แบงก์ชาติปรับลดจีดีพีเหลือ 3.8 ส่วนส่งออก0.8 ชี้เศรษฐกิจไทยซ
Posted: 21 Mar 2015, 15:13
แบงก์ชาติปรับลดจีดีพีเหลือ 3.8 ส่วนส่งออก0.8 ชี้เศรษฐกิจไทยซึมลึกกว่าที่คาด
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ปรับลดประมาณการการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปี 2558 อยู่ที่ 3.8% จากเดิมคาดว่าอยู่ที่ 4% มาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 4/2557 ต่ำกว่าคาด การใช้จ่ายในประเทศลดลงทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้แรงขับเคลื่อนที่จะไปสู่ปี 2558 มีน้อย
รวมถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและประชาชนยังชะลอลงในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ จากการใช้จ่ายการลงทุนของภาครัฐที่ทำได้ช้า ส่งผลให้เอกชนลงทุนล่าช้าตามไปด้วย
"ส่วนการส่งออกปรับลดจาก 1% เหลือ 0.8% เนื่องจากเศรษฐกิจคู่ค้าขยายตัวต่ำกว่าที่คาด โดยเฉพาะจีนและเอเชีย ขณะที่ราคาสินค้าส่งออกต่ำลงเป็นไปตามการลดลงของสินค้าโภคภัณฑ์ที่เคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันในตลาดโลก"
นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยในปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยประเมินไว้และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น มาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและอินเดีย การใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มล่าช้ากว่าคาด โดยเฉพาะงบลงทุน การใช้จ่ายภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจชะลอตัวออกไป เพราะความเชื่อมั่นที่ถูกบั่นทอนลงจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า
ส่วนประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้ที่ปรับลดลงมาต่ำกว่าเป้าหมายนโยบายการเงินนั้น เชื่อว่ายังไม่ใช่สัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเงินฝืด เนื่องจากเป็นแค่สถานการณ์ชั่วคราว และจะกลับเข้าสู่เป้าหมายปกติในปี 2559 ที่ 2.5%
"เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยประเมินไว้ตามการใช้จ่ายในประเทศที่อ่อนแรงกว่าคาด ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อลดลงจากที่เคยประเมินไว้ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเป็นสำคัญ"
อย่างไรก็ตาม มองว่าเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้าบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มรายได้ในอนาคตของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ทำให้ครัวเรือนและธุรกิจยังไม่เร่งใช้จ่ายแม้ว่าค่าครองชีพและต้นทุนการขนส่งจะลดลงตามราคาน้ำมัน ส่วนการลงทุนของภาคเอกชนในไตรมาส 4/2557 หดตัวมากกว่าที่คาดและมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 21 มีนาคม 2558
นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ปรับลดประมาณการการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปี 2558 อยู่ที่ 3.8% จากเดิมคาดว่าอยู่ที่ 4% มาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 4/2557 ต่ำกว่าคาด การใช้จ่ายในประเทศลดลงทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้แรงขับเคลื่อนที่จะไปสู่ปี 2558 มีน้อย
รวมถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและประชาชนยังชะลอลงในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ จากการใช้จ่ายการลงทุนของภาครัฐที่ทำได้ช้า ส่งผลให้เอกชนลงทุนล่าช้าตามไปด้วย
"ส่วนการส่งออกปรับลดจาก 1% เหลือ 0.8% เนื่องจากเศรษฐกิจคู่ค้าขยายตัวต่ำกว่าที่คาด โดยเฉพาะจีนและเอเชีย ขณะที่ราคาสินค้าส่งออกต่ำลงเป็นไปตามการลดลงของสินค้าโภคภัณฑ์ที่เคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันในตลาดโลก"
นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยในปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยประเมินไว้และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น มาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและอินเดีย การใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มล่าช้ากว่าคาด โดยเฉพาะงบลงทุน การใช้จ่ายภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจชะลอตัวออกไป เพราะความเชื่อมั่นที่ถูกบั่นทอนลงจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า
ส่วนประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปีนี้ที่ปรับลดลงมาต่ำกว่าเป้าหมายนโยบายการเงินนั้น เชื่อว่ายังไม่ใช่สัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเงินฝืด เนื่องจากเป็นแค่สถานการณ์ชั่วคราว และจะกลับเข้าสู่เป้าหมายปกติในปี 2559 ที่ 2.5%
"เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยประเมินไว้ตามการใช้จ่ายในประเทศที่อ่อนแรงกว่าคาด ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อลดลงจากที่เคยประเมินไว้ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเป็นสำคัญ"
อย่างไรก็ตาม มองว่าเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้าบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มรายได้ในอนาคตของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ทำให้ครัวเรือนและธุรกิจยังไม่เร่งใช้จ่ายแม้ว่าค่าครองชีพและต้นทุนการขนส่งจะลดลงตามราคาน้ำมัน ส่วนการลงทุนของภาคเอกชนในไตรมาส 4/2557 หดตัวมากกว่าที่คาดและมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 21 มีนาคม 2558