นอนกรนเป็นต้อหิน อาจทำให้ตาบอด
Posted: 18 Mar 2015, 13:55
นอนกรนเป็นต้อหิน อาจทำให้ตาบอด
การนอนกรนนอกจากเป็นเครื่องก่อกวนความสงบสุขของผู้อื่นแล้ว ยังได้ถูกค้นพบอีกว่าเป็นตัวการทำให้โรคต้อหินของตากำเริบหนักขึ้นด้วย โรคต้อหินนี้เป็นโรคร้ายแรงของดวงตาอย่างหนึ่ง เพราะว่ามันได้ทำลายประสาทการเห็นให้เสียหาย
ดร.รานี เมนอล ศัลยแพทย์จักษุ ได้ย้ำว่าการค้นพบจากการศึกษาครั้งนี้ ยังได้ยืนยันความรู้ที่พบกันเมื่อก่อนหน้าว่ามันทำให้เป็นต้อหินง่ายขึ้น
“ด้วยเหตุว่าการนอนกรนนั้นได้ตัดออกซิเจนที่จะไปยังปอดและอวัยวะสำคัญอื่นๆ ซึ่งในจำนวนนี้รวมทั้งดวงตาด้วย คนไข้โรคต้อหินปกติเป็นประสาทตาก็ล้มตายกันมากอยู่แล้ว เนื่องจากความกดดันในลูกตาที่สูงขึ้น ดังนั้นเมื่อยังต้องถูกตัดออกซิเจนเข้าอีกยิ่งทำให้ยิ่งเสื่อมโทรมหนักขึ้น”
หมอเมนอลอธิบายอีกว่า เมื่อความดันในดวงตาสูงขึ้น เส้นประสาทในลูกตาก็จะถูกบีบเค้น และตายลง เส้นประสาทของลูกตามีปริมาณจำนวน 5 ล้าน ดังนั้นเมื่อต้องสูญเสียลงสักร้อยละ 30 ก็จะขัดขวางการเห็นอย่างหนัก
ตามสถิติแล้วผู้ที่อยู่ในวัยเกิน 40 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงที่จะเป็นต้อหิน อยู่มาก 1 ใน 200 ราย และหากว่าเป็นผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปีขึ้นไป ก็จะยิ่งเสี่ยงหนักขึ้น 1 ใน 100 ราย เฉพาะในหมู่ชาวอินเดียก็มีผู้เป็นต้อหินประมาณ 11.9 ล้านคนอยู่แล้ว ขั้นตอนการรักษานั้นสำคัญอยู่ตรงที่พบว่าเป็นแต่เนิ่นๆ แม้ว่าจะยังไม่ค่อยปรากฏอาการชัดเจนก็ตาม.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 12 มี.ค. 2558
การนอนกรนนอกจากเป็นเครื่องก่อกวนความสงบสุขของผู้อื่นแล้ว ยังได้ถูกค้นพบอีกว่าเป็นตัวการทำให้โรคต้อหินของตากำเริบหนักขึ้นด้วย โรคต้อหินนี้เป็นโรคร้ายแรงของดวงตาอย่างหนึ่ง เพราะว่ามันได้ทำลายประสาทการเห็นให้เสียหาย
ดร.รานี เมนอล ศัลยแพทย์จักษุ ได้ย้ำว่าการค้นพบจากการศึกษาครั้งนี้ ยังได้ยืนยันความรู้ที่พบกันเมื่อก่อนหน้าว่ามันทำให้เป็นต้อหินง่ายขึ้น
“ด้วยเหตุว่าการนอนกรนนั้นได้ตัดออกซิเจนที่จะไปยังปอดและอวัยวะสำคัญอื่นๆ ซึ่งในจำนวนนี้รวมทั้งดวงตาด้วย คนไข้โรคต้อหินปกติเป็นประสาทตาก็ล้มตายกันมากอยู่แล้ว เนื่องจากความกดดันในลูกตาที่สูงขึ้น ดังนั้นเมื่อยังต้องถูกตัดออกซิเจนเข้าอีกยิ่งทำให้ยิ่งเสื่อมโทรมหนักขึ้น”
หมอเมนอลอธิบายอีกว่า เมื่อความดันในดวงตาสูงขึ้น เส้นประสาทในลูกตาก็จะถูกบีบเค้น และตายลง เส้นประสาทของลูกตามีปริมาณจำนวน 5 ล้าน ดังนั้นเมื่อต้องสูญเสียลงสักร้อยละ 30 ก็จะขัดขวางการเห็นอย่างหนัก
ตามสถิติแล้วผู้ที่อยู่ในวัยเกิน 40 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงที่จะเป็นต้อหิน อยู่มาก 1 ใน 200 ราย และหากว่าเป็นผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปีขึ้นไป ก็จะยิ่งเสี่ยงหนักขึ้น 1 ใน 100 ราย เฉพาะในหมู่ชาวอินเดียก็มีผู้เป็นต้อหินประมาณ 11.9 ล้านคนอยู่แล้ว ขั้นตอนการรักษานั้นสำคัญอยู่ตรงที่พบว่าเป็นแต่เนิ่นๆ แม้ว่าจะยังไม่ค่อยปรากฏอาการชัดเจนก็ตาม.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 12 มี.ค. 2558