Page 1 of 1

สั่งขึ้นทะเบียนรายได้ทุกอาชีพ

Posted: 30 Mar 2015, 19:08
by brid.ladawan
สั่งขึ้นทะเบียนรายได้ทุกอาชีพ

“บิ๊กตู่” สั่งเกษตรฯ ร่วมคลัง-มหาดไทย ขึ้นทะเบียนรายได้ทุกอาชีพ ทำข้อมูลก่อนฉีดมาตรการรัฐให้ตรงกลุ่ม หลังพบชาวบ้านร้องมาตรการรัฐช่วยไม่ถึง

นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับกระทรวงการคลัง และมหาดไทย เร่งขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้ทุกสาขาอาชีพโดยเน้นเรื่องรายได้ ทรัพย์สิน และที่อยู่ เพื่อต้องการให้ทราบข้อมูลว่า ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐอยู่ที่ไหนและเป็นใครบ้าง เพราะทุกครั้งที่รัฐบาลดำเนินมาตรการช่วยเหลือ จะมีเสียงสะท้อนกลับมาว่า ความช่วยเหลือไปไม่ถึงชาวบ้าน ขณะที่การขึ้นทะเบียนครั้งนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของการเก็บภาษีแต่อย่างใด

“เหตุผลของการจดทะเบียนผู้มีรายได้ครั้งนี้ จะต้องรู้ให้ชัดเจนเป็นรายชื่อว่าในตำบล ในหมู่บ้านมีใครที่เดือดร้อนเข้าข่ายจะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบ้าง เพื่อให้มาตรการที่รัฐจะให้ความช่วยเหลือในอนาคตไปถึงตัวบุคคลที่ถูกต้อง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเกษตรกร แต่จะจดทะเบียนผู้มีรายได้ทั้งหมด ทั้งพ่อค้า แม่ค้า ผู้ใช้แรงงาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะมาหารือกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการจดทะเบียนอย่างไร ซึ่งต้องรีบทำให้เสร็จก่อนสิ้นปีงบประมาณ 58 หรือภายในเดือนก.ย.นี้ เพราะเมื่อพ้นฤดูกาลเพาะปลูก หรือพ้นฤดูกาลกรีดยาง หากจะมีมาตรการไปช่วยเหลือเกษตรกร หรือบุคคลที่ไม่ใช่เกษตรกรก็ตาม จะต้องมีความชัดเจนไม่รั่วไหล”

ทั้งนี้ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจยังได้เห็นชอบแนวทางการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์หรือโรดแมปของกระทรวงเกษตรฯใน 10 โครงการวงเงิน 35,000 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปีตั้งแต่ปี 58-62 แบ่งเป็นเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงิน 20,000 ล้านบาท ที่เหลือ 15,000 ล้านบาท เป็นงบประมาณจ่ายขาดของรัฐบาล โดยปี 58 จะต้องใช้งบกลางเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นวงเงิน 1,800 ล้านบาท เพื่อเริ่มโครงการต่างๆตามแผนที่กำหนดไว้ซึ่งเป็นโครงการกลางปี ไม่ได้บรรจุโครงการไว้ในงบประมาณปี 58

นอกจากนี้ในช่วงประมาณกลางเดือนเม.ย.นี้ รัฐบาลจะออกนโยบายใหม่ทั้งหมดเรื่องยาง ตอนนี้นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์อยู่ระหว่างสำรวจข้อมูล โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับแก้ปัญหายางพาราคือการลดอุปทานหรือซัพพลาย เพราะ10ปีที่ผ่านมามีอุปทานส่วนเกินมาก เพราะราคายางสูง มีการทำสวนยางในเขตป่า ที่หวงห้ามจำนวนมากประมาณ 1-2 ล้านไร่ จะต้องไปดูว่าจะดำเนินการปรับอย่างไรเพื่อลดพื้นที่ลงเพราะมีเรื่องข้อกฎหมายด้วย


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 30 มีนาคม 2558