รู้จัก "โบ๊ท-บุตรรัตย์" เจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตไฟแนนซ์ออนไลน์ Silkspan แปรการเงินให้เป็นเรื่องง่าย
"ผมมีไอเดียว่า ในอนาคตลูกค้าจะต้องการซูเปอร์มาร์เก็ตทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อจะได้เปรียบเทียบราคาสินค้าก่อน แล้วค่อยตัดสินใจซื้อบริการทางการเงิน"
นี่คือไอเดียของประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ซิลค์สแปน จำกัด "บุตรรัตย์ จรูญสมิทธิ์ หรือ โบ๊ท" นักธุรกิจผู้บุกเบิกซูเปอร์มาร์เก็ตไฟแนนซ์ออนไลน์ นับตั้งแต่ประเทศไทยเริ่มใช้อินเทอร์เน็ตยุคแรกเริ่ม ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว เปิดให้บริการคนไทยมากว่า 2 ล้านราย
หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตานักธุรกิจหนุ่มหล่อวัย 46 ปี "โบ๊ท-บุตรรัตย์" ในฐานะสามีของ "จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์" หรือ แบม เคยรับตำแหน่งโฆษกพรรคและรองเลขาธิการพรรคชาติไทย และรองโฆษกรัฐบาล พิธีกรรายการโทรทัศน์ที่เคยรับงานพิธีกรรายการตีสิบ
โบ๊ท-บุตรรัตย์ ถือเป็นนักธุรกิจหนุ่มผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เขาลาออกจากชีวิตมนุษย์เงินเดือนหลายหลัก จากนายแบงก์ที่ปรึกษาการลงทุน หรือวาณิชธนากรของบริษัทให้บริการทางการเงินระดับโลกของสหรัฐอเมริกา "เมอร์ริล ลินช์" ผันมาทำซูเปอร์มาร์เก็ตไฟแนนซ์ออนไลน์ เริ่มต้นจากศูนย์
จากวันนั้นถึงวันนี้มีลูกค้ากว่า6.5ล้านคนที่แวะเวียนเข้ามาใช้บริการเติบโตแบบก้าวกระโดดไปพร้อมกับการกำเนิดของโมบายอินเทอร์เน็ต15ปีที่รอคอยนับเป็นระยะเวลายาวนานพอสมควร"บุตรรัตย์" อธิบายถึงความเป็นไปของธุรกิจในโลกออนไลน์ที่บูมช้ากว่าเวลาที่คาดไว้
แต่ในทางยุทธศาสตร์ยังถือว่าเขาคือเบอร์ 1 ที่มีความน่าเชื่อถือด้วยระยะเวลา 15 ปี และยังเป็นรายเดียวในประเทศที่ให้บริการเปรียบเทียบด้านการเงินแบบครบวงจรและรอบด้านที่สุดในตอนนี้
เรียกได้ว่า"ซิลค์สแปน"ใช้เวลาเตรียมความพร้อมเต็มที่ก่อนใครเพื่อก้าวไปสู่ยุคขุดทองในโลกออนไลน์อย่างแท้จริงนับจากนี้ไปอีก10ปี
ด้วยไอเดียเริ่มแรกให้บริการผ่านทางเว็บไซต์www.silkspan.com ทำหน้าที่เป็นนายหน้ารับทำบัตรเครดิต ขายประกัน และยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารให้ลูกค้า ตอนนี้ขยายธุรกิจประกันภัยของ silkspan ขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง
