก 2 รายเสียประโยชน์ ที่สำคัญ การประมูลคลื่นที่ล่าช้าก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อคนไทยที่เสียโอกาสในการได้ใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จนล้าหลังประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว และกัมพูชา และทำให้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสารสนเทศต้องล่าช้าออกไป ซึ่งขัดขวางนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
นอกจากนี้ ในระหว่างเวลาที่ คสช. ให้ชะลอการประมูลคลื่น 4G ออกไปนั้น ไม่ปรากฏว่า รัฐบาล และ คสช. ได้ดำเนินการอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย ซึ่งเกิดจากการแข่งขันที่จำกัดของผู้ประกอบการเพียง 3 ราย คือ AIS, DTAC และ True Move
เช่นไม่ได้แก้ไขกฎหมายให้มีการเปิดเสรีตลาดโทรคมนาคมเพื่อให้มีผู้ประกอบการรายใหม่ และไม่ได้แก้ปัญหาธรรมาภิบาลของ กสทช. และสำนักงาน กสทช. เลย มีแต่การเร่งผลักดันกฎหมายเศรษฐกิจดิจิตอลซึ่งก็ไม่ได้ตอบโจทย์ในเรื่องดังกล่าว และเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิของประชาชนเกินสมควร นอกจากนี้ คำสัมภาษณ์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องในคณะรัฐมนตรีก็ยังเพิ่มความสับสนและความสงสัยให้มากขึ้นต่อเจตนาของรัฐบาล
“ทราบจากข่าวว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจดิจิตอลชุดชั่วคราว ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 18 มีนาคมนี้ ผมหวังว่า จะเกิดความชัดเจนในการประมูล 4G ในวันนั้น โดยนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า คสช. จะใช้โอกาสดังกล่าวในการประกาศเลิกคำสั่งให้ชะลอการประมูลคลื่น 4G และส่งสัญญาณให้ กสทช. ดำเนินการจัดประมูลคลื่นโดยเร็ว ในกรณีที่ยังไม่อนุญาตให้มีการประมูล 4G ผู้เขียนก็หวังว่า ประชาชนจะได้ทราบเหตุผลอย่างชัดเจนว่า การประมูล 4G โดยเร็วนั้น จะก่อให้เกิดผลเสียต่อประเทศอย่างไร จึงสมควรต้องชะลอต่อไป”
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 17 มีนาคม 2558