โรดโชว์ข้าวหอมมะลิไทยไปทั่วโลก

[brid.ladawan]

โรดโชว์ข้าวหอมมะลิไทยไปทั่วโลก

กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าจัดกิจกรรมโรดโชว์ข้าวหอมมะลิไทย ไปทั่วโลก เน้นเชิญดารา-เชฟดังช่วยโปรโมท กระตุ้นการบริโภค

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมฯร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) หรือฑูตพาณิชย์ผลักดันสินค้าและบริการที่มีศักยภาพใน โครงการโปรดักส์ แชมป์เปี้ยน ซึ่งมีเป้าหมายให้สินค้าและบริการเป็นที่ต้องการในตลาดโลกมากขึ้น โดยปีนี้วางแผนประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิ และอาหารไทยในต่างประเทศทั่วโลกเพื่อให้ข้าวหอมฯไทยเป็นรู้จักมากขึ้น

สำหรับในภูมิภาคอเมริกานั้น ทูตพาณิชย์จะโปรโมทที่ลอสแองเจลิส ,ไมอามี่, นิวยอร์ก โดยจะมีการร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าและเชิญเชฟที่มีชื่อเสียงในสหรัฐร่วมทำอาหารไทย หรือจัดงานทดลองชิมอาหารระหว่างเดือนมี.ค. – ก.ย. 58, ส่วนที่สหภาพยุโรป จะเน้นที่เมืองมิลานระหว่างวันที่3 - 6พ.ค.58, เมืองแฟรงเฟิร์ต ระหว่างวันที่10 - 14ต.ค.58เป็นต้น

ขณะที่ประเทศจีน จะจัดกิจกรรมโปรโมทที่เมืองกวางโจว และ เมืองคุนหมิง โดยจะจัด ทดลองชิมที่ห้างโลตัส และห้างคาร์ฟูร์ พร้อมทั้งเชิญดาราชื่อดังของไทยมาโชว์ทำอาหารจากเมนูข้าว แถมด้วยการจัดงานพบปะกับแฟนคลับชาวจีน และเชิญร่วมรับประทานอาหารไทย ณ ร้านอาหารไทยซีเล็คท์ด้วย

ส่วนภูมิภาคอาเซียน อยู่ระหว่างการประสานงานกับฑูตพาณิชย์ในประเทศต่างๆ จัดโครงการสร้างภาพลักษณ์”ข้าวไทย”ในร้านอาหารไทยที่ได้สัญลักษณ์ ไทย ซีเล็คท์ พรีเมี่ยม นอกจากนี้ยังให้มีการประชาสัมพันธ์ข้าวไทยผ่านเว็บไซต์ไทยซีเล็คท์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ข้าวหอมมะลิไทยไปทั่วโลก

สำหรับสินค้าข้าว ในการประชาสัมพันธ์ข้าวจะครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์จากข้าว เช่น น้ำมันรำข้าว เส้นหมี่ทำจากข้าว และขนมขบเคี้ยวทำจากข้าว โดยในไตรมาสแรกได้ดำเนินการไปแล้ว ทั้งฮ่องกง ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย อาเซียน รวมถึงประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศ สินค้าและบริการเป้าหมายที่มีศักยภาพของไทยในต่างประเทศ

ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวเน้นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมการค้าต่างประเทศ พร้อมกับการมอบสื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อรณรงค์ และพร้อมปรับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดสินค้าอาหาร เพื่อบูรณาการการใช้สื่อร่วมไปในแนวทางเดียวกัน



ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 24 มีนาคม 2558