หัวเว่ยเผยรายได้ปี 2557 รวม 46.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

[brid.ladawan]

หัวเว่ยเผยรายได้ปี 2557 รวม 46.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

หัวเว่ยประกาศผลประกอบการประจำปี 2557มีรายได้รวมทั้งสิ้น 46.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1เม.ย.)หัวเว่ยประกาศผลประกอบการประจำปี2557ที่ผ่านการตรวจสอบทางบัญชีโดยบริษัทKPMGโดยรายได้และกำไรสุทธิของปี2557ในทุกกลุ่มธุรกิจมีผลประกอบการทางการเงินเติบโตขึ้นอย่างมากบริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น46.5พันล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.6จากปี2556และผลกำไรสุทธิรวมอยู่ที่4.5พันล้านเหรียญสหรัฐสูงกว่าปีก่อนถึงร้อยละ32.7

มร.เคนหู รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและซีอีโอหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย กล่าวว่า ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปี2557เป็นผลมาจากการมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นในด้านการรับส่งข้อมูลการประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูลให้แก่ลูกค้าในขณะเดียวกันกำไรที่เพิ่มขึ้นก็เป็นผลมาจากการบริหารจัดการและการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในองค์รวมของบริษัทนอกจากนี้ด้วยการทุ่มงบประมาณการลงทุนในนวัตกรรมคลาวด์คอมพิวติ้ง,บิ๊กดาต้า,5G, SDN และNFVเชื่อว่าพร้อมกับทุกโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้างในช่วงของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัล

สำหรับผลงานอันโดดเด่นของกลุ่มธุรกิจหัวเว่ยในปี 2557คือกลุ่มโทรคมนาคม รายได้เติบโตขึ้นร้อยละ16.4%รวมทั้งสิ้น31พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งการติดตั้งอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ทั่วโลกเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก,กลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์รายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.3รวม3พันล้านเหรียญสหรัฐโดยเน็ตเวิร์คและไอทีซึ่งรวมถึง โซลูชั่นคลาวด์ดาต้าเซ็นเตอร์และอไจล์เน็ตเวิร์คเติบโตขึ้นอย่างมากและกลุ่มคอนซูเมอร์ มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ32.6รวม12พันล้านเหรียญสหรัฐเนื่องจากความต้องการสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเกิดใหม่ที่ความต้องการสมาร์ทโฟนมีสูงมาก

มร.หูกล่าวว่า ในปี 2558เทคโนโลยีICTโดยเฉพาะบรอดแบนด์คลาวด์คอมพิวติ้ง บิ๊กดาต้าและ Internetof Things (IoT)จะกลายเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดการพลิกโฉมอุตสาหกรรมต่างๆหัวเว่ยจะยังคงมุ่งเน้นที่PipeStrategy เพื่อสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าของเราและด้วยความมุ่งมั่นของพนักงานหัวเว่ยได้กลายเป็นพันธมิตรสำคัญของผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคมสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตเป็นผู้นำในการจัดหาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีสำหรับองค์กรและเป็นแบรนด์ชั้นนำสำหรับสมาร์ทดีไวซ์ที่ผู้บริโภคเชื่อใจและเลือกใช้


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 1 เมษายน 2558