‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ สูตรเซียนวิทย์ ชูสรรพคุณขนานแท้ เปิดตลาดคน
Posted: 23 Mar 2015, 14:26
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ สูตรเซียนวิทย์ ชูสรรพคุณขนานแท้ เปิดตลาดคนรุ่นใหม่
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ สูตรเซียนวิทย์ ชูสรรพคุณขนานแท้ เปิดตลาดคนรุ่นใหม่
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ แบรนด์ “Squared mush” เตรียมปรับบรรจุภัณฑ์และออกตลาดเร็วๆ นี้
“เห็ดถั่งเช่า” กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่คนรักและดูแลสุขภาพ ทำให้ในท้องตลาดมีสินค้าจากเห็ดยอดฮิตออกมาจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่มักเน้นชูสรรพคุณด้านเสริมศักยภาพทางเพศเป็นหลัก เพื่อกลุ่มผู้บริโภคเฉพาะเจาะจง ทว่า สำหรับแบรนด์ “Squared mush” เครื่องดื่มน้ำเห็ดถั่งเช่าโดยนักวิทยาศาสตร์ตัวจริงเสียงจริง ประกาศชัดเจนว่า ต้องการนำเสนอสรรพคุณที่แท้จริงของเห็ดถั่งเช่า ผ่านการแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ผู้รักสุขภาพได้ง่าย และทั่วถึงยิ่งขึ้น
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ สูตรเซียนวิทย์ ชูสรรพคุณขนานแท้ เปิดตลาดคนรุ่นใหม่
เอกพงศ์ ฉันทศิริเวทย์ ผู้บริหาร บริษัท ไบโอทรานส์ฟอร์เมติกส์ จำกัด
เอกพงศ์ ฉันทศิริเวทย์ ผู้บริหาร บริษัท ไบโอทรานส์ฟอร์เมติกส์ จำกัด เล่าว่า ส่วนตัวเรียนจบด้านวิทยาศาสตร์ จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาโดยตรง และที่ผ่านมาดำเนินธุรกิจออกแบบและผลิตเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์เพื่อใช้ในห้องแล็บ เช่น เครื่องเขย่าสาร (Shaker), ตู้ปลอดเชื้อ (Laminar Flow), ระบบ Bioreactor ในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช, ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ห้องแล็บ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานผลิตในประเทศทั้งสิ้น
จนเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้วบริษัทฯ ได้ต่อยอดธุรกิจ โดยได้ตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาในนาม บริษัท ไบโอเมดิซินอล อินดัสทรี จำกัด โดยในช่วงต้นเป็นผู้ผลิตเห็ดถั่งเช่าสีทอง จากนั้นจึงก้าวไปสู่การคิดค้นสูตรอาหารเสริมจากถั่งเช่า รับจ้างผลิตในรูปแบบ OEM จากพื้นฐานจึงเริ่มพัฒนาไปสู่การผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเอง โดยทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากเห็ดถั่งเช่าสีทอง แบรนด์ “คอร์ดี้ โกลด์” พยายามชูสรรพคุณที่แท้จริงของเห็ดถั่งเช่าสีทอง พร้อมผลิตและวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์มืออาชีพ และที่สำคัญไม่ได้เน้นการตลาดที่ชูเป็นสินค้าเสริมสมรรถภาพทางเพศแต่อย่างใด
“พวกเราเป็นนักวิทยาศาสตร์มืออาชีพ ส่วนใหญ่ทำงานกันแต่ในห้องแล็บ แต่การตลาดค่อนข้างอ่อน เท่าที่ผ่านมาเลยแค่รับจ้างผลิต จนมีความพร้อมทุกด้าน เราเลยเริ่มมาแปรรูปทำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากธรรมชาติด้วยตัวเอง ซึ่งในความเป็นจริง เราสามารถแปรรูปวัตถุดิบธรรมชาติได้หลายชนิด แต่ที่เลือก “เห็ดถั่งเช่าสีทอง” เพราะกำลังได้รับความนิยมจากตลาด ประกอบกับสรรพคุณของเห็ดถั่งเช่ามีผลงานวิจัยอย่างเป็นทางการรองรับคุณสมบัติอยู่จำนวนมาก” เอกพงศ์กล่าว และเสริมต่อว่า
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ สูตรเซียนวิทย์ ชูสรรพคุณขนานแท้ เปิดตลาดคนรุ่นใหม่
“อย่างไรก็ตาม ในท้องตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากเห็ดถั่งเช่ามักถูกนำเสนอเรื่องเป็นสินค้าเสริมสมรรถภาพทางเพศ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วคุณสมบัติเด่นของเห็ดถั่งเช่าคือ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันแบบองค์รวมต่อร่างกาย และช่วยให้ระบบการหมุนเวียนของโลหิตไหลเวียนได้ดี ซึ่งการเสริมสมรรถภาพทางเพศเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น”
