Page 1 of 1

กสิกรฯแนะลูกค้าเสริมภูมิคุ้มกัน

Posted: 26 Mar 2015, 15:39
by brid.ladawan
กสิกรฯแนะลูกค้าเสริมภูมิคุ้มกัน

แบงก์กสิกรไทยหนุนลูกค้าหาพันธมิตรธุรกิจลดต้นทุนบริหารจัดการ มั่นใจผู้ประกอบการไทยแกร่ง ความสามารถชำระดอกเบี้ยสูงถึง 20 เท่า

นายจงรัก รัตนเพียร รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการธุรกิจรายใหญ่ของไทย ได้เสริมวันพุธ 25 มีนาคม 2558 เวลา 17:13 น.
ความแข็งแกร่งทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ผ่านการมีวินัยทางการเงินและความสามารถในการจัดการธุรกิจและบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นได้จากอัตราการเติบโตของยอดขายและหนี้สินที่สอดคล้องกันอยู่ที่ประมาณ 11% ขณะที่การบริหารต้นทุนปรับวันพุธ 25 มีนาคม 2558 เวลา 17:13 น.
ตัวดีขึ้น จากการเติบโตของกำไรสุทธิ 15 % สูงกว่ายอดขายที่ 11% รวมทั้งมีแนวโน้มของภาระหนี้สินที่ลดลง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงจาก 3.2 เท่าเป็น 2.9 เท่า จึงทำให้มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยสูงกว่า 20 เท่า ชี้ให้เห็นศักยภาพทางการเงินที่จะต้านทานความผันผวนทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี



“ธุรกิจขนาดใหญ่ของประเทศไทยแข็งแกร่งมาก มีความสามารถชำระดอกเบี้ยสูงกว่า 20 เท่า ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก เพราะตามปกติความสามารถในการชำระดอกเบี้ยสูงแค่ 4-5 เท่าก็เพียงพอแล้ว”ทั้งนี้จากสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมของโลกยังมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหลัก ประกอบกับสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักในตลาดโลกที่ยังไม่ชัดเจน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ และยังส่งผลให้ยอดขายและกำไรสุทธิของผู้ประกอบการายใหญ่ของประเทศไทย ปรับลดลง 1-2 %

อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้ยอดขายลดลง ผู้ประกอบการต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือผลิตสินค้าที่แตกต่างกับคู่แข่งขัน ซึ่งจะทำให้ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น นายจงรัก กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ธุรกิจจะเติบโตไปได้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจผันผวน จำเป็นที่จะต้องรวมกลุ่มเป็นพันธมิตรในเครือข่ายอุตสาหกรรมหรือห่วงโซ่ธุรกิจ ซึ่ง จะช่วยลดค่าใช้จ่าย และเวลาในการบริหารจัดการที่จะส่งผลโดยตรงต่อต้นทุน ซึ่งการรวมกลุ่มพันธมิตรยังสามารถสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่เป็นต้นน้ำของอุตสาหกรรมหลัก ซึ่งมีความแข็งแกร่งทางธุรกิจมากที่สุดได้มีการเปิดตลาดในประชาคมเศรษฐกิจอา เซียน หรือเออีซีบ้างแล้ว โดยเห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าโครงการการลงทุนในต่างประเทศจาก 800,000 ล้านบาทเป็นกว่า 1 ล้านล้านบาท


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 25 มีนาคม 2558