“หม่อมอุ๋ย” เล็งใช้งบ 4 หมื่นล้านตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์
Posted: 24 Mar 2015, 10:32
“หม่อมอุ๋ย” เล็งใช้งบ 4 หมื่นล้านตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์
“หม่อมอุ๋ย” เผยใช้งบลงทุนเบื้องต้น3-4หมื่นล้านบาท สร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งชาติ รับเศรษฐกิจกิจิตอล หนุน อีจีเอ ตั้งคณะกรรมการทำงานขานรับการเติบโตอีคอมเมิร์ซ ตั้ง รมว.ไอซีที เป็นประธานคณะทำงานดาต้าเซ็นเตอร์แห่งชาติ
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่โรงแรมรามาการ์เดน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวในงานสัมมนา “ก้าวสู่ดิจิตอลกอฟเวอร์เม้นต์ ภายในนโยบายดิจิตอลอีโคโนมี” ว่า รัฐบาลได้กำหนดให้มีการส่งเสริมและวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิตอลอย่างจริงจังมติของคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือ ดีอี ที่มี พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวันที่18มี.ค.58ที่ผ่านมามีมติให้หน่วยงานราชการทั้งหมดยกเว้นกระทรวงการคลังและกระทรวงกลาโหมยุติการเบิกงบประมาณเพื่อจัดซื้อหรือจัดทำศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์หรือไอดีซีที่ต่างฝ่ายต่างทำเปลี่ยนมาเป็นการจัดตั้งศูนย์รวมไอซีดีทุกด้านของภาครัฐที่ทำงานอย่างต่อเนื่องเชื่อมต่อถึงกันได้24ชั่วโมง
อย่างไรก็ตามจากมติดังกล่าวรัฐบาลจะใช้วิธีเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลโดยคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนในช่วง1-2 ปีแรกประมาณ30,000-40,000 ล้านบาทที่มีหน่วยงานกลางรับผิดชอบกำหนดมาตรฐานการให้บริการมาตรฐานความปลอดภัยมาตรฐานการเชื่อมต่อข้อมูลเพื่อให้คุณภาพและราคาค่าบริการอยู่บนมาตรฐานเดียวกันมองว่าภาครัฐต้องเอาความต้องการใช้งานไปกระตุ้นให้เกิดการลงทุนของเอกชนซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์(องค์การมหาชน)หรืออีจีเอเป็นผู้ศึกษารายละเอียดร่วมกับผู้ให้บริการไอดีซีทั้งภาครัฐและเอกชนโดยคาดว่าศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์จะแล้วเสร็จและใช้งานได้จริงภายใน2ปี หรือปี2559ซึ่งภาครัฐจะให้การสนับสนุนการลงทุนอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)อาทิการลดค่าสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง
“เมื่อประเทศไทยมีบรอดแบนด์แห่งชาติและศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งชาติจะนำไปสู่การมีเนชันแนลเกตเวย์แห่งชาติทำให้ช่องเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างประเทศได้รับการจัดการที่เหมาะสมมีความเป็นเอกภาพโดยประเทศไทยต้องมีเกตเวย์รองรับความต้องการของประเทศไม่น้อยกว่า10 จุดเพื่อรองรับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์หรืออีคอมเมิร์ซที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างมหาศาล”ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว
ด้านดร.ศักดิ์ เสกขุนทดผู้อำนวยการ อีจีเอกล่าวว่า ได้จัดตั้งคณะทำงานด้านดาต้าเซ็นเตอร์แล้วจำนวน 15 คนโดยมี นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)เป็นประธาน และตนเองเป็นเลขานุการ และตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และตัวแทนจากหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งจะนำรายชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่ออนุมัติและส่งต่อไปยังกรรมการดีอีต่อไป หลังจากนั้นจะเริ่มขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลต่างๆจากภาครัฐ เพื่อนำมาศึกษาคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนจะเป็นรูปธรรมมากขึ้น
“สรอ.จะเข้าไปดูแลทั้งในส่วนของการศึกษาแพลตฟอร์มที่จะทำให้ข้อมูลที่อยู่ในไอดีซีใหม่ทั้งหมดเชื่อมโยงถึงกันสร้างมาตรฐานทั้งการเก็บและการเรียกใช้งานรวมถึงแผนการลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งภาคราชการไม่จำเป็นต้องสนใจว่าจะเข้ามาจัดซื้อจัดจ้างหรือจัดหาบุคลากรมาดูแล อีกทั้งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทัศนคติเดิมที่คิดว่าเมื่อป้อนข้อมูลของตนเองเข้าไปข้อมูลเหล่านั้นจะต้องเป็นทรัพย์สินของหน่วยงานตนเองเท่านั้น ต่อไปข้อมูลทั้งหมดจะเป็นของส่วนกลางและนำไปบูรณาการข้อมูลในภาพรวมทั้งหมด”ดร.ศักดิ์กล่าว
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 23 มีนาคม 2558
“หม่อมอุ๋ย” เผยใช้งบลงทุนเบื้องต้น3-4หมื่นล้านบาท สร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งชาติ รับเศรษฐกิจกิจิตอล หนุน อีจีเอ ตั้งคณะกรรมการทำงานขานรับการเติบโตอีคอมเมิร์ซ ตั้ง รมว.ไอซีที เป็นประธานคณะทำงานดาต้าเซ็นเตอร์แห่งชาติ
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่โรงแรมรามาการ์เดน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวในงานสัมมนา “ก้าวสู่ดิจิตอลกอฟเวอร์เม้นต์ ภายในนโยบายดิจิตอลอีโคโนมี” ว่า รัฐบาลได้กำหนดให้มีการส่งเสริมและวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิตอลอย่างจริงจังมติของคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือ ดีอี ที่มี พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวันที่18มี.ค.58ที่ผ่านมามีมติให้หน่วยงานราชการทั้งหมดยกเว้นกระทรวงการคลังและกระทรวงกลาโหมยุติการเบิกงบประมาณเพื่อจัดซื้อหรือจัดทำศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์หรือไอดีซีที่ต่างฝ่ายต่างทำเปลี่ยนมาเป็นการจัดตั้งศูนย์รวมไอซีดีทุกด้านของภาครัฐที่ทำงานอย่างต่อเนื่องเชื่อมต่อถึงกันได้24ชั่วโมง
อย่างไรก็ตามจากมติดังกล่าวรัฐบาลจะใช้วิธีเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลโดยคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนในช่วง1-2 ปีแรกประมาณ30,000-40,000 ล้านบาทที่มีหน่วยงานกลางรับผิดชอบกำหนดมาตรฐานการให้บริการมาตรฐานความปลอดภัยมาตรฐานการเชื่อมต่อข้อมูลเพื่อให้คุณภาพและราคาค่าบริการอยู่บนมาตรฐานเดียวกันมองว่าภาครัฐต้องเอาความต้องการใช้งานไปกระตุ้นให้เกิดการลงทุนของเอกชนซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์(องค์การมหาชน)หรืออีจีเอเป็นผู้ศึกษารายละเอียดร่วมกับผู้ให้บริการไอดีซีทั้งภาครัฐและเอกชนโดยคาดว่าศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์จะแล้วเสร็จและใช้งานได้จริงภายใน2ปี หรือปี2559ซึ่งภาครัฐจะให้การสนับสนุนการลงทุนอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)อาทิการลดค่าสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง
“เมื่อประเทศไทยมีบรอดแบนด์แห่งชาติและศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งชาติจะนำไปสู่การมีเนชันแนลเกตเวย์แห่งชาติทำให้ช่องเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างประเทศได้รับการจัดการที่เหมาะสมมีความเป็นเอกภาพโดยประเทศไทยต้องมีเกตเวย์รองรับความต้องการของประเทศไม่น้อยกว่า10 จุดเพื่อรองรับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์หรืออีคอมเมิร์ซที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างมหาศาล”ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าว
ด้านดร.ศักดิ์ เสกขุนทดผู้อำนวยการ อีจีเอกล่าวว่า ได้จัดตั้งคณะทำงานด้านดาต้าเซ็นเตอร์แล้วจำนวน 15 คนโดยมี นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)เป็นประธาน และตนเองเป็นเลขานุการ และตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และตัวแทนจากหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งจะนำรายชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่ออนุมัติและส่งต่อไปยังกรรมการดีอีต่อไป หลังจากนั้นจะเริ่มขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลต่างๆจากภาครัฐ เพื่อนำมาศึกษาคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนจะเป็นรูปธรรมมากขึ้น
“สรอ.จะเข้าไปดูแลทั้งในส่วนของการศึกษาแพลตฟอร์มที่จะทำให้ข้อมูลที่อยู่ในไอดีซีใหม่ทั้งหมดเชื่อมโยงถึงกันสร้างมาตรฐานทั้งการเก็บและการเรียกใช้งานรวมถึงแผนการลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งภาคราชการไม่จำเป็นต้องสนใจว่าจะเข้ามาจัดซื้อจัดจ้างหรือจัดหาบุคลากรมาดูแล อีกทั้งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทัศนคติเดิมที่คิดว่าเมื่อป้อนข้อมูลของตนเองเข้าไปข้อมูลเหล่านั้นจะต้องเป็นทรัพย์สินของหน่วยงานตนเองเท่านั้น ต่อไปข้อมูลทั้งหมดจะเป็นของส่วนกลางและนำไปบูรณาการข้อมูลในภาพรวมทั้งหมด”ดร.ศักดิ์กล่าว
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 23 มีนาคม 2558