เทคโนโลยี AR กับการตลาดออนไลน์

[brid.ladawan]

เทคโนโลยี AR กับการตลาดออนไลน์

การทำตลาดในไทยต้องหันมามองและให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนให้มากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำแอพพลิเคชั่น หรือการนำเทคโนโลยี AR มาใช้

แม้เทคโนโลยี AR หรือ Augmented Reality เทคโนโลยีที่เหมือนเป็นโลกเสมือนจะไม่ใช่ของใหม่ แต่วันนี้ที่การเติบโตของจำนวนผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในไทยเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ทำให้เทคโนโลยี AR กลายเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มสีสันให้การทำตลาดออนไลน์ได้ไม่น้อย

นายอรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท อะแด็ปเตอร์ ดิจิตอล จำกัด ผู้สร้างสรรค์ผลงานโฆษณาสื่อดิจิตอลให้กับแบรนด์ใหญ่ ๆ กว่า 20 แบรนด์ในไทยให้สัมภาษณ์ว่า เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) หรือเทคโนโลยีที่เหมือนเป็นโลกเสมือน ถูกนำมาใช้ในการทำตลาดออนไลน์ระดับโลกราว 3-4 ปีแล้ว แต่สำหรับประเทศไทยเริ่ม มีนักการตลาดนำเข้ามาใช้เพื่อทำการตลาดออนไลน์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเทคโนโลยี AR ในการนำมาใช้ด้านการตลาด ความยากอยู่ที่การทำให้ผู้บริโภคสนุกกับการใช้งาน และทำให้เรื่องเทคโนโลยีเป็นเรื่องง่าย

ซึ่งล่าสุด ได้นำเทคโนโลยี AR มา ผสมผสานรูปแบบการใช้งานเข้ากับเกมและ โซเชียลมีเดีย เพื่อดึงกลุ่มผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนให้มาร่วมกิจกรรมทางการตลาด

นายอรรถวุฒิ กล่าวว่า ปีนี้การทำตลาดดิจิตอลในสินค้าต่าง ๆ จะมุ่งการสื่อสารไปสู่กลุ่มเป้าหมายผ่านสมาร์ทโฟนมากขึ้น เนื่องจากผลการสำรวจการใช้งานสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตในประเทศ ไทย ของ Global Web Index Market Report ไตรมาส 3 ปี 2014 ระบุว่า ปัจจุบันคนไทยใช้งานสมาร์ทโฟน 86% ใช้โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 74% และมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือเฉลี่ย 4 ชั่วโมง/วัน ดังนั้นปีนี้ การทำตลาดออนไลน์จึงต้องโฟกัสไปที่สมาร์ทโฟนเป็นหลัก

“พฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนของคนไทยส่วนใหญ่ใช้เพื่อ เล่นเกมกับใช้งานโซเชียลมีเดีย ดังนั้น การทำตลาดออนไลน์จึง ต้องพยายามดึงเรื่องของเกมและโซเชียลมีเดียเข้ามาเกี่ยวข้อง ล่าสุด ได้นำเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) หรือเทคโนโลยีที่เหมือนเป็นโลกเสมือนเข้ามาผสมผสานกับการใช้งานโทรศัพท์มือถือ เพราะเมื่อสแกนบางสิ่งบางอย่างผ่านแอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งในโทรศัพท์มือถือ จะปรากฏเป็นเรื่องราวหรือภาพต่าง ๆ ที่เราสร้าง ขึ้น โดยแคมเปญที่ทำ อยู่ตอนนี้คือ แคมเปญน้ำชาเขียวยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งทำแอพพลิเคชั่นให้ดาวน์โหลดแล้วติดตั้งในมือถือ จากนั้นเปิดแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนสแกนฝาของน้ำชายี่ห้อดังกล่าว สิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอสมาร์ทโฟนคือรถวิ่งออกมาจากฝา ซึ่งให้ผู้บริโภคแคปเจอร์หน้าจอนั้นแล้วแชร์ขึ้นช่องทางโซเชียลมีเดียเพื่อลุ้นรับรางวัล” นายอรรถวุฒิ กล่าว

นายอรรถวุฒิ ย้ำว่า วันนี้การทำตลาดในไทยต้องหันมามองและให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนให้มากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำแอพพลิเคชั่น หรือการนำเทคโนโลยี AR มาใช้ แต่ต้องมองว่าโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งแรก ๆ ที่ต้องให้ความสำคัญในการทำ การตลาด

การนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้งานในด้านการตลาด สำหรับคนไทยต้องทำให้เทคโน โลยีนั้นเข้าใจง่ายเพื่อเข้าถึงได้ง่าย แต่ก็เคยเกิดปัญหาว่าเมื่อเทคโนโลยีล้ำหน้ามาก ๆ ก็อาจเกิดความยากในการเข้าถึง”

ทั้งนี้ เมื่อเทียบมูลค่างบประมาณที่บริษัทต่าง ๆ หันมาใช้ทุ่มด้านสื่อดิจิตอล นายอรรถวุฒิ กล่าวว่า ผู้บริโภคและผู้ผลิตที่ดูด้านการตลาดหันมาใช้งานสื่อดิจิตอลมากขึ้น เช่น โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์พีซี เพื่อทำกิจกรรมผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยปี ที่แล้วงบประมาณที่บริษัทผู้ผลิตสินค้าแบ่งมาเป็นงบด้านการตลาดดิจิตอลอยู่ที่ 5% ของงบประมาณทางด้านการตลาด ซึ่งปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% เนื่องจากผู้ผลิตสินค้าต่าง ๆ เห็นแล้วว่าผู้บริโภคหันมาเล่นกิจกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการ ทำตลาดดิจิตอลในบางสินค้าและบางกลุ่มเป้าหมายยังต้องทำควบคู่กับสื่ออื่น ๆ เพื่อให้การเข้าถึงครอบคลุม

สำหรับน้ำชาเขียวยี่ห้อหนึ่งที่กำลังใช้เทคโนโลยี AR มาสร้างความฮือฮา โดยเป็นการต่อยอดให้ผู้บริโภคที่ชอบส่งรหัสใต้ฝาได้ดาวน์โหลดโมบายแอพ ซึ่งรองรับทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และไอโอเอส เพื่อใช้สแกนฝาแล้วจะปรากฏภาพรถที่ซิ่งทะลุออกมาจากฝา

อยากรู้จักและสัมผัสเทคโนโลยี AR แบบใกล้ชิดต้องลองใช้งานดู แต่ที่แน่ ๆ วันนี้กลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนกลายเป็นที่จับจ้องและสนใจของนักการตลาดออนไลน์เป็นอย่างมาก.

นํ้าเพชร จันทา

@phetchan

ที่มา เดลินิวส์
วันพุธ 1 เมษายน 2558