เอกชนนำทีมพาเอสเอ็มอีไทยขนสินค้ารุกตลาดฮ่องกง

[brid.ladawan]

เอกชนนำทีมพาเอสเอ็มอีไทยขนสินค้ารุกตลาดฮ่องกง


"ล็อกซเล่ย์" จับมือ "แวนการ์ดซุปเปอร์มาร์เก็ต" นำสินค้าเอสเอ็มอีไทยรุกตลาดฮ่องกง ประเดิมนำเอสเอ็มอีไทยเข้าร่วมประมาณ 100 ราย สินค้า 200 รายการ...

นายสุรพันธ์ ภาษิตนิรันดร์ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยบุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง เพื่อส่งเสริมสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการสนับสนุนเอสเอ็มอี และการส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยของรัฐบาล ล่าสุด บริษัทฯ ร่วมกับแวนการ์ดซุปเปอร์มาร์เก็ต จัดงานเปิดตัวมุมสินค้าไทย “Thai Corner” ที่แวนการ์ดซุปเปอร์มาร์เก็ต ในแหล่งที่อยู่อาศัยหลักจำนวน 4 แห่ง ในฮ่องกง เพื่อเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าไทย โดยได้รับเกียรติจาก นายอรุณ จิวาศักดิ์อภิมาศ กงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ แวนการ์ดซุปเปอร์มาร์เก็ต อยู่ภายใต้บริษัท ซีอาร์วี หรือ ไชน่า รีซอสเซส แวนการ์ด ซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายซุปเปอร์มาร์เก็ตแวนการ์ดคอนวีเนียนสโตร์ แวนโก และดีพาร์ทเมนต์สโตร์โอเล่ ที่มีจุดจำหน่ายสินค้าในฮ่องกงและสาธารณรัฐประชาชนจีน เกือบ 4,000 สาขา โดยในเฟสแรกจะมีเอสเอ็มอีไทยเข้าร่วมโครงการประมาณ 80-100 ราย สามารถรองรับสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในไทยคอร์เนอร์ได้มากกว่า 200 รายการ เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. 58 ถึงสิ้นเดือน ก.ย. 58 โดยเน้นสินค้าในกลุ่มอาหารพร้อมทาน ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มสมุนไพร ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ฯลฯ คาดว่าจะมีมูลค่าการส่งออกไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท และในอนาคตบริษัทฯ มีโครงการที่จะต่อยอด เพื่อขยายเข้าไปในเครือข่ายของซีอาร์วีในประเทศจีนอีกด้วย

นายสุรพันธ์ กล่าวต่อว่า การดำเนินโครงการ “Thai Corner” ในครั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่เข้ามามีส่วนช่วยให้ได้มีโอกาสนำสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ที่ยังไม่เคยทำตลาดในต่างประเทศ ได้มีโอกาสส่งออกสินค้าและเข้าไปขายในแวนการ์ดซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นเครือซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่มุ่งเจาะตลาดในถิ่นที่อยู่อาศัยของคนฮ่องกงเป็นหลัก ซึ่งบริษัทฯ ในฐานะเป็นผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศ จะดำเนินโครงการในโมเดลเช่นนี้กับประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพในภูมิภาคอาเซียนต่อไปด้วย.


ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 28 มี.ค. 2558