"ผมมองว่าโลกในอนาคต ความสะดวกสบายจะเอาชนะความกลัวได้ทุกอย่าง ผมเชื่อว่าคนไทยไม่ได้กลัวอินเทอร์เน็ต จึงเป็นที่มาของการตั้งบริษัทซิลค์สแปนเพื่อป้อนข้อมูลที่คนทั่วไปต้องการรู้ คือการเปรียบเทียบตารางสินเชื่อและราคาประกันของบริษัทและธนาคารต่าง ๆ มารวบรวมไว้ในที่เดียว โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังธนาคารนั้น ๆ ซึ่งยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน
สมมุติเมื่อ 15 ปีก่อน เวลาเราจะต่อประกันภัยรถยนต์แต่ละทีก็ต้องโทรไปหลาย ๆ แห่งเพื่อเปรียบเทียบราคา ให้เขาแฟ็กซ์ใบเสนอราคามา หรือการสมัครสินเชื่อของแต่ละธนาคารก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเช็กครบทุกธนาคาร ผมจึงได้สร้างซูเปอร์มาร์เก็ตขึ้นมาให้ลูกค้าได้เลือกเปรียบเทียบราคาได้แค่คลิกเดียว"
เจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตการเงินออนไลน์เล่าย้อนถึงการก่อร่างสร้างตัวที่เริ่มจากศูนย์ว่า"ผมไม่ได้มาจากครอบครัวที่มีฐานธุรกิจอยู่แล้วไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะไปเปิดโรงงาน จึงต้องเริ่มจากธุรกิจที่น่าจะมีความเป็นไปได้ ผมสนใจอาชีพเรื่องการเงิน เพราะว่ามีพื้นฐานด้านนี้มาก่อน ก็มีความเข้าใจเรื่องการเงิน
การเปรียบเทียบสินเชื่อสำหรับผมมันง่าย แต่คนอีกเป็นล้านไม่รู้เรื่อง เราก็มองว่าอินเทอร์เน็ตน่าจะเป็นสื่อที่ไปหาคนได้เยอะ แต่แทนที่จะให้ความรู้อย่างเดียว ทำไมเราไม่พัฒนาเป็นธุรกิจ ที่คนสามารถสมัครได้ ทำอะไรได้ จึงมาทำตรงนี้"
เจ้าของธุรกิจบริการการเงินทางอินเทอร์เน็ตยอมรับว่า"ผมมาก่อนกาล" เขาบอกว่า "เริ่มเร็วไปนิดหนึ่งเพราะว่าอินเทอร์เน็ตในไทยช้ากว่าโลกทั่วไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงสร้างราคาและคอมพิวเตอร์เองถือว่าค่อนข้างแพงถ้าเทียบกับรายได้ต่อหัวของคนไทย 15 ปีที่ผ่านมาจะชัดเจนมากว่า ทุกคนมาใช้อินเทอร์เน็ตเฉพาะที่ทำงาน
แม้ตลาดตรงนี้จะเกิดมา 15 ปีเพื่อรองรับลูกค้า แต่ก็ยังถือว่าเล็กมาก เพราะตลาดของสินเชื่อและประกันทั้งหมดมูลค่านับล้านล้านบาท แค่สินเชื่อเคหะมีค้างในระบบ 2.5 ล้านล้านบาท คนไทยไม่มีการรีไฟแนนซ์เลย เพราะไม่มีความเข้าใจ ทั้งที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้
ถ้าพ้น 3 ปีไปแล้วแบงก์จะไม่สามารถปรับเราได้ ก็ย้ายไปแบงก์อื่น ถ้าดอกเบี้ยลดลง 1 เปอร์เซ็นต์ เราประหยัดไปหลายแสนบาท หรืออาจจะไม่ย้ายแบงก์ก็ได้ แต่เราทำเรื่องขอกู้ใหม่"
ข้อดีของอินเทอร์เน็ตก็คือ การสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้กับคนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาเรื่องที่น่าเบื่อและยากได้ง่ายขึ้น ผ่านภาพและกราฟฟิกที่โลกออนไลน์สร้างได้ และย้ำให้เห็นว่าเรื่องการเงินเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกคน
