กรมทรัพย์สินฯ จับมือเซ็นทรัล จัด GI Market ดันสินค้าจีไอขึ้น
Posted: 26 Mar 2015, 17:19
กรมทรัพย์สินฯ จับมือเซ็นทรัล จัด GI Market ดันสินค้าจีไอขึ้นห้างขายผู้บริโภค
กรมทรัพย์สินฯ จับมือเซ็นทรัล จัด GI Market ดันสินค้าจีไอขึ้นห้างขายผู้บริโภค
กรมทรัพย์สินทางปัญญาจับมือเซ็นทรัล ดันสินค้าจีไอขึ้นห้าง ขนสินค้าดีจากทั่วไทย 60 รายการขายตรงให้ผู้บริโภค พร้อมเดินหน้าดัน 1 จังหวัด 1 สินค้า GI ตั้งเป้าปีนี้เพิ่มอีก 9 จังหวัด ส่วนต่างประเทศยื่นจดแล้ว 5 สินค้า ลุ้นกาแฟดอยช้าง ดอยตุง ได้รับจดเพิ่มภายในปีนี้ ตามหลังข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเปิดงาน GI Market 2015 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ วันนี้ (26 มี.ค.) ว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ร่วมมือกับห้างเซ็นทรัลจัดงานดังกล่าวขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการสินค้า GI ให้มีโอกาสในการเข้ามาทำตลาดในโมเดิร์นเทรด และยังเป็นการสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการสร้างโอกาสและเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ให้มีโอกาสในการยกระดับสินค้าและสร้างโอกาสทางธุรกิจ
“กระทรวงฯ มีนโยบายที่จะสนับสนุนสินค้า GI ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น โดยการหาช่องทางการทำตลาดให้แก่ผู้ผลิตสินค้า GI รวมทั้งจะเร่งผลักดันให้ทุกจังหวัดของไทยมีสินค้า GI อย่างน้อย 1 จังหวัดต่อ 1 สินค้า GI เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับแต่ละจังหวัด โดยในปี 2558 มีแผนผลักดันให้อีก 9 จังหวัดมีสินค้า GI จากล่าสุดมีจังหวัดที่มีสินค้า GI แล้ว 51 จังหวัด ขาดอีก 26 จังหวัด”
สำหรับสินค้า GI อีก 9 จังหวัดที่จะผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียน ได้แก่ มะพร้าวน้ำหอมราชบุรี สับปะรดสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี นิลเมืองกาญจน์ จังหวัดกาญจนบุรี แห้วสุพรรณ จังหวัดสุพรรณบุรี กะปิเกาะช้าง งอบน้ำเชี่ยว และสับปะรดตราดสีทอง จังหวัดตราด กล้วยตากสังคม และสับปะรดศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ผ้าหม้อห้อมแพร่ ผ้าจกเมืองลอง และข้าวคำหอมแพร่ จังหวัดแพร่ ข้าวไร่ลืมผัวตาก และกาแฟดอยมูเซอ จังหวัดตาก จำปาดะสตูล จังหวัดสตูล และหอยชักตีนกระบี่ กะปิแหลมสัก กะปิเกาะลันตา จังหวัดกระบี่
น.ส.ชุติมากล่าวว่า ไทยยังได้มีการผลักดันให้มีการจดทะเบียนสินค้า GI ในต่างประเทศ โดยได้มีการยื่นจดทะเบียนไปแล้ว 5 สินค้า โดยยื่นจดที่สหภาพยุโรป 4 สินค้า ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง และข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง และอีกที่มา
ที่มา 1 สินค้า คือ เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ยื่นจดที่ประเทศเวียดนาม โดยข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ได้รับจดทะเบียนแล้ว กาแฟดอยช้างและกาแฟดอยตุงอยู่ระหว่างประกาศโฆษณาเพื่อรอจดทะเบียนอย่างเป็นทางการ คาดว่าน่าจะมีข่าวดีภายในปีนี้ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอ ส่วนเส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสานที่ยื่นจดที่ประเทศเวียดนามได้รับการจดทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“การที่สินค้า GI ของไทยได้รับการจดทะเบียนในสหภาพยุโรป ถือว่าสินค้าได้รับการยอมรับว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะ โดดเด่น แตกต่างจากสินค้าประเภทเดียวกันจากแหล่งผลิตอื่นๆ ในโลก ตามมาตรฐานที่สหภาพยุโรปตั้งเอาไว้ และยิ่งไปกว่านั้นชื่อของสินค้าที่ได้รับการจดทะเบียนจะได้รับการปกป้องคุ้มครองทั้งสหภาพยุโรปตามกฎหมาย อันจะทำให้สินค้าจากนอกพื้นที่การจดทะเบียนจะไม่สามารถใช้ชื่อเดียวกันได้” น.ส.ชุติมากล่าว
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 26 มีนาคม 2558
กรมทรัพย์สินฯ จับมือเซ็นทรัล จัด GI Market ดันสินค้าจีไอขึ้นห้างขายผู้บริโภค
กรมทรัพย์สินทางปัญญาจับมือเซ็นทรัล ดันสินค้าจีไอขึ้นห้าง ขนสินค้าดีจากทั่วไทย 60 รายการขายตรงให้ผู้บริโภค พร้อมเดินหน้าดัน 1 จังหวัด 1 สินค้า GI ตั้งเป้าปีนี้เพิ่มอีก 9 จังหวัด ส่วนต่างประเทศยื่นจดแล้ว 5 สินค้า ลุ้นกาแฟดอยช้าง ดอยตุง ได้รับจดเพิ่มภายในปีนี้ ตามหลังข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเปิดงาน GI Market 2015 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ วันนี้ (26 มี.ค.) ว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ร่วมมือกับห้างเซ็นทรัลจัดงานดังกล่าวขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการสินค้า GI ให้มีโอกาสในการเข้ามาทำตลาดในโมเดิร์นเทรด และยังเป็นการสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการสร้างโอกาสและเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ให้มีโอกาสในการยกระดับสินค้าและสร้างโอกาสทางธุรกิจ
“กระทรวงฯ มีนโยบายที่จะสนับสนุนสินค้า GI ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น โดยการหาช่องทางการทำตลาดให้แก่ผู้ผลิตสินค้า GI รวมทั้งจะเร่งผลักดันให้ทุกจังหวัดของไทยมีสินค้า GI อย่างน้อย 1 จังหวัดต่อ 1 สินค้า GI เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับแต่ละจังหวัด โดยในปี 2558 มีแผนผลักดันให้อีก 9 จังหวัดมีสินค้า GI จากล่าสุดมีจังหวัดที่มีสินค้า GI แล้ว 51 จังหวัด ขาดอีก 26 จังหวัด”
สำหรับสินค้า GI อีก 9 จังหวัดที่จะผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียน ได้แก่ มะพร้าวน้ำหอมราชบุรี สับปะรดสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี นิลเมืองกาญจน์ จังหวัดกาญจนบุรี แห้วสุพรรณ จังหวัดสุพรรณบุรี กะปิเกาะช้าง งอบน้ำเชี่ยว และสับปะรดตราดสีทอง จังหวัดตราด กล้วยตากสังคม และสับปะรดศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ผ้าหม้อห้อมแพร่ ผ้าจกเมืองลอง และข้าวคำหอมแพร่ จังหวัดแพร่ ข้าวไร่ลืมผัวตาก และกาแฟดอยมูเซอ จังหวัดตาก จำปาดะสตูล จังหวัดสตูล และหอยชักตีนกระบี่ กะปิแหลมสัก กะปิเกาะลันตา จังหวัดกระบี่
น.ส.ชุติมากล่าวว่า ไทยยังได้มีการผลักดันให้มีการจดทะเบียนสินค้า GI ในต่างประเทศ โดยได้มีการยื่นจดทะเบียนไปแล้ว 5 สินค้า โดยยื่นจดที่สหภาพยุโรป 4 สินค้า ได้แก่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง และข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง และอีกที่มา
ที่มา 1 สินค้า คือ เส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน ยื่นจดที่ประเทศเวียดนาม โดยข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ได้รับจดทะเบียนแล้ว กาแฟดอยช้างและกาแฟดอยตุงอยู่ระหว่างประกาศโฆษณาเพื่อรอจดทะเบียนอย่างเป็นทางการ คาดว่าน่าจะมีข่าวดีภายในปีนี้ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอ ส่วนเส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสานที่ยื่นจดที่ประเทศเวียดนามได้รับการจดทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“การที่สินค้า GI ของไทยได้รับการจดทะเบียนในสหภาพยุโรป ถือว่าสินค้าได้รับการยอมรับว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะ โดดเด่น แตกต่างจากสินค้าประเภทเดียวกันจากแหล่งผลิตอื่นๆ ในโลก ตามมาตรฐานที่สหภาพยุโรปตั้งเอาไว้ และยิ่งไปกว่านั้นชื่อของสินค้าที่ได้รับการจดทะเบียนจะได้รับการปกป้องคุ้มครองทั้งสหภาพยุโรปตามกฎหมาย อันจะทำให้สินค้าจากนอกพื้นที่การจดทะเบียนจะไม่สามารถใช้ชื่อเดียวกันได้” น.ส.ชุติมากล่าว
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 26 มีนาคม 2558