“และอีกประเด็น ผู้ประกอบการบางรายจะใส่สารสกัดจากเห็ดถั่งเช่าเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น แล้วก็ไปโฆษณาว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากเห็ดถั่งเช่า ทั้งๆ ที่ปริมาณที่ใส่ดังกล่าว น้อยจนแทบจะไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนั้น แนวคิดในการผลิตสินค้าของเราคือ การมุ่งเน้นที่จะนำเสนอสรรพคุณของเห็ดถั่งเช่าที่แท้จริง ในด้านการช่วยเสริมภูมิคุ้มกันต่อร่างกาย และใส่ปริมาณเหมาะสม ในระดับ Active dose ที่มีผลช่วยบำรุงร่างกายได้จริงๆ” เจ้าของธุรกิจระบุ
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ สูตรเซียนวิทย์ ชูสรรพคุณขนานแท้ เปิดตลาดคนรุ่นใหม่
พัฒนาจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสกัดจากเห็ดถั่งเช่า
นอกจากนั้น หลังจากออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแล้ว เอกพงศ์เผยต่อว่า เตรียมจะต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็น ‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ เพื่อจะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้นและกว้างขึ้น โดยยังเน้นจุดขายให้เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย สูตรและการผลิตต่างๆ คิดค้นและพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์จริงๆ
เขาเสริมด้วยว่า น้ำเห็ดถั่งเช่าจะอยู่ภายใต้แบรนด์ “squared mush” โดยสูตรน้ำเห็ดถั่งเช่าที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วยส่วนผสมของเห็ดถั่งเช่าสีทอง ใบเตย และหญ้าหวาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาทำบรรจุภัณฑ์ใหม่ รวมถึงขอรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา (อย.) ส่วนช่องทางขาย มีแผนจะวางจำหน่ายตามร้านขายสินค้าเพื่อสุขภาพประมาณปลายปีนี้ (2558)
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ สูตรเซียนวิทย์ ชูสรรพคุณขนานแท้ เปิดตลาดคนรุ่นใหม่
“เดิมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสุขภาพเห็ดถั่งเช่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ อีกทั้งมีราคาค่อนข้างสูง ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ยาก ดังนั้นเราเลยได้แนวคิดปรับมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม รวมถึงสร้างแบรนด์ใหม่ให้มีสีสัน และใกล้ชิดผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เพื่อต้องการให้ผลิตภัณฑ์เห็ดถั่งเช่าขยายตลาดกว้างออกไปสู่บุคคลทั่วไปที่รักสุขภาพ ทุกเพศทุกวัยสามารถดื่มได้ง่าย และสม่ำเสมอ” นักวิทยาศาสตร์หนุ่มกล่าวเสริม
ด้านการผลิต บริษัทฯ มีความพร้อมทุกด้าน โดยใช้วิธีเพาะเลี้ยงเห็ดถั่งเช่าในระบบปิด มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด โดยมีปริมาณการเพาะเลี้ยงเห็ดถั่งเช่าแบบแห้งได้กว่า 10 กิโลกรัมต่อเดือน ซึ่งปริมาณดังกล่าวสามารถนำไปแปรรูปได้เหลือเฟือ
เมื่อถามถึงเงินลงทุนธุรกิจนี้ เอกพงศ์ระบุว่า เนื่องจากบริษัทฯ มีพื้นฐานความพร้อมอยู่แล้ว ทั้งด้านอุปกรณ์ สถานที่ ความรู้ และบุคลากร จึงใช้เงินทุนรวมแค่ประมาณล้านกว่าบาท ซึ่งถือว่าน้อยมากหากต้องเทียบกับผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ไม่มีพื้นฐานใดๆ เลยแต่อยากมาทำธุรกิจนี้
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ สูตรเซียนวิทย์ ชูสรรพคุณขนานแท้ เปิดตลาดคนรุ่นใหม่
สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต ทางบริษัทฯ จะไม่หยุดแค่การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเห็ดถั่งเช่าเท่านั้น เพราะยังมีเห็ดสายพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะเห็ดไทยแท้ๆ อีกหลายชนิดที่มีสรรพคุณดีเยี่ยม แต่ยังไม่เป็นที่รู้จัก และยังไม่ถูกนำเสนอต่อคนทั่วไป ดังนั้นทางบริษัทฯ มีเป้าหมายด้านการวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบธรรมชาติอื่นๆ เพื่อแปรรูปออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต่อไป
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 20 มีนาคม 2558
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ สูตรเซียนวิทย์ ชูสรรพคุณขนานแท้ เปิดตลาดคนรุ่นใหม่
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ แบรนด์ “Squared mush” เตรียมปรับบรรจุภัณฑ์และออกตลาดเร็วๆ นี้
“เห็ดถั่งเช่า” กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่คนรักและดูแลสุขภาพ ทำให้ในท้องตลาดมีสินค้าจากเห็ดยอดฮิตออกมาจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่มักเน้นชูสรรพคุณด้านเสริมศักยภาพทางเพศเป็นหลัก เพื่อกลุ่มผู้บริโภคเฉพาะเจาะจง ทว่า สำหรับแบรนด์ “Squared mush” เครื่องดื่มน้ำเห็ดถั่งเช่าโดยนักวิทยาศาสตร์ตัวจริงเสียงจริง ประกาศชัดเจนว่า ต้องการนำเสนอสรรพคุณที่แท้จริงของเห็ดถั่งเช่า ผ่านการแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ผู้รักสุขภาพได้ง่าย และทั่วถึงยิ่งขึ้น
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ สูตรเซียนวิทย์ ชูสรรพคุณขนานแท้ เปิดตลาดคนรุ่นใหม่
เอกพงศ์ ฉันทศิริเวทย์ ผู้บริหาร บริษัท ไบโอทรานส์ฟอร์เมติกส์ จำกัด
เอกพงศ์ ฉันทศิริเวทย์ ผู้บริหาร บริษัท ไบโอทรานส์ฟอร์เมติกส์ จำกัด เล่าว่า ส่วนตัวเรียนจบด้านวิทยาศาสตร์ จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาโดยตรง และที่ผ่านมาดำเนินธุรกิจออกแบบและผลิตเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์เพื่อใช้ในห้องแล็บ เช่น เครื่องเขย่าสาร (Shaker), ตู้ปลอดเชื้อ (Laminar Flow), ระบบ Bioreactor ในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช, ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ห้องแล็บ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานผลิตในประเทศทั้งสิ้น
จนเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้วบริษัทฯ ได้ต่อยอดธุรกิจ โดยได้ตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาในนาม บริษัท ไบโอเมดิซินอล อินดัสทรี จำกัด โดยในช่วงต้นเป็นผู้ผลิตเห็ดถั่งเช่าสีทอง จากนั้นจึงก้าวไปสู่การคิดค้นสูตรอาหารเสริมจากถั่งเช่า รับจ้างผลิตในรูปแบบ OEM จากพื้นฐานจึงเริ่มพัฒนาไปสู่การผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเอง โดยทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากเห็ดถั่งเช่าสีทอง แบรนด์ “คอร์ดี้ โกลด์” พยายามชูสรรพคุณที่แท้จริงของเห็ดถั่งเช่าสีทอง พร้อมผลิตและวิจัยโดยนักวิทยาศาสตร์มืออาชีพ และที่สำคัญไม่ได้เน้นการตลาดที่ชูเป็นสินค้าเสริมสมรรถภาพทางเพศแต่อย่างใด
“พวกเราเป็นนักวิทยาศาสตร์มืออาชีพ ส่วนใหญ่ทำงานกันแต่ในห้องแล็บ แต่การตลาดค่อนข้างอ่อน เท่าที่ผ่านมาเลยแค่รับจ้างผลิต จนมีความพร้อมทุกด้าน เราเลยเริ่มมาแปรรูปทำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากธรรมชาติด้วยตัวเอง ซึ่งในความเป็นจริง เราสามารถแปรรูปวัตถุดิบธรรมชาติได้หลายชนิด แต่ที่เลือก “เห็ดถั่งเช่าสีทอง” เพราะกำลังได้รับความนิยมจากตลาด ประกอบกับสรรพคุณของเห็ดถั่งเช่ามีผลงานวิจัยอย่างเป็นทางการรองรับคุณสมบัติอยู่จำนวนมาก” เอกพงศ์กล่าว และเสริมต่อว่า
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ สูตรเซียนวิทย์ ชูสรรพคุณขนานแท้ เปิดตลาดคนรุ่นใหม่
“อย่างไรก็ตาม ในท้องตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากเห็ดถั่งเช่ามักถูกนำเสนอเรื่องเป็นสินค้าเสริมสมรรถภาพทางเพศ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วคุณสมบัติเด่นของเห็ดถั่งเช่าคือ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันแบบองค์รวมต่อร่างกาย และช่วยให้ระบบการหมุนเวียนของโลหิตไหลเวียนได้ดี ซึ่งการเสริมสมรรถภาพทางเพศเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น”
“และอีกประเด็น ผู้ประกอบการบางรายจะใส่สารสกัดจากเห็ดถั่งเช่าเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น แล้วก็ไปโฆษณาว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากเห็ดถั่งเช่า ทั้งๆ ที่ปริมาณที่ใส่ดังกล่าว น้อยจนแทบจะไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนั้น แนวคิดในการผลิตสินค้าของเราคือ การมุ่งเน้นที่จะนำเสนอสรรพคุณของเห็ดถั่งเช่าที่แท้จริง ในด้านการช่วยเสริมภูมิคุ้มกันต่อร่างกาย และใส่ปริมาณเหมาะสม ในระดับ Active dose ที่มีผลช่วยบำรุงร่างกายได้จริงๆ” เจ้าของธุรกิจระบุ
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ สูตรเซียนวิทย์ ชูสรรพคุณขนานแท้ เปิดตลาดคนรุ่นใหม่
พัฒนาจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสกัดจากเห็ดถั่งเช่า
นอกจากนั้น หลังจากออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแล้ว เอกพงศ์เผยต่อว่า เตรียมจะต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็น ‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ เพื่อจะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้นและกว้างขึ้น โดยยังเน้นจุดขายให้เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย สูตรและการผลิตต่างๆ คิดค้นและพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์จริงๆ
เขาเสริมด้วยว่า น้ำเห็ดถั่งเช่าจะอยู่ภายใต้แบรนด์ “squared mush” โดยสูตรน้ำเห็ดถั่งเช่าที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วยส่วนผสมของเห็ดถั่งเช่าสีทอง ใบเตย และหญ้าหวาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาทำบรรจุภัณฑ์ใหม่ รวมถึงขอรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา (อย.) ส่วนช่องทางขาย มีแผนจะวางจำหน่ายตามร้านขายสินค้าเพื่อสุขภาพประมาณปลายปีนี้ (2558)
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ สูตรเซียนวิทย์ ชูสรรพคุณขนานแท้ เปิดตลาดคนรุ่นใหม่
“เดิมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสุขภาพเห็ดถั่งเช่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ อีกทั้งมีราคาค่อนข้างสูง ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ยาก ดังนั้นเราเลยได้แนวคิดปรับมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม รวมถึงสร้างแบรนด์ใหม่ให้มีสีสัน และใกล้ชิดผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เพื่อต้องการให้ผลิตภัณฑ์เห็ดถั่งเช่าขยายตลาดกว้างออกไปสู่บุคคลทั่วไปที่รักสุขภาพ ทุกเพศทุกวัยสามารถดื่มได้ง่าย และสม่ำเสมอ” นักวิทยาศาสตร์หนุ่มกล่าวเสริม
ด้านการผลิต บริษัทฯ มีความพร้อมทุกด้าน โดยใช้วิธีเพาะเลี้ยงเห็ดถั่งเช่าในระบบปิด มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด โดยมีปริมาณการเพาะเลี้ยงเห็ดถั่งเช่าแบบแห้งได้กว่า 10 กิโลกรัมต่อเดือน ซึ่งปริมาณดังกล่าวสามารถนำไปแปรรูปได้เหลือเฟือ
เมื่อถามถึงเงินลงทุนธุรกิจนี้ เอกพงศ์ระบุว่า เนื่องจากบริษัทฯ มีพื้นฐานความพร้อมอยู่แล้ว ทั้งด้านอุปกรณ์ สถานที่ ความรู้ และบุคลากร จึงใช้เงินทุนรวมแค่ประมาณล้านกว่าบาท ซึ่งถือว่าน้อยมากหากต้องเทียบกับผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ไม่มีพื้นฐานใดๆ เลยแต่อยากมาทำธุรกิจนี้
‘น้ำเห็ดถั่งเช่า’ สูตรเซียนวิทย์ ชูสรรพคุณขนานแท้ เปิดตลาดคนรุ่นใหม่
สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต ทางบริษัทฯ จะไม่หยุดแค่การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเห็ดถั่งเช่าเท่านั้น เพราะยังมีเห็ดสายพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะเห็ดไทยแท้ๆ อีกหลายชนิดที่มีสรรพคุณดีเยี่ยม แต่ยังไม่เป็นที่รู้จัก และยังไม่ถูกนำเสนอต่อคนทั่วไป ดังนั้นทางบริษัทฯ มีเป้าหมายด้านการวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบธรรมชาติอื่นๆ เพื่อแปรรูปออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต่อไป
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 20 มีนาคม 2558