รมว.คลังแจงเศรษฐกิจไทยเลิกกระตุ้นบริโภค
Posted: 30 Mar 2015, 19:09
รมว.คลังแจงเศรษฐกิจไทยเลิกกระตุ้นบริโภค
“สมหมาย” แจงเศรษฐกิจของไทยไม่สามารถกระตุ้นด้วยบริโภคได้อีก หลังหนี้ครัวเรือนพุ่งทะยานสูงที่สุดในโลกถึง 80% เล็งเน้นมาตรการให้เกิดการจ้างงาน เพื่อประชาชนชนมีงานทำ
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของไทยไม่สามารถกระตุ้นด้วยบริโภคได้อีกแล้ว เนื่องจากหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงที่สุดในโลกถึง 80% มากที่สุดในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา จากนโยบายโครงการประชานิยมของรัฐบาลก่อน ส่งผลกระทบต่อภาระหนี้ให้กับประชาชนเพิ่มขึ้น ซึ่งหากกระตุ้นด้วยการบริโภคอีก ก็จะเป็นการเพิ่มหนี้ครัวเรือนให้สูงขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ไวันจันทร์ 30 มีนาคม 2558 เวลา 15:28 น.
ม่ถูกต้อง โดยหลังจากนี้รัฐบาลจะเน้นมาตรการให้เกิดการจ้างงาน เพื่อประชาชนชนมีงานทำ ซึ่งช่วยให้เกิดการอดออมและนำไปใช้หนี้ และบางส่วนก็นำเอามาบริโภคในชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ขณะนี้ ภาวะเศรษฐกิจทดถอยรุนแรงเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่ประเทศไทยเพียงแห่งเดียว ซึ่งการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไทยนั้น รัฐบาลต้องเร่งการใช้จ่ายภาครัฐ เร่งการลงทุนให้เกิดขึ้นเร็ว ทั้งในส่วนของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และส่วนของท้องถิ่น เพื่อให้เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน เนื่องจากการส่งออกของไทยไม่สามรถพึ่งพาได้เหมือนอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีปัญหา ทำให้ผู้ประกอบการส่งออกและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เกี่ยวข้องมีรายได้น้อยลง และมีการเลิกจ้างแรงงาน เพื่อลดการใช้จ่าย ส่งผลให้แรงงานขาดรายได้เป็นปัญหาเพิ่มขึ้น
“ขณะนี้ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยต้องเลิกกระตุ้นการบริโภค แต่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนในระยะยาว เพื่อให้เกิดการจ้างงาน รวมทั้ง ต้องดูแลการส่งออก ซึ่งเรื่องดังกล่าวในการแก้ไขต้องใช้เวลา ไม่สามารถแก้ให้ได้ผลภายใน 3-6 เดือน”
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ด้วยการเร่งการใช้จ่ายภาครัฐ จะต้องเก็บภาษีเพิ่มขึ้น เพราะรายได้จากภาษีของไทยปัจจุบันอยู่ที่ 18% ของจีดีพี เมื่อรวมรายได้ของรัฐวิสาหกิจอยู่ที่ 20% เทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วมีรายได้จากการเก็บภาษีถึง 40% ซึ่งการเก็บภาษีของไทยอย่างน้อยกว่ามาก ทำให้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจทำได้ช้า รวมทั้ง การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและไทยจะขยายตัวได้ลดลง จากเดิมที่เศรษฐกิจไทยเคยขยายตัวได้ 5-7% ต่อปี จะขยายตัวได้ 2-4% ต่อปีเท่านั้น จะมีเพียงประเทศที่เศรษฐกิจเล็ก ๆ อย่าง ลาว เขมร และพม่า เท่านั้นที่จะขยายตัวได้ 7% ต่อปี แม้แต่ประเทศจีนที่เคยขยายตัวได้ 9% ต่อปี ต่อไปการขยายตัวให้ได้ 7% ต่อปีก็เป็นเรื่องยาก
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 30 มีนาคม 2558
“สมหมาย” แจงเศรษฐกิจของไทยไม่สามารถกระตุ้นด้วยบริโภคได้อีก หลังหนี้ครัวเรือนพุ่งทะยานสูงที่สุดในโลกถึง 80% เล็งเน้นมาตรการให้เกิดการจ้างงาน เพื่อประชาชนชนมีงานทำ
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของไทยไม่สามารถกระตุ้นด้วยบริโภคได้อีกแล้ว เนื่องจากหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงที่สุดในโลกถึง 80% มากที่สุดในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา จากนโยบายโครงการประชานิยมของรัฐบาลก่อน ส่งผลกระทบต่อภาระหนี้ให้กับประชาชนเพิ่มขึ้น ซึ่งหากกระตุ้นด้วยการบริโภคอีก ก็จะเป็นการเพิ่มหนี้ครัวเรือนให้สูงขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ไวันจันทร์ 30 มีนาคม 2558 เวลา 15:28 น.
ม่ถูกต้อง โดยหลังจากนี้รัฐบาลจะเน้นมาตรการให้เกิดการจ้างงาน เพื่อประชาชนชนมีงานทำ ซึ่งช่วยให้เกิดการอดออมและนำไปใช้หนี้ และบางส่วนก็นำเอามาบริโภคในชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ขณะนี้ ภาวะเศรษฐกิจทดถอยรุนแรงเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่ประเทศไทยเพียงแห่งเดียว ซึ่งการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไทยนั้น รัฐบาลต้องเร่งการใช้จ่ายภาครัฐ เร่งการลงทุนให้เกิดขึ้นเร็ว ทั้งในส่วนของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และส่วนของท้องถิ่น เพื่อให้เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน เนื่องจากการส่งออกของไทยไม่สามรถพึ่งพาได้เหมือนอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีปัญหา ทำให้ผู้ประกอบการส่งออกและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เกี่ยวข้องมีรายได้น้อยลง และมีการเลิกจ้างแรงงาน เพื่อลดการใช้จ่าย ส่งผลให้แรงงานขาดรายได้เป็นปัญหาเพิ่มขึ้น
“ขณะนี้ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยต้องเลิกกระตุ้นการบริโภค แต่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนในระยะยาว เพื่อให้เกิดการจ้างงาน รวมทั้ง ต้องดูแลการส่งออก ซึ่งเรื่องดังกล่าวในการแก้ไขต้องใช้เวลา ไม่สามารถแก้ให้ได้ผลภายใน 3-6 เดือน”
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ด้วยการเร่งการใช้จ่ายภาครัฐ จะต้องเก็บภาษีเพิ่มขึ้น เพราะรายได้จากภาษีของไทยปัจจุบันอยู่ที่ 18% ของจีดีพี เมื่อรวมรายได้ของรัฐวิสาหกิจอยู่ที่ 20% เทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วมีรายได้จากการเก็บภาษีถึง 40% ซึ่งการเก็บภาษีของไทยอย่างน้อยกว่ามาก ทำให้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจทำได้ช้า รวมทั้ง การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและไทยจะขยายตัวได้ลดลง จากเดิมที่เศรษฐกิจไทยเคยขยายตัวได้ 5-7% ต่อปี จะขยายตัวได้ 2-4% ต่อปีเท่านั้น จะมีเพียงประเทศที่เศรษฐกิจเล็ก ๆ อย่าง ลาว เขมร และพม่า เท่านั้นที่จะขยายตัวได้ 7% ต่อปี แม้แต่ประเทศจีนที่เคยขยายตัวได้ 9% ต่อปี ต่อไปการขยายตัวให้ได้ 7% ต่อปีก็เป็นเรื่องยาก
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 30 มีนาคม 2558