กลายเป็น 4 เสาหลักที่ทุกคนจะต้องเจอเริ่มต้นจากการขอสินเชื่อโดยปราศจากทรัพย์ค้ำประกัน เช่น สินเชื่อบัตรเครดิต จากนั้นก็ขยับไปสู่สินเชื่อที่อยู่อาศัย มองหาประกันภัยมาคุ้มครองทรัพย์สิน เมื่อมีครอบครัวก็เริ่มหาความมั่นคงเข้าไปสู่ประกันชีวิต
จาก 4 เสาหลักที่ทุกคนต้องมี ต้องหา ไม่วันใดก็วันหนึ่ง เพราะทุกคนไม่ได้มีเงินสดเพียงพอจะไปซื้อบ้านซื้อรถหรือซื้อประกัน การคัดเลือกและคัดสรรธนาคารที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อลดขั้นตอนการเดินเท้าเปรียบเทียบราคา ไอเดียการสร้างตารางเปรียบเทียบจึงเกิดขึ้นมาตอบสนองความต้องการของคนได้ดี
ซูเปอร์มาร์เก็ตการเงินออนไลน์นี้เกิดขึ้นจากความถนัดบวกกับแพสชั่นของนักธุรกิจหนุ่มผู้เริ่มอิ่มและเบื่อกับงานประจำที่ทำและมองว่าตัวเองน่าจะทำอะไรได้มากกว่าการรับเงินเดือนและเสียภาษีรายปีเท่านั้น เขาไม่ได้อยากมีอาชีพอิสระอยากเป็นเจ้านายตัวเองแบบเด็กยุคใหม่ที่ใฝ่ฝันอยากมีชีวิตที่เลือกได้ไม่ว่าเวลาตื่นเวลานอนเพราะสิ่งเหล่านี้เขาเชื่อว่ามันไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงของการทำธุรกิจ
"ผมเป็นเจ้าของธุรกิจ ผมทำงานอาทิตย์ละ 6 วัน บางวันผมมาทำงานก่อนลูกน้องด้วยซ้ำ และต้องรับผิดชอบหลายอย่าง และคอยแก้ปัญหา ถ้าใครได้มาเป็นเจ้าของธุรกิจแบบจริงจังจะรู้ว่าเวลานอนไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป คือผมก็มีความคิดอยากสร้างบริษัท ผมไม่ได้คิดอยากมีอาชีพอิสระ แต่ผมชอบทำธุรกิจ
จุดที่ทำให้ผมคิดจะทำธุรกิจจริงจัง ทิ้งเงินเดือนจำนวนมาก เพราะเจ้านายเคยเตือนผมว่า "คุณไม่ต้องทำลึกขนาดนั้นหรอก ไม่ใช่หน้าที่เรา" ตรงจุดนั้นเองที่ทำให้ผมรู้สึกได้ว่า หรือนี่ไม่ใช่ตัวตนเรา เมื่อผมลาออกจากบริษัทระดับโลกทุกคนในครอบครัวผมจึงพากันตกใจมาก"
ด้วยดีกรีนักเรียนนอกลูกชายของนายแพทย์ใหญ่ถูกส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็กจนกระทั่งเรียนจบปริญญาตรีวิศวกรรมจาก University of Colorado Boulder สหรัฐอเมริกา และปริญญาโทจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ จุฬาฯ เข้าทำงานกับสถาบันการเงินระดับโลก เก็บเกี่ยวประสบการณ์และค้นพบแพสชั่นของตัวเอง นำมาสู่การสร้างบริษัทที่มั่นคง และเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในอีก 2 ปีข้างหน้า
แต่ความสำเร็จในวันนี้ไม่ได้บอกว่าหนทางที่ผ่านมาจะราบรื่นอย่างที่หวัง เพราะอุปสรรคใหญ่ของการทำธุรกิจด้านการเงินคือความน่าเชื่อถือ นอกจากต้องเอาชนะใจลูกค้าแล้ว เหล่าพันธมิตรย่อมมีส่วนสำคัญในการเติบโตของธุรกิจนี้
"ผมเริ่มต้นจากการเปิดเว็บไซต์เพื่อนำหลาย ๆ แบงก์หลาย ๆ บริษัทประกันมารวมไว้ในที่เดียว ผมไปพรีเซนต์ธนาคารต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เพื่อดึงพวกเขามาเป็นพันธมิตร แต่ก็ถูกปฏิเสธหลายต่อหลายครั้ง ผมจำได้ว่าเริ่มแรกมีเพียง 2-3 แบงก์ที่มาร่วมกับเรา
แน่นอนว่าไม่มีธนาคารไหนชอบมาอยู่ข้าง ๆ คู่แข่ง แต่คอนเซ็ปต์ผมคือ นำแต่ละแบงก์มาเปรียบเทียบให้ลูกค้าดู แต่ผมก็ไม่ย่อท้อ ถูกปฏิเสธผมก็กลับไปใหม่ พยายามอธิบายว่า ใครมาจอยกับผมก็ไม่เสียหายอะไร นำบริการการเงินมาวางฟรี คนที่เข้ามาสมัครใช้บริการถึงจะต้องจ่ายให้ผม เพราะสินค้าของเขาก็ไม่ได้มีตัวตน แบงก์ไม่ได้เสี่ยง แต่การมาอยู่ข้าง ๆ คู่แข่งไม่มีใครชอบแต่ปัจจุบันมีพันธมิตรมารวมแจมเกือบครบทุกธนาคารแล้ว"
จากวันนั้นถึงวันนี้ ซูเปอร์มาร์เก็ตการเงินบนเว็บไซต์ silkspan.com ได้ขยายฐานลูกค้าและมีผู้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก หากวัดจากทรูฮิตในหมวดที่เป็นบัตรเครดิตและสินเชื่อ silkspan คือเบอร์ 1 มาตลอดระยะเวลา 15 ปี
นอกจากนี้ยังมีวิชั่นที่น่าชื่นชมของเจ้าของซูเปอร์ฯการเงินออนไลน์คือ เขาอยากให้บริษัทคนไทยออกสู่ตลาดโลกได้อย่างภาคภูมิ โดยเขามีความเชื่อว่า ฝีมือความสามารถของคนไทยเก่งไม่แพ้ชาติใด เขาจึงเริ่มทำการสร้างคนและสร้างระบบที่เกิดจากฝีมือคนไทยล้วน ๆ
เจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตบอกว่า แม้ภาพธุรกิจโดยรวมจะมีอัตราการเติบโตค่อนข้างน้อย เพราะอินเทอร์เน็ตไปไม่ทั่วถึง แต่สิ่งที่เห็นชัดคือปี 2013 มีคนเข้าเว็บไซต์เรา 3.5 ล้านคนต่อปี พอปี 2014 จาก 3.5 ล้านคน ขยับเป็น 6.5 ล้านคน ปีเดียวโต 85 เปอร์เซ็นต์
ยังมีอีกตัวเลขที่น่าสังเกตว่า เดือนกันยายนปีที่แล้วเป็นครั้งแรกที่ช่องทางการเข้าถึงผ่านทางโทรศัพท์แซงหน้าคอมพิวเตอร์พีซี และยอดแฟนเพจเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จาก 2 หมื่นมาตลอด
แต่ปีที่แล้วแค่ปีเดียวแฟนเพจเพิ่มขึ้นหนึ่งแสนคน ทั้งที่ทำทุกอย่างเหมือนเดิม
ตัวเลขเหล่านี้จึงน่าคิดว่า
"อีก 10 ปีนับจากนี้ไปคือยุคขุดทองของเรา"
ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 19 มีนาคม 2558
รู้จัก "โบ๊ท-บุตรรัตย์" เจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตไฟแนนซ์ออนไลน์
-
- Posts: 7045
- Joined: 29 Mar 2013, 13:36