เอกชนแห่ออกหุ้นกู้ 132 บริษัท

[brid.ladawan]

เอกชนแห่ออกหุ้นกู้ 132 บริษัท

สมาคมตราสารหนี้เผย2 เดือนแรก บริษัทเอกชนแห่ออกหุ้นกู้ 132 บริษัท รับต้นทุนต่ำ หลังดอกเบี้ยลดลง คาดทั้งปีมูลค่าแตะ 540,000 ล้านบาท

นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า ช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา มีบริษัทเอกชนออกหุ้นกู้ระยะสั้น และระยะยาว 132 บริษัท มูลค่ารวม 164,556 ล้านบาท โดยในด้านจำนวนบริษัทถือว่าสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี เพียง 87 บริษัท เนื่องจากดอกเบี้ยนโยบายลดลง ทำให้ต้นทุนการออกหุ้นกู้อยู่ใน ระดับต่ำ ดังนั้นบริษัทเอกชนจึงใช้โอกาสนี้ เร่งออกหุ้นกู้ เพื่อระดมทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสะท้อนภาคเอกชนเริ่มมีความเข้าใจถึงช่องทางการระดมทุนที่ต้นทุนคุ้มค่า มากกว่าการกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์

แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้บริษัทจะเพิ่มมากขึ้น แต่มูลค่าการระดมทุน ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าปีก่อน ที่ 287,570 ล้านบาท เพราะบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ยังมีมูลค่าการระดมทุนที่ไม่สูงมากนัก

“ในช่วงดอกเบี้ยอยู่ระดับต่ำ ถือเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ช่วยลดต้นทุนการออกหุ้นกู้ ซึ่งได้รับความสนใจจากบริษัทเอกชนค่อนข้างมาก โดยคาดว่า มูลค่าการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนปีนี้จะมีถึง 520,000-540,000 ล้านบาท ประกอบกับความต้องการซื้อตราสารหนี้ในตลาดมีเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 863,000 ล้านบาท แต่ความต้องการซื้อมีสูงกว่าถึง 400,000 ล้านบาท ดังนั้นสมาคมฯจึงพยายามส่งเสริมให้บริษัทเอกชนที่ยังไม่เคยออกหุ้นกู้มาเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น”

ระยะต่อไป สมาคมฯได้นำเสนอหุ้นกู้โครงสร้างพื้นฐาน (อินฟราบอนด์) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการระดมทุนขนาดใหญ่ เนื่องจากผู้ลงทุนจะรับความเสี่ยงในฐานะเจ้าหนี้ และมีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่ผู้ลงทุนจะต้องรับความเสี่ยงแบบเจ้าของ ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดความน่าสนใจจากนักลงทุนได้ค่อนข้างมาก

นอกจากนี้สมาคมฯ มีแผนพัฒนาตลาดตราสารหนี้ ได้แก่ การผลักดันบริษัทเอกชนให้ออกตราสารหนี้เพื่อระดมทุนเพิ่มมากขึ้น , ขยายกลุ่มผู้ลงทุนในตลาด ทั้งรายใหญ่และรายย่อย , สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดตราสารหนี้ โดยจัดสัมมนาอบรมให้ความรู้ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ปรับปรุงด้านภาษี และระบบการซื้อขายให้คล่องตัวมากขึ้น





ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 24 มีนาคม